เอเจนซีส์ - ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ ร่วงอย่างหนักในวันจันทร์ (5 ส.ค.) เป็นส่วนหนึ่งของการตกลงมาของตลาดทั่วโลกจากความวิตกว่าสหรัฐฯ กำลังจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ตลาดหุ้นนิกเกอิของญี่ปุ่นตกไป 12.4% ร้ายแรงมากที่สุดตั้งแต่วัน Black Monday ของวอลล์สตรีทเมื่อปี 1987 Berkshire Hathaway ของมหาเศรษฐีอเมริกัน วอร์เรน บัฟเฟตต์ เทขายหุ้นบริษัทแอปเปิลครั้งใหญ่ถือเงินสดในมือ
NBC News รายงานวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ DJIA ตกไปกว่า 1,100 จุด หรือราว 2.7% เมื่อช่วงเปิดตลาดการซื้อขายวันจันทร์ (5)
ขณะที่ดัชนี S&P 500 ตกไป 180 จุด หรือราว 3.3% ส่วนดัชนีคอมโพสิต แนสแดค (Nasdaq Composite) ตกไป730 จุด หรือราว 4.3%
ตลาดในเอเชียสั่นสะเทือนเช่นกัน ตลาดหุ้นนิกเกอิของญี่ปุ่นตกไป 12.4% ร้ายแรงมากที่สุดนับตั้งแต่วัน Black Monday ของวอลล์สตรีทเมื่อปี 1987
บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า ตลาดดัชนี FTSE100 ของลอนดอนตกไป 2.8% ในวันจันทร์ (5) ท่ามกลางความวิตกกังวลอย่างหนักว่าสหรัฐฯ กำลังจะเข้าสู่สภาพเศรษฐกิจถดถอย หลังข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แย่กว่าที่คาดก่อนหน้ารวมรายงานจ้างงานและตัวเลขว่างงานในวันศุกร์ (2) ยิ่งเพิ่มการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังจะช้าลง
บริษัท Berkshire Hathaway ของมหาเศรษฐีอเมริกัน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่อยู่เบื้องหลังค่ายรถไฟฟ้าจีน BYD คู่แข่งค่ายรถเทสลาของ อีลอน มัสก์ เป็นเสือปืนไวเทขายหุ้นส่วนใหญ่ของแอปเปิลเพื่อถือเงินสดในมือ
รอยเตอร์รายงานวันเสาร์ (3) ว่า พบว่าบริษัทขายหุ้นแอปเปิลไปร่วม 390 ล้านหุ้นในไตรมาสที่ 2 ขณะที่หุ้นแอปเปิลราคาปรับสูงขึ้น 23% แต่ Berkshire Hathaway มาจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. พบว่ายังคงถืออยู่อีกราว 400 ล้านหุ้น มูลค่า 84.2 พันล้านดอลลาร์
บริษัทของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เร่งเพิ่มเงินสดถือในมือมาอยู่ที่ 227 พันล้านดอลลาร์ สร้างความวิตกว่าอาจเป็นสัญญาณส่งออกมาจากมุมมองของบริษัทต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ