เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 9 ราย วันจันทร์ (15 ก.ค.) และอีก 20 คนได้รับบาดเจ็บหลังคาร์บอมบ์โจมตีคาเฟ่ชื่อดังในกรุงโมกาดิชูของโซมาเลีย วันอาทิตย์ (14 ก.ค.) ระหว่างแฟนบอลกำลังใจจดใจจ่อชมนัดการแข่งรอบสุดท้ายของฟุตบอลยูโร 2024 เกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังรัฐบาลรัฐประหารไนเจอร์ มาลี และบูร์กินาฟาโซ ถอนตัวจากกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจรัฐแอฟริกาตะวันตก ECOWAS
เอเอฟพีรายงานวันจันทร์ (15 ก.ค.) ว่า โมอัมเหม็ด ยูซุฟ (Mohamed Yusuf) เจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคงแห่งชาติโซมาเลียแถลงวันจันทร์ (15) ว่า มีพลเรือน 9 รายเสียชีวิตและอีก 20 คนได้รับบาดเจ็บในเหตุคาร์บอมบ์โจมตีในวันอาทิตย์ (15) เพิ่มจากตัวเลขเสียชีวิตทางการก่อนหน้าที่ 5 คน
คาเฟ่ Top Coffee ซึ่งเป็นภัตาคารชื่อดังใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีโซมาเลียในกรุงโมกาดิชู ในช่วงเกิดเหตุเต็มไปด้วยแฟนบอลหนุ่มที่เข้ามาชมการแข่งฟุตบอลยูโร 2024 รอบสุดท้ายซึ่งผลปรากฏว่าอังกฤษพ่ายสเปนไปด้วยคะแนน 2-1
เขาเปิดเผยว่า ส่วนใหญ่สามารถใช้บันไดปีนขึ้นไปและกระโดดข้ามกำแพงด้านหลังหนีเอาตัวรอดสำเร็จ
เอเอฟพีรายงานว่า มาจนถึงเวลานี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศแสดงตัวเป็นเจ้าของผลงาน แต่ทว่าสำนักข่าวแห่งชาติโซมาเลียในวันอาทิตย์ (15) รายงานชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายอัลเชบับซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายอัลกออิดะเป็นผู้ก่อเหตุอย่างแน่นอน
ภาพที่ปรากฏบนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นถึงลูกบอลเพลิงขนาดมหึมาเกิดขึ้นพร้อมกับควันกำลังพวยพุ่งสู่ท้องฟ้ากลางคืนระหว่างระเบิดกำลังเกิดขึ้นในคาเฟ่
สถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในความสับสน
ภาพหลังการเกิดเหตุคาร์บอมบ์ในวันจันทร์ (15) แสดงให้เห็นว่ามีซากปรักหักพังกองสุมในจุดที่ครั้งหนึ่งคาเฟ่ Top Coffee ชื่อดังเคยตั้งอยู่ พร้อมกับยานพาหนะไม่กี่คันถูกเผาท่ามกลางสายตาจากชาวบ้านกำลังจับจ้อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจโมฮาเหม็ด ซาลาด (Mohamed Salad) ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า เขารีบวิ่งไปที่เกิดเหตุไม่กี่นาทีหลังระเบิดเกิดขึ้นซึ่งส่งผลทำให้ทางเข้าของคาเฟ่ถูกทำลาย
“มีผู้เสียชีวิต 5 คนอยู่ด้านนอกตัวอาคารและบนถนนใหญ่ รวมไปถึงบรรดาคนขับรถราที่ผ่านพื้นที่”
และเสริมต่อว่า “มี 4 คนเสียชีวิตอยู่ด้านในภัตตาคาร ซึ่งบางส่วนจากทั้งหมดได้ถูกนำออกมาจากใต้ซากปรักหักพัง”
เกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังบรรดาผู้นำการทหารภูมิภาคซาเฮลได้ประกาศแยกตัวจากกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจรัฐแอฟริกาตะวันตก ECOWAS อย่างเป็นทางการด้วยการจัดตั้งกลุ่มของตัวเองขึ้นมา ฟรานซ์24 รายงานเมื่อวันที่ 6 ก.ค.
ตัวแทนจากไนเจอร์ มาลี และบูร์กินาฟาโซ ที่เกิดรัฐประหารและหันหน้าเข้าหารัสเซียเหล่านั้นในวันเสาร์ (6) ลงนามในสนธิสัญญาสหพันธ์ของตัวเอง เพื่อตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาหลังถอนตัวจาก ECOWAS โดยกล่าวหาว่าทางกลุ่มอิงฝรั่งเศสอดีตเจ้าอาณานิคม
กลุ่มที่ตั้งขึ้นใหม่นี้จะใช้อักษรย่อคือ AES ที่มาจาก “สมาพันธรัฐชาติซาเฮล” (Confederation of Sahel States) ซึ่งมีมวลรวมประชากรไว้ทั้งหมด 72 ล้านคน
ทั้งนี้ ก่อนหน้าเมื่อมีนาคมพบว่า กลุ่มประเทศ AES ได้สร้างกองกำลังทหารร่วมเพื่อต่อต้านกลุ่มติดอาวุธญิฮัดที่มักเข้าไปโจมตีภายในดินแดนของชาติเหล่านั้น