xs
xsm
sm
md
lg

โดนเองแล้ว! รัสเซียประกาศภาวะฉุกเฉิน-2 ฝ่ายอพยพหลายพัน หลังยูเครนจู่โจมข้ามชายแดนเข้าสู่วันที่ 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัสเซียในวันพุธ (7 ส.ค.) ต่อสู้สกัดการรุกรานข้ามชายแดนจากยูเครนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ถือเป็นการโจมตีเล่นงานดินแดนของรัสเซียโดยกองกำลังเคียฟครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือน กระตุ้นให้ทั้ง 2 ชาติต้องอพยพพลเรือนหลายพันคน

ขณะเดียวกัน รัสเซียได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับท้องถิ่นในแคว้นคูสค์ ในช่วงเย็นวันพุธ (7 ส.ค.) ราว 36 ชั่วโมงหลังจากทหาร รถถังและยานเกราะของยูเครนบุกจู่โจมแคว้นชายแดนทางใต้ของประเทศ

มอสโกเผยว่าพวกเขาใช้แสนยานุภาพทางอากาศและปืนใหญ่สกัดการโจมตีตลอดทั้งวันพุธ (7 ส.ค.) หลังจากรุดเสริมกำลังเข้าไปยังภูมิภาค ในความพยายามสกัดการรุกคืบของยูเครน

แม้การปะทะผ่านพ้นไป 2 วันแล้ว แต่ขอบเขตความเสียหายและยูเคนรุกคืบเข้าไปได้ลึกแค่ไหนยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่รายงานข่าวจากยูเครนและบล็อกเกอร์ทหารรัสเซียบ่งชี้ว่าเคียฟรุกคืบได้หลายกิโลเมตร

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกว่ายูเครนโจมตีใส่อาคารพลเรือนและรถฉุกเฉินโดยไม่เลือก ขณะที่ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซียประกาศบดขยี้การรุกราน "รัฐบาลเคียฟดำเนินการยั่วยุครั้งใหญ่อีกรอบ" ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมร่วมกับพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์

อเล็กเซ ซมินอฟ ผู้ว่าการแคว้นคูสค์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงเย็นวันพุธ (7 ส.ค.) ความเคลื่อนไหวที่มอบอำนาจแก่พวกเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม ในการดึงสถานการณ์กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุม

มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และบาดเจ็บ 31 คน ในนั้นเป็นเด็ก 6 ราย นับตั้งแต่การรุกรานของยูเครนเริ่มต้นขึ้น จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัสเซียเมื่อวันพุธ (7 ส.ค.)

จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยว่า วอชิงตันกำลังติดต่อไปยังพวกเจ้าหน้าที่ยูเครน เพื่อรับรู้เข้าใจสถานการณ์ดีกว่าเดิม พร้อมเน้นว่า "ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในนโยบายของเรา และยูเครนสามารถใช้อาวุธที่ได้รับการจัดหาจากสหรัฐฯ เพียงเล็งเป้าหมายเล่นงานภัยคุกคามอย่างปัจจุบันทันด่วนตามแนวชายแดนเท่านั้น"

พวกเจ้าหน้าที่ในแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับแคว้นคูสค์ แถลงว่ากำลังทำการอพยพประชาชนราว 6,000 ราย ขณะเดียวกันก็มีผู้คนอีกหลายพันคนอพยพออกจากแคว้นคูสค์เช่นกัน

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของรัสเซีย เผยว่าได้เสริมการป้องกันสถานีไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์คูสค์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนเพียง 60 กิโลเมตร ขณะที่ วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานเสนาธิการทหารรัสเซีย บอกว่ามีพวกนักรบจากยูเครนราว 1,000 คน ที่เกี่ยวข้องกับการจู่โจม และกองกำลังรัสเซียสามารถสกัดพวกเขาจากการรุกคืบลึกเข้าไปในแคว้นคูสค์ "ปฏิบัติการจะสิ้นสุดด้วยความพ่ายแพ้ของศัตรู และผลักดันพวกเขากลับไปยังชายแดนของประเทศ"

ยูเครนไม่ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการรุกราน ซึ่งถือเป็นการโจมตีข้ามชายแดนครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือน แต่ทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในวันพุธ (7 ส.ค.) กล่าวขอบคุณทหารยูเครนสำหรับความ "กล้าหาญ" ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์

"ยิ่งเรากดดันรัสเซียมากเท่าไหร่ เราก็จะเข้าใกล้ได้รับสันติภาพมากเท่านั้น สันติภาพต้องดำเนินการผ่านการใช้กองกำลัง" เขากล่าว

ปูติน เมื่อเดือนพฤษภาคม เปิดปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งใหม่เข้าสู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ในความพยายามสร้างสิ่งที่เขาเรียกว่าแนวกันชนด้านความปลอดภัย เพื่อปกป้องแคว้นต่างๆ ของรัสเซียที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน

ปฏิบัติการจู่โจมดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่แคว้นคาร์คิฟของยูเครน ไปจนถึงแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการโจมตีข้ามชายแดนของฝ่ายยูเครนเมื่อวันอังคาร (6 ส.ค.)

อย่างไรก็ตาม การโจมตีใส่ดินแดนของรัสเซียยังคงเกิดขึ้นไม่หยุด โดยเฉพาะในแคว้นเบลโกรอด ที่ต้องประกาศว่าหมู่บ้านหลายสิบแห่งใกล้ชายแดนเป็นเขตห้ามเข้า สืบเนื่องจากการยิงปืนใหญ่ถล่มในเดือนกรกฎาคม

ยูเครนกล่าวซ้ำๆ ว่าพวกเขามองว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการพื้นฐานของพลเรือนภายในดินแดนรัสเซีย เป็นการตอบโต้ที่ชอบธรรมต่อปฏิบัติการรุกรานทางทหารเต็มรูปแบบของมอสโก

(ที่มา : เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น