ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุวานนี้ (4 ก.ค.) ว่าตนเชื่อว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน “มีความจริงใจ” ที่จะช่วยยุติสงครามในยูเครน แต่เขาเองก็ยังไม่ทราบว่า ทรัมป์ มีแผนจะทำอะไรบ้างหากชนะศึกเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.
ระหว่างแถลงข่าวในการประชุมสุดยอดผู้นำองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ซึ่งจัดขึ้นที่คาซัคสถาน ปูติน ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับคำอวดอ้างของ ทรัมป์ ที่บอกว่าจะสามารถจบสงครามยูเครนได้อย่างรวดเร็วหากชนะเลือกตั้งและได้กลับมาครองทำเนียบขาวอีกครั้ง
“ข้อเท็จจริงที่ว่าคุณ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีประกาศว่าเขาพร้อมและต้องการที่จะช่วยยุติสงครามในยูเครน เรามองว่ามันเป็นเรื่องจริงจัง” ปูติน กล่าว
“แน่นอนว่าผมเองก็ยังไม่ค่อยรู้ข้อเสนอของเขาว่าจะทำอะไรบ้าง นั่นคือคำถามสำคัญ แต่เราไม่สงสัยเลยว่าเขามีความจริงใจ และเราสนับสนุน (ไอเดียที่จะยุติสงคราม)”
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อเดือน เม.ย. ว่า ทรัมป์ เคยพูด “เป็นการส่วนตัว” ว่าจะยอมให้ ปูติน ครอบครองคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งถูกมอสโกยึดไปจากยูเครนเมื่อปี 2014 รวมถึงพื้นที่ดอนบาส (Donbas) ซึ่งปัจจุบันถูกควบคุมโดยกองทัพรัสเซีย แลกกับการฟื้นคืนสันติภาพ ทว่าทีมหาเสียงของ ทรัมป์ ยังไม่เคยออกมายืนยันกระแสข่าวนี้
เดือนที่แล้ว รอยเตอร์รายงานว่าที่ปรึกษาคนสนิท 2 คนของ ทรัมป์ ได้เตรียมร่างแผนยุติสงครามซึ่งเรียกร้องให้ยูเครนยอมเข้าสู่กระบวนการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย มิเช่นนั้นสหรัฐฯ ก็จะไม่จัดส่งอาวุธให้อีก
ในส่วนของผู้นำรัสเซียเองเคยกล่าวเอาไว้เมื่อเดือน มิ.ย. ว่า รัสเซียจะยอมจบสงครามหากเคียฟล้มเลิกความตั้งใจที่จะเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และประกาศยกดินแดน 4 แคว้นทางตะวันออกและใต้ที่ปัจจุบันถูกยึดครองแล้วบางส่วนให้เป็นดินแดนของรัสเซียอย่างถูกต้อง
เจ้าหน้าที่ยูเครนออกมาปัดข้อเสนอนี้ทันควัน และชี้ว่ามันไม่ต่างอะไรกับการ “ยอมจำนน”
ปูติน ชี้ว่า การหารืออย่างสร้างสรรค์ระหว่างมอสโกและวอชิงตันคงเป็นไปไม่ได้ในระหว่างที่การหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังร้อนระอุ และมอสโกจะรอดูผลเลือกตั้งในอีก 4 เดือนข้างหน้าว่า ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่จะมีนโยบายอย่างไร
เมื่อถามถึงการดีเบตสดรอบแรกระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำหมีขาวตอบว่าตน “ได้ดูแค่บางส่วน” เพราะ “มีงานอื่นๆ ต้องทำ”
ปูติน เคยพูดในหลายโอกาสว่า ไบเดน เป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่น่าจะส่งผลดีต่อรัสเซียมากกว่าทรัมป์ ทว่าคำพูดของผู้นำรัสเซียยังฟังดูกำกวม ไม่แน่ว่าต้องการสื่ออะไร
ที่มา : รอยเตอร์