ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร (6 ส.ค.) จากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน นักลงทุนหันความสนใจไปที่อุปทานตึงตัว ส่วนวอลล์สตรีทฟื้นตัว ท่ามกลางแรงช้อนซื้อ ขณะที่ทองคำปรับลดจากการแข็งค่าของดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ ปิดที่ 73.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 76.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความกังวลทางอุปทานมีขึ้นตามหลังอิหร่าน ประกาศแก้แค้นอิสราเอลและสหรัฐฯ เอาคืนกรณีลอบสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธ 2 ราย ซึ่งโหมกระพือความกังวลว่าสงครามอาจลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังผลิตน้ำมันดิบในภูมิภาคแห่งนี้
ขณะเดียวกัน การปรับลดกำลังผลิต ณ บ่อน้ำมันชาราราของลิเบีย 300,000 บาร์เรลต่อวัน ก็ซ้ำเติมความกังวลอุปทานขาดแคลนเช่นกัน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียเมื่อวันอังคาร (6 ส.ค.) ระบุว่าจะเริ่มปรับลดกำลังผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปสืบเนื่องจากการประท้วง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรงในวันอังคาร (6 ส.ค.) จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังมีการเทขายอย่างหนักหลายวัน เช่นเดียวกับความเห็นของพวกเจ้าหน้าที่เฟดเมื่อเร็วๆ นี้ที่คลายกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 294.39 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 38,997.66 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 53.70 จุด (1.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,240.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 166.78 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,366.86 จุด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตีโต้กลับความคิดที่ว่าข้อมูลภาคแรงงานที่อ่อนแอเกินคาดในเดือนกรกฎาคม อาจหมายถึงว่าเศรษฐกิจกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอย แต่พวกเขาเตือนว่าเฟดมีความเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงจากแรงช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังจากดิ่งลงหนัก 3 วันติด
ส่วนราคาทองคำปรับลดในวันอังคาร (6 ส.ค.) ถูกฉุดจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการดีดตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 12.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,431.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)