ชายวัย 36 ปีรายหนึ่งจากเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ถึงกับช็อกหลังพบว่าเลือดของตัวเองกลายเป็นสีเขียว ผลจากการดื่มแอลกอฮอล์เกือบทุกวันมาเป็นเวลานานหลายปี
เรื่องราวนี้เกิดขึ้น หลังจากชายคนหนึ่งนามว่าเฉิน เดินทางไปยังโรงพยาบาล หลังจากมีอาการผิวหนังและดวงตากลายเป็นสีเหลือง และระดับพลังงานลดลงอย่างมาก เขาอาเจียนบ่อยครั้ง และหายใจลำบาก
ตามรายงานของเว็บไซต์ CTWant ระบุว่า ระหว่างที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เขาถูกตรวจพบป่วยเป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต 4 โรค
ก่อนหน้าการวินิจฉัย หมอได้ทำการตรวจเลือดเขา และพบว่าเลือดของเขากลายเป็นสีเขียวชานม
ด้วยระดับโคเลสเตอรอลที่สูงถึง 227umol/L และระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ 17.8mmol/L ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 เท่า ผลการวินิจฉัยขั้นสุดท้ายจึงสรุปได้ว่า เฉิน ป่วยเป็นโรคดีซ่านอันเนื่องจากโรคตับอักเสบเฉียบพลัน โรคตับจากแอลกอฮอล์ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด และภาวะไขมันในเลือดสูง
เป็นที่เข้าใจว่าเลือดของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว สืบเนื่องจากตับได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงอันเนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นเวลานาน และจากภาวะไขมันในเลือดสูง ผลจากการไม่ควบคุมการดื่มกิน
ก่อนหน้าที่จะมีคำวินิจฉัยออกมา เฉิน บอกว่า "ผมคงไม่กล้ากินหรือดื่มมากเกินไปในอนาคต" แต่หลังจากเข้ารักษาตัวมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ท้ายที่สุดแล้ว เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า "ผมจะไม่มีวันดื่มอีกแล้ว"
(ที่มา : เวิลด์ออฟบัซ)