กองทัพอิสราเอลระบุว่ามีนักรบปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย เมื่อวันเสาร์ (10 ส.ค.) ในเหตุโจมตีช่วงรุ่งสางถล่มเขตล้อมรั้วโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งหน่วยกู้ภัยรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 93 ราย ตัวเลขความสูญเสียที่เรียกเสียงโวยวายจากนานาชาติ
ถ้อยแถลงของกองทัพอิสราเอลระบุว่า "สามารถยืนยันได้ในเวลานี้ว่า มีนักรบฮามาสและญิฮาดอิสลาม 19 รายถูกกำจัด ในการโจมตีเล่นงานโรงเรียนศาสนาอัล-ทาบีอีน" พร้อมบอกต่อว่าพวกนักรบปฏิบัติการมาจากศูนย์บัญชาการฮามาสและศูนย์ควบคุมที่ตั้งอยู่ภายในเขตรั้วของโรงเรียน เพื่อวางแผนโจมตีอิสราเอลและกองกำลังด้านความมั่นคงอิสราเอล"
"การโจมตีครั้งนี้ดำเนินการโดยใช้กระสุนที่แม่นยำ 3 นัด" ถ้อยแถลงระบุ พร้อมกล่าวต่อว่า "การโจมตีไม่ก่อความเสียหายร้ายแรงใดแก่เขตรั้วโรงเรียน บริเวณที่พวกก่อการร้ายหลบซ่อนอยู่"
ในอีกถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในเวลาต่อมาในช่วงค่ำวันเสาร์ (10 ส.ค.) กองทัพระบุว่า "มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ อัชราฟ จูดา จะอยู่ที่กองบัญชาการทหาร ณ โรงเรียนอัล-ทาบีอีน ที่เป็นเป้าหมายของเรา" ทั้งนี้ จูดา คือผู้บัญชาการทหารระดับสูงของนักรบญิฮาดอิสลาม "อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า การโจมตีโดนเขาหรือไม่"
ทีมกู้ภัยในกาซาเปิดเผยว่าเหตุโจมตีดังกล่าว สังหารผู้คนไปมากถึง 93 ราย ในนั้นรวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตัวเลขความสูญเสียที่เรียกเสียงประณามจากนานาชาติ แม้อิสราเอลอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานพวกนักรบ
เอเอฟพีไม่สามารถยืนยันอย่างเป็นอิสระต่อตัวเลขผู้เสียชีวิต แต่หากได้รับการยืนยัน มันจะกลายเป็นการโจมตีครั้งเดียวที่ก่อความสูญเสียมากที่สุดหนหนึ่งในสงครามระหว่างอิสราเอลกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ลากยาวมานานกว่า 10 เดือน นับตั้งแต่พวกฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มโรงเรียนสอนศาสนาอัล-ทาบีอีนและมัสยิด เรียกเสียงประณามจากทั่วตะวันออกกลางและอื่นๆ เช่นเดียวกับเสียงเรียกร้องสำหรับข้อตกลงหยุดยิง หลังจากบรรดาคนกลางนานาชาติได้เชิญคู่สงครามกลับสู่โต๊ะเจรจา เพื่อมุ่งหน้าสู่ข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันที่เสาะแสวงหากันมาช้านาน
มาห์มูด บาสซาล โฆษกสำนักงานป้องกันพลเรือน เปิดเผยว่ามีเด็ก 11 ราย และผู้หญิง 6 คน ในบรรดาผู้คน 93 ราย ที่เสียชีวิต ณ โรงเรียน ซึ่งถูกปรับเป็นศูนย์พักพิงแห่งนี้ และมีหลายศพที่ไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ได้ "พวกเขาหย่อนขีปนาวุธลงใส่พวกเขา ระหว่างที่พวกเขาเพิ่งสวดมนต์" ผู้หญิงรายหนึ่งกล่าวทั้งน้ำตา นั่งกอดร่างไร้วิญญาณของเด็กคนหนึ่งที่ถูกคลุมด้วยถุงพลาสติกสีดำ
พวกนักรบฮามาสประณามว่ามันเป็น "สถานการณ์ที่ลุกลามที่เป็นอันตราย" ส่วนกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรเลบานอนของฮามาส เรียกมันว่าเป็น "การสังหารหมู่อันน่าสยดสยอง"
อิหร่านซึ่งสนับสนุนนักรบทั้ง 2 กลุ่มและกล่าวหาอิสราเอลต้องการแผ่ลามสงครามไปทั่วตะวันออกกลาง ตามหลังเหตุลอบสังหารบุคคลสำคัญในเตหะรานและเบรุตเมื่อเร็วๆ นี้ ประณามในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "การโจมตีอันโหดร้ายป่าเถื่อน"
ประชาชนเกือบทั้ง 2.4 ล้านคนของฉนวนกาซา ต่างเคยไร้ถิ่นพักอาศัยในช่วงระหว่างสงคราม จำนวนมากต้องไปหลบภัยตามอาคารโรงเรียนต่างๆ ทว่าโรงเรียนกลับตกเป็นเป้าหมายโจมตีของอิสราเอลมาแล้วอย่างน้อย 14 ครั้ง นับเฉพาะตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมเป็นต้นมา
อิสราเอลกล่าวหาแบบเดิมๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธภายในโรงเรียน ตามหลังปฏิบัติการโจมตีโรงเรียนต่างๆ ที่ถูกใช้เป็นที่หลบภัย แม้ฮามาสปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ที่ตั้งทางพลเรือนใดๆ สำหรับเป้าหมายทางทหาร
ฌอน ซาเวตต์ โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บอกว่าฮามาสปฏิบัติการออกมาจากโรงเรียน "แต่อย่างที่เราพูดเน้นย้ำมาตลอดและอย่างต่อเนื่อง ก็คือ อิสราเอลต้องใช้มาตรการต่างๆ เพื่อก่อภัยอันตรายแก่พลเรือนให้น้อยที่สุด"
กระทรวงการต่างประเทศจอร์แดน ระบุว่าช่วงเวลาของการโจมตี บ่งชี้ว่าอิสราเอลมีความพยายามเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามล่าสุดของคนกลาง ขณะที่ กาตาร์ อีกหนึ่งคนกลางเจรจา เรียกร้องให้นานาชาติเปิดการสืบสวนอย่างเร่งด่วน ขณะที่ ตุรกี อ้างว่า เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ต้องการบ่อนทำลายการเจรจาหยุดยิง
ปฏิบัติการจู่โจมอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดของพวกนักรบฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ได้สังหารผู้คนไป 1,198 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และโหมกระพือสงคราม นอกจากนี้แล้วพวกนักรบปาเลสไตน์ยังจับตัวประกันไปอีกประมาณ 251 คน ในนั้น 111 คน ยังคงถูกควบคุมตัวในกาซา แต่กองทัพอิสราเอลเชื่อว่า ในนั้น 39 ราย เสียชีวิตแล้ว
กองทัพอิสราเอลแก้แค้นด้วยการเปิดปฏิบัติการทางทหารบุกฉนวนกาซา สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 39,790 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน
โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป บอกว่าเหตุโจมตีโรงเรียนทำให้เขารู้สึก "ขนลุกขนพอง" ส่วนฝรั่งเศส ระบุว่าอิสราเอลจำเป็นต้องเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ "เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว อาคารโรงเรียนตกเป็นเป้าหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราไม่อาจอดทนได้กับจำนวนพลเรือนที่ต้องตกเป็นเหยื่อ"
(ที่มา : เอเอฟพี)