ศาลมาเลเซียวินิจฉัยยกคำร้องกรณีอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ขอเปลี่ยนไปรับโทษกักบริเวณภายในบ้านพักแทนการติดคุก ในคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB)
ในเอกสารคำร้องซึ่งถูกยื่นเมื่อวันที่ 1 เม.ย. นาจิบ อ้างว่ามี “คำสั่งเพิ่มเติม” (addendum order) ที่ออกโดยอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียมาพร้อมกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอภัยโทษเมื่อเดือน ก.พ. ที่ให้ลดโทษจำคุกตนเองจาก 12 ปีลง “ครึ่งหนึ่ง”
นาจิบ ร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้รัฐบาลมาเลเซียต้องตอบรับ หรือยืนยันถึงการมีอยู่ของ “คำสั่งเพิ่มเติม” ฉบับนี้ ซึ่งเขาอ้างว่าจะช่วยให้ตนเองมีสิทธิในการขอกักบริเวณภายในบ้านพัก และขอให้ศาลปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวหากว่ามีอยู่จริง
อย่างไรก็ตาม สำเนาคำพิพากษาที่ศาลสูงกัวลาลัมเปอร์เผยแพร่ต่อสื่อมวลชนวันนี้ (3 ก.ค.) ระบุว่า “ไม่พบข้อโต้แย้ง” ที่สมควรนำไปสู่การเปิดไต่สวนคำร้องของ นาจิบ
ผู้พิพากษา อามาร์จีต ซิงห์ ได้อธิบายถึงคำให้การของรองนายกรัฐมนตรี อะหมัด ซาฮิด ฮามิดี รวมถึงนักการเมืองระดับสูงจากพรรคของ นาจิบ อีกคนที่อ้างว่าเคยเห็นสำเนา “คำสั่งเพิ่มเติม” ดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องตอบสนองคำร้องของอดีตนายกฯ
มูฮัมหมัด ชาฟี อับดุลเลาะห์ ทนายความของนาจิบ ยืนยันว่าจะมีการอุทธรณ์คำตัดสินของศาล
“ในแง่ของจริยธรรมแล้ว รัฐบาลควรจะต้องตอบสนองเรื่องนี้” เขากล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการอภัยโทษที่ตัดสินให้ลดโทษจำคุก นาจิบ เหลือครึ่งหนึ่งมีอดีตสมเด็จพระราชาธิบดี อัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ อะหมัด ชาห์ ทรงเป็นองค์ประธาน โดยพระองค์ทรงสิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่งประมุขรัฐ 5 ปีไปเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
นาจิบ ถูกศาลตัดสินในปี 2020 ว่ามีความผิดฐานกระทำผิดต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (breach of trust) และใช้อำนาจมิชอบจากการรับเงินผิดกฎหมายซึ่งถูกยักยอกออกมาจากหน่วยงานในสังกัดของ 1MDB ซึ่งศาลสูงสุดได้ยืนคำพิพากษาดังกล่าวในปี 2022
1MDB เป็นกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวที่ นาจิบ ร่วมก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 หลังเข้าดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นปีแรก โดยเน้นลงทุนในธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น โรงไฟฟ้าและกิจการด้านพลังงานอื่นๆ ทั้งในมาเลเซียและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ในกรุงกัวลาลัมเปอร์
อย่างไรก็ตาม กองทุนแห่งนี้เริ่มถูกเพ่งเล็งเรื่องความไม่ชอบมาพากลในการบริหารจัดการเงิน โดยพบว่าในปี 2014 หรือหลังจากที่ก่อตั้งได้เพียง 5 ปี 1MDB ก่อหนี้สินสูงถึง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาท
พนักงานสอบสวนของมาเลเซีย และสหรัฐฯ ระบุว่า มีเงินทุนราว 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐถูกยักย้ายถ่ายโอนออกไปจาก 1MDB ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ราว 1,000 ล้านดอลลาร์ที่ไปโผล่ในบัญชีส่วนตัวของ นาจิบ
คณะกรรมการอภัยโทษประกาศเมื่อเดือน ก.พ. ว่า นาจิบ จะได้รับอิสรภาพในราวๆ เดือน ส.ค. ปี 2028 หรือ 6 ปีหลังจากที่เริ่มรับโทษจำคุก นอกจากนี้ ยังให้ลดวงเงินค่าปรับที่อดีตนายกฯ ผู้อื้อฉาวรายนี้ต้องจ่ายคืนแก่รัฐด้วย ซึ่งคำตัดสินดังกล่าวได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างอื้ออึงในมาเลเซีย
นาจิบ ซึ่งไม่ลดละความพยายามที่จะยื่นคำร้องขออภัยโทษเต็มรูปแบบ ยังคงถูกศาลไต่สวนความผิดฐานคอร์รัปชันในอีกหลายคดีที่เชื่อมโยงกับ 1MDB
ที่มา : รอยเตอร์