กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ในวันจันทร์ (29 ก.ค.) เรียกร้ององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ขับไล่ตุรกีพ้นจากสมาชิก หลังประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ขู่บุกเข้าไปในอิสราเอล แบบเดียวกับที่เคยทำในอดีตในลิเบีย และนากอร์โน-คาราบัค
"ตามหลังคำขู่ของประธานาธิบดีแอร์โดอันของตุรกี ต่อการบุกอิสราเอล และโวหารที่เป็นอันตรายของเขา ท่านอิสราเอล คาตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้ออกคำสั่งให้บรรดาผู้แทนทูตติดต่อกับทุกรัฐสมาชิกนาโตเป็นการเร่งด่วน เรียกร้องให้ประณามตุรกี และเรียกร้องให้ขับไล่พวกเขาออกจากพันธมิตรระดับภูมิภาค"
แอร์โดอัน ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดต่อสงครามของอิสราเอลในกาซา กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) ว่า "เราจำเป็นต้องมีความเข้มแข็งอย่างมาก เพื่อที่อิสราเอลจะไม่สามารถทำในสิ่งไร้สาระกับชาวปาเลสไตน์ แบบเดียวกับที่เราเข้าไปยังคาราบัค แบบเดียวกับที่เราเข้าไปยังลิเบีย เราอาจทำแบบเดียวกันกับพวกเขา"
ทั้งนี้ แอร์โดอัน กล่าวกับที่ประชุมพรรคเอเคของเขา ที่เมืองริเซ บ้านเกิดเมืองนอนต่อไปอีกว่า "ไม่มีเหตุผลว่าทำไมเราถึงจะทำสิ่งนี้ไม่ได้ เราต้องแข็งแกร่ง เพื่อที่เราจะสามารถใช้ก้าวย่างต่างๆ เหล่านี้" เขาระบุ แต่ไม่ได้บ่งชี้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะการเข้าแทรงแซงที่เขาพูดถึง
"แอร์โดอัน กำลังเดิมตามรอยเท้าของซัดดัม ฮุสเซน และกำลังขู่โจมตีอิสราเอล เขาควรพึงระลึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นในนั่น และมันลงเอยอย่างไร" คาตช์ กล่าว "ตุรกี ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการต่างๆ ของฮามาส ที่อยู่เบื้องหลังโจมตีก่อการร้ายเล่นงานอิสราเอล ได้กลายมาเป็นสมาชิกของฝ่ายอักษะแห่งปีศาจของอิหร่าน เช่นเดียวกับ ฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ และพวกฮูตีในเยเมน"
ครั้งหนึ่งอิสราเอลและตุรกีเคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดในภูมิภาค แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเสื่อมทรามลงมานานกว่า 1 ทศวรรษแล้ว
แม้การค้าทวิภาคีสามารถยืนหยัดต้านทานพายุทางการทูตต่างๆ มากมาย แตะระดับหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ในเดือนนี้ ตุรกี เผยว่าพวกเขาจะระงับการค้าทวิภาคีกับอิสราเอลทั้งหมด จนกว่าสงครามจะจบลงและความช่วยเหลือสามารถไหลบ่าเข้าสู่ฉนวนกาซาแบบไม่ติดขัด
(ที่มา : รอยเตอร์)