ทีมหาเสียงของ กมลา แฮร์ริส ประกาศวานนี้ (28 ก.ค.) ว่าสามารถระดมเงินบริจาคได้สูงถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7,168 ล้านบาท และมีอาสาสมัครช่วยหาเสียงเพิ่มขึ้น 170,000 คน ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่ประกาศตัวลงชิงผู้แทนพรรคเดโมแครตแทนที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ขณะที่พรรครีพับลิกันก็ยังคงเดินหน้าโจมตีผลงานต่างๆ ของ แฮร์ริส ในฐานะรองประธานาธิบดี
ไบเดน ตัดสินใจถอนตัวจากศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21 ก.ค. และประกาศสนับสนุน แฮร์ริส เป็นผู้แทนพรรคคนใหม่ เพื่อลงชิงชัยกับอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันในวันที่ 5 พ.ย.
“ในช่วง 1 สัปดาห์แรกที่เราเริ่มต้น @KamalaHarris สามารถระดมทุนได้แล้ว 200 ล้านดอลลาร์ โดย 66% มาจากผู้บริจาครายใหม่ๆ เรายังมีคนเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเพิ่มถึง 170,000 คน” ร็อบ ฟลาเฮอร์ตี รองผู้จัดการทีมหาเสียงของแฮร์ริส โพสต์ข้อความผ่าน X
ผลสำรวจความคิดเห็นโดยรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วพบว่า แฮร์ริส และ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมตีคู่สูสี ซึ่งทำให้การหาเสียงในช่วง 100 วันสุดท้ายก่อนศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ น่าจะทวีความดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ
ทีมหาเสียง ทรัมป์ ประกาศเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. ว่าสามารถระดมเงินบริจาคได้ 331 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งสูงกว่าวงเงินบริจาค 264 ล้านดอลลาร์ที่ทีมงาน ไบเดน หาได้ในช่วงเวลาเดียวกัน
ทีมหาเสียงของ ทรัมป์ มีเงินสดอยู่ในมือ 284.9 ล้านดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ขณะที่ฝ่าย ไบเดน มีอยู่ 240 ล้านดอลลาร์
แฮร์ริส ได้รับคำมั่นสัญญาสนับสนุนจากผู้แทนออกเสียง (delegates) ส่วนใหญ่ของพรรคเดโมแครต และมีแนวโน้มสูงมากที่เธอจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนพรรคอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต (Democratic National Convention) ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า
“เนื่องจากรองประธานาธิบดีเป็นผู้แทนพรรคโดยสันนิษฐาน เราจะมีการโหวตอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ส.ค.” เจมี แฮร์ริสัน ประธานคณะกรรมการพรรคเดโมแครตแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับ MSNBC เมื่อวันอาทิตย์ (28)
ผลสำรวจพบว่า ทรัมป์ สร้างฐานคะแนนนิยมแซงหน้า ไบเดน ในบรรดารัฐสมรภูมิ (battleground states) หลังจากที่ ไบเดน โชว์ผลงานดีเบตสุดย่ำแย่เมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม การเดินเข้าสู่สนามแข่งขันของ แฮร์ริส กำลังทำให้พลวัตนี้เปลี่ยนแปลงไป
โพลระดับชาติของ New York Times/ Siena College ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (25) พบว่า แฮร์ริส เริ่มเป็นฝ่ายทำคะแนนนิยมตีตื้นขึ้นมา ขณะที่โพลของวอลล์สตรีทเจอร์นัลที่ออกเมื่อวันศุกร์ (26) พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำ แฮร์ริส อยู่เพียง 2 จุด ส่วนโพลรอยเตอร์/อิปซอสที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ให้ แฮร์ริส เป็นฝ่ายนำ ทรัมป์ อยู่ 2 จุด
แฮร์ริส ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีผู้หญิงเชื้อสายเอเชียใต้และผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ตกเป็นเป้าโจมตีจากพรรครีพับลิกันหนักขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ตัวเธอเองก้าวขึ้นมาเป็นผู้แทนโดยสันนิษฐานของพรรคเดโมแครต หนึ่งในนั้นคือถ้อยคำโจมตีจาก รอน เดอแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ที่ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า แฮร์ริส เป็นคน “จืดชืดอย่างไม่น่าเชื่อ” และทำนายว่าพวกเดโมแครตจะ “สรรหาเรื่องโกหกต่างๆ นานา” เพื่อทำให้ดูเหมือนว่า แฮร์ริส ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายผู้อพยพและปัญหาอื่นๆ ที่รัฐบาล ไบเดน สร้างขึ้น
“พวกเขาจะต้องพยายามฟอกขาวประวัติให้กับแฮร์ริส เพื่อให้เธอดูดีขึ้นในสายตาคนอเมริกัน” เดอแซนทิส กล่าว
อย่างไรก็ดี พันธมิตร ทรัมป์ บางคน รวมถึงสมาชิกกลุ่มพันธมิตร ‘Black Americans for Trump’ ได้ออกมาเตือนว่าการสาดสีตีไข่ใส่ แฮร์ริส มากเกินไปอาจทำให้ ทรัมป์ เสียคะแนนนิยมในหมู่คนผิวดำ ซึ่งเป็นฐานประชากรกลุ่มสำคัญในศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย.
ที่มา : รอยเตอร์