xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกรายงาน “เศรษฐา” เต้นสั่งประชุมธนาคารพาณิชย์ไทยด่วน หลัง UN พบใช้เป็นช่องทางการเงินซื้ออาวุธให้ทหารพม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - รัฐบาลนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เตรียมประชุมธนาคารพาณิชย์ไทยและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องสัปดาห์หน้าเพื่อสอบสวนตามรายงานของ UN ระบุธนาคารไทยเป็นช่องทางการทำธุรกรรมการเงินของกองทัพพม่าเป็นหลักในการซื้ออาวุธ ส่วนตัวแทนธนาคารพาณิชย์ไทยแจงรัฐสภาสัปดาห์ที่แล้วอ้าง “ไร้ความสามารถ” ที่จะตรวจธุรกรรมอื้อฉาวได้ทั้งหมด

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (18 ก.ค.) ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ แถลงต่อรัฐสภาในวันพฤหัสบดี (18) ว่า การประชุมร่วมกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในไทยที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 24 ก.ค นี้ เพื่อทำให้มั่นใจว่า ธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดในไทยจะทำตามกระบวนการที่เคร่งครัดและทำให้มั่นใจต่อการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินเหล่านั้น

ทั้งนี้ เป็นการเข้าให้การต่อประธานคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงชาติประจำสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องการคำตอบจากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ในเรื่องข้อกล่าวหาธุรกรรมทางการเงินใช้ซื้ออาวุธให้ทหารพม่าผ่านธนาคารพาณิชย์ไทย

รอยเตอร์รายงานว่า ตัวแทนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยได้เข้าให้การต่อรัฐสภาสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวแทนยืนยันว่าทำตามการกำกับแต่ “ไร้ความสามารถ” ที่จะตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดที่อาจถูกใช้เพื่อซื้ออาวุธ

เป็นคำตอบที่ออกมาต่อรายงานของผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติถึงจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้นผ่านธนาคารไทยในการซื้ออาวุธของรัฐบาลทหารพม่าเพื่อใช้ต่อประชาชน

ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในพม่า ทอม แอนดรูวส์ (Tom Andrews) กล่าวในรายงานพิเศษว่า บริษัทที่จดทะเบียนในไทยได้ใช้ธนาคารท้องถิ่นเพื่อเคลื่อนย้ายเงินสำหรับอาวุธและสิ่งของที่เกี่ยวข้องเพื่อพม่ามูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ในงบการเงินประจำปี 2023 เปรียบเทียบกับมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ของปีก่อนหน้า

ในรายงานผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ธุรกรรมการเงินเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อความพยายามของประชาคมโลกในการโดดเดี่ยวกองทัพพม่า

สหประชาชาติได้เปิดเผยชื่อธนาคารพาณิชย์ในไทยได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย ธนาคารธนชาต และธนาคารกสิกรไทย

CNN เคยรายงานเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า รายงานของผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติภายใต้ชื่อ “Banking on the Death Trade: How Banks and Governments Enable the Military Junta in Myanmar” หรือ “การธนาคารในการค้าความตาย: ธนาคารและรัฐบาลต่างๆ เอื้อรัฐบาลทหารพม่าในพม่าได้อย่างไร”

ตามการรายงานค้นพบว่ามีธนาคาร 16 แห่งใน 7 ประเทศผ่านธุรกรรมทางการเงินเชื่อมโยงกับการจัดหาอาวุธของกองทัพพม่าในปีที่ผ่านมา

อาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีใช้ 2 ด้าน (การพลเรือนและการทหาร) เครื่องมืออุตสาหกรรม และวัตถุดิบที่จัดหาโดยรัฐบาลทหารพม่าจากต่างประเทศแตะ 253 ล้านดอลลาร์ระหว่างเมษายน ปี 2023-มีนาคม ปี 2024

รอยเตอร์รายงานว่า ทั้งนี้ธนาคารชาติได้เคยกล่าวว่า จะพิจารณาร่วมมือกับหน่วยงานระหว่างประเทศและท้องถิ่นสำหรับฐานข้อมูลของบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารพม่า

แอนดรูว์สกล่าวว่า ตามการรายงานของ CNN "แบงก์ต่างชาติทั้งหลายจำเป็นต้องรู้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธุรกรรมการเงินเกี่ยวข้องกับหน่วยงานหรือบริษัทที่มีรัฐบาลพม่าเป็นเจ้าของสามารถถูกใช้เพื่อซื้ออาวุธหรือวัสดุคุณภาพเทียบเท่าอาวุธทำให้กองทุนในการทำสงครามของรัฐบาลรัฐประหารพม่าลุกโชนมากขึ้น”

เขาเตือนว่า “ดังนั้นแล้วไม่สมควรทำธุรกิจกับธนาคารของรัฐบาลพม่า”

ในรายงานระบุว่า บริษัทและธุรกิจที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์เป็นแหล่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหารของทหารพม่า

แต่หลังจากการตรวจสอบของรัฐบาลสิงคโปร์ พบว่าการไหลของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาวุธไปยังพม่าจากบริษัทสิงคโปร์ลดลงเกือบ 90% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า CNN รายงาน

ตามการรายงาน UN พบว่ารัฐบาลทหารพม่าซื้อชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์รุ่น Mi-17 และ Mi-35 ที่ใช้ในการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายพลเรือนนั้นในเวลานี้ถูกจัดหาจากไทย”

ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นหนึ่งในธนาคารเอกชนไทยที่มี “บทบาทสำคัญ” ในการผ่องถ่าย อ้างอิงจากรายงาน โดยในปี 2022 พบว่าธนาคารได้จัดการธุรกรรมทางการเงินมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์เกี่ยวข้องกับกองทัพพม่า และภายในปี 2023 พบว่าตัวเลขเพิ่มมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์


กำลังโหลดความคิดเห็น