อดีตแพทย์ประจำทำเนียบขาวออกมาโต้แย้งข้อสังเกตของผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ที่ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจถูกแค่ “เศษกระสุน” (shrapnel) เจาะที่ใบหูขวา ไม่ใช่กระสุนปืน (bullet) อย่างที่เข้าใจกัน ระหว่างเผชิญความพยายามลอบสังหารที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
เรื่องที่ ทรัมป์ ถูกกระสุนปืนเจาะเข้าที่ใบหูและหลีกพ้นความตายมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด กลายเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ผู้นำสายรีพับลิกันรายนี้หยิบยกมาใช้ในแคมเปญหาเสียง ขณะที่ผู้สนับสนุนหลายคนก็เชื่อว่าการรอดชีวิตของ ทรัมป์ ในครั้งนี้เป็นความช่วยเหลือจาก “พระเจ้า”
“ผมรับกระสุนครั้งนี้เพื่อประชาธิปไตย” ทรัมป์ บอกกับแฟนคลับในงานปราศรัยหาเสียงที่เมืองแกรนด์แรพพิดส์ รัฐมิชิแกน เมื่อวันที่ 20 ก.ค.
ล่าสุด นพ.รอนนี แจ็คสัน ซึ่งเคยเป็นแพทย์ประจำตัวของ ทรัมป์ ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำแถลงชี้แจงเพียง 1 วันหลังจากที่ ทรัมป์ ถูก คริสโตเฟอร์ เรย์ ผอ.เอฟบีไอ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ “ยังสรุปไม่ได้” ว่าสิ่งที่พุ่งกระทบใบหูของอดีตผู้นำสหรัฐฯ เป็นกระสุนปืน เศษกระสุน หรือว่าเศษแก้วกันแน่
“ไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่บ่งชี้ว่ามันจะเป็นอย่างอื่นนอกจากกระสุนปืน” แจ็คสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรคนสนิทของทรัมป์ ระบุ
“ผอ.เรย์ ทำไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมที่พยายามออกมาชี้นำสังคมว่ามันอาจจะเป็นอย่างอื่น”
ค่ำวันศุกร์ (26) หลังจากที่ นพ.แจ็คสัน ออกมาพูดแล้วหลายชั่วโมง เอฟบีไอก็ออกมาแถลงแก้เก้อว่า “สิ่งที่กระทบใบหูของอดีตประธานาธิบดี ทรัมป์ คือกระสุนปืนที่ถูกยิงมาจากปืนไรเฟิลของผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกระสุนทั้งนัด หรือเศษกระสุนที่แตกออกก็ตาม”
แจ็คสัน ซึ่งเคยทำงานเป็นแพทย์ในสงครามอิรัก และรักษาคนไข้ที่บาดเจ็บจากการถูกยิงมาแล้วหลายคน รับหน้าที่ติดตามดูแลบาดแผลที่ใบหูของ ทรัมป์ มาตั้งแต่ตอนที่เขาถูกยิงใหม่ๆ
เมื่อวันพฤหัสบดี (25) ทรัมป์ ได้ใช้แพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาโพสต์ข้อความโจมตีสิ่งที่ ผอ.เอฟบีไอออกมาพูด
“ไม่จริง มันคือกระสุน โชคร้ายที่มันคือกระสุนที่ยิงถูกใบหูผม และโดนอย่างจังเลยด้วย ไม่ใช่เศษแก้ว ไม่ใช่เศษกระสุน” ทรัมป์ ระบุ “ไม่น่าแปลกใจเลยที่อเมริกาหมดความเชื่อมั่นในเอฟบีไอ!”
เจสัน มิลเลอร์ โฆษกทีมหาเสียงทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า การพยายามนำเสนอข้อมูลว่า ทรัมป์ ถูกอย่างอื่นที่ไม่ใช่กระสุน “เป็นแผนสมคบคิดที่ไร้สาระมาก”
ทรัมป์ ประกาศวานนี้ (26) ว่ามีแผนจะกลับไปขึ้นเวทีปราศรัยที่เมืองบัตเลอร์อีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้เกียรติแก่ โคเรย์ คอมเปราโตเร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาสาวัย 50 ปีที่ถูกยิงเสียชีวิต รวมถึงผู้สนับสนุนอื่นๆ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบสังหารครั้งนี้ ทว่ายังไม่ประกาศวันเวลาที่แน่นอน โดยขอให้บรรดาแฟนคลับ “รอติดตาม”
ที่มา : รอยเตอร์