นายกรัฐมนตรีหญิง ชัยค์ ฮาสินา ผู้ปกครองบังกลาเทศมาอย่างยาวนานถึง 15 ปี ประกาศลาออกและหลบหนีออกนอกประเทศแล้วเมื่อวันจันทร์ (5 ส.ค.) ภายหลังเผชิญการลุกฮือของกลุ่มผู้ประท้วงที่ถูกปราบปรามอย่างนองเลือดมากว่า 1 เดือนโดยมีรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพนำอดีตผู้นำไปส่งที่อินเดีย ขณะที่ผู้บัญชาการทหารประกาศจะจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว
ฮาสินา พยายามหาทางหยุดยั้งการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของเธอที่ลุกลามไปทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่แล้วเธอก็ต้องหลบหนีออกจากประเทศ ภายหลังเกิดความไม่สงบที่โหดร้ายนองเลือดที่สุดในวันอาทิตย์ (4) ซึ่งมีผู้ถูกสังหารไปเกือบ 100 คน
พลเอกวาเคอร์ อุซ ซามาน ผู้บัญชาการทหารบกบังกลาเทศ กล่าวปราศรัยทางทีวีในวันจันทร์ว่า ฮาสินา วัย 76 ปี ได้ลาออกและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว และกองทัพจะหารือกับประธานาธิบดีเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเขาจะรับหน้าที่ผู้นำรัฐบาลหรือไม่
ผู้บัญชาการทหารบกของบังกลาเทศเสริมว่า ประเทศชาติบอบช้ำมามาก เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และประชาชนมากมายเสียชีวิต ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะยุติความรุนแรง พร้อมแสดงความหวังว่า สถานการณ์จะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้เขาออกมาปราศรัยเช่นนี้ ในเวลาไม่นานนักหลังจากฝูงชนซึ่งอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นยินดีพากันบุกตะลุยเข้าไปและฉกชิงข้าวของต่างๆ ในทำเนียบที่พำนักของฮาสินา
วาเคอร์ยังบอกอีกว่า ได้หารือกับพรรคฝ่ายค้านสำคัญและสมาชิกประชาสังคม แต่ไม่ได้หารือกับพรรคสันนิบาตอวามีซึ่งเป็นพรรคการเมืองของฮาสินา
ทางด้านสื่อรายงานว่า ฮาสินาที่กุมอำนาจมานานถึง 15 ปี หนีออกจากประเทศหลังผู้ประท้วงบุกเข้าไปในทำเนียบกานาบาบัน ซึ่งเป็นที่พักอย่างเป็นทางการของเธอ และเดินทางพร้อมกับพี่สาวด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพมุ่งหน้าไปยังอินเดีย ขณะที่สถานีทีวีซีเอ็นเอ็น นิวส์ 18 รายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ของอดีตนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศลงจอดที่อัครตละ เมืองเอกของรัฐตริปุระ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
ขณะเดียวกัน ภาพข่าวทีวีเผยให้เห็นชาวบังกลาเทศนับหมื่นนับแสนพร้อมใจออกไปฉลองบนท้องถนนในกรุงธากา นอกจากนี้ ยังมีฝูงชนจำนวนมากบุกเข้าไปในทำเนียบกานาบาบันที่เคยเป็นหนึ่งในอาคารที่มีการอารักขาเข้มงวดที่สุดในประเทศ พร้อมตะโกนคำขวัญ ชูกำปั้นและสัญลักษณ์แสดงชัยชนะ และบางส่วนช่วยกันขนทีวี หนังสือ และเฟอร์นิเจอร์ออกไป
ผู้ประท้วงในธากายังปีนขึ้นไปใช้ขวานทำลายรูปปั้นของ ชัยค์ มูจิบูร์ เราะห์มาน บิดาของฮาสินา ซึ่งเป็นผู้นำการต่อสู้ประกาศเอกราชของบังกลาเทศ โดยแยกตัวออกจากปากีสถาน
ก่อนหน้านั้น กลุ่มนักศึกษาเรียกร้องให้ประชาชนออกไปเดินขบวนในธากาในวันจันทร์ เพื่อท้าทายมาตรการเคอร์ฟิวของรัฐบาลและกดดันให้ฮาสินาลาออก หลังจากมีการปะทะนองเลือดทั่วประเทศในวันอาทิตย์ (4) ระหว่างกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่ใช้ไม้และมีดเป็นอาวุธ รวมทั้งมีการปราบปรามจากกองกำลังความมั่นคง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 94 คน รวมถึงตำรวจ 14 นาย เพิ่มเติมจากเกือบ 200 คนที่เสียชีวิตในการปราบปรามการประท้วงตลอดเดือนกรกฎาคม
รายงานระบุว่า ทหารและตำรวจพร้อมรถหุ้มเกราะได้พยายามปิดเส้นทางไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อเช้าวันจันทร์ แต่ฝูงชนจำนวนมากชุมนุมเต็มท้องถนนและทำลายสิ่งกีดขวาง
หนังสือพิมพ์บิสซิเนส สแตนดาร์ดประเมินว่า มีผู้ประท้วงถึง 400,000 คน ขณะที่หนังสือพิมพ์เดลี่ สตาร์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงในย่านจาตราบารี และวิทยาลัยแพทย์ธากาอย่างน้อย 6 คนในวันจันทร์
การประท้วงรัฐบาลฮาสินาครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมจากความไม่พอใจที่รัฐบาลนำระบบโควตากลับมาใช้เพื่อสงวนตำแหน่งงานภาครัฐไว้ให้บุคคลบางกลุ่ม ทว่า แม้ระบบดังกล่าวได้ถูกศาลสูงตัดสินสั่งยกเลิกแล้ว แต่การประท้วงได้พัฒนาเป็นการเรียกร้องให้ฮาสินาลาออก
นอกจากนั้น อดีตผู้บัญชาการทหารที่เป็นที่เคารพรักของบังกลาเทศ ยังได้เรียกร้องก่อนหน้านี้ให้รัฐบาลถอนทหารออกจากการเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงในทันที และอนุญาตให้ประชาชนชุมนุมประท้วง
รัฐบาลภายใต้การนำของฮาสินา ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในบังกลาเทศ 4 ครั้งรวด โดยในครั้งหลังสุดคือเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายค้านพากันบอยคอตต์การเลือกตั้ง จึงถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่าใช้สถาบันรัฐเพื่อยึดกุมอำนาจและปราบปรามฝ่ายตรงข้าม ซึ่งรวมถึงการวิสามัญฆาตกรรมนักเคลื่อนไหวที่เป็นฝ่ายค้าน
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)