สหรัฐฯ ซ่อมรันเวย์ยุคสงครามโลกบนเกาะปาเลาใกล้ฟิลิปปินส์ เล็งใช้เป็นที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ (ชมคลิป)

เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - เพนตากอนซ่อมรันเวย์อดีตฐานทัพเก่าของกองทัพญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนประเทศหมู่เกาะปาเลา และทดลองบินลงจอดสำเร็จ เล็งเป็นหนึ่งในตัวเลือกใช้ที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ขณะที่ปักกิ่งเปิดวิดีโอคลิปเครื่องบินโพไซดอน P-8A หย่อนเครื่องดักเรือดำน้ำใกล้จุดปะทะ “แนวสันดอนโธมัสที่ 2” ระหว่างปักกิ่งและฟิลิปปินส์กลางทะเลจีนใต้

CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันอาทิตย์ (30 มิ.ย.) ว่า เครื่องบินลำเลียงเฮอร์คิวลิส (KC-130 Hercules) ได้ร่อนลงจอดที่รันเวย์ยาว 6,000 ฟุต เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในสิ่งที่กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ เรียกว่า เป็นการกลับมาอย่างชัยชนะและยิ่งใหญ่ต่อจุดการสู้รบสำคัญสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

วิศวกรนาวิกโยธินสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นการทำงานเพื่อซ่อมแซมรันเวย์มานานหลายเดือน เอาต้นไม้กิ่งไม้ออกไป และกวาดเอาทุ่นระเบิดสมัยสงครามที่ยังไม่ระเบิดออกไปจากเกาะเปเลลู (Peleliu) ที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศหมู่เกาะปาเลาตั้งอยู่ใกล้ฟิลิปปินส์ และในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ที่เพนตากอนต้องการให้เป็นทางเลือกหนึ่งในที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ทางการทหารต่อ "จีน" ภายในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ประเทศหมู่เกาะปาเลาตั้งอยู่ไม่ห่างฟิลิปปินส์

หนึ่งในหน่วยของกองกำลังคือ กองพันหน่วยที่ 1 มียอดสูญเสีย 70% เกิดขึ้นภายใน 6 เดือนของการสู้รบบนเกาะ

ทั้งนี้ กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ได้ตั้งชื่อรันเวย์ที่ปรับปรุงใหม่ว่า “สเล็ดจ์” (Sledge) เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตนายทหารผ่านศึกสมรภูมิรบปาเลาชื่อดัง แปซิฟิก ยูจีน สเลดจ์ (Eugene Sledge)

บนเกาะแยป (Yap island) ของประเทศหมู่เกาะไมโครนีเซียตั้งระหว่างเกาะกวม ดินแดนอาณานิคมของสหรัฐฯ และประเทศหมู่เกาะปาเลา

ทั้งนี้ ในรอบงบประมาณปี 2025 ทางกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ของบ 400 ล้านดอลลาร์ในการขยายรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติของหมู่เกาะ และรวมไปถึงที่ลานบินเก่าของอดีตกองทัพญี่ปุ่น และมันสามารถถูกใช้โดยเครื่องบินทหารสหรัฐฯ

เพนตากอนได้เริ่มต้นทำงานในส่วนอื่นของหมู่เกาะที่ 2 รวมไปถึงการรื้อฟื้นลานบินเหนือของเกาะทีเนียน (Tinian island) ในนอร์ทเทิร์น มารินาส (Northern Marianas) จากเครื่องบินอเมริกันทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ได้ขึ้นบินออกไปในปฏิบัติการลับเมื่อสิงหาคม ปี 1945 ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง

CNN ในปีที่ผ่านมาได้ลงนามข้อตกลงสร้างเสริมความแข็งแกร่งระดับทวิภาคีกับวอชิงตันและไฟเขียวให้หน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ สามารถบังคับใช้กฎหมายตัวเองภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะปาเลาโดยที่เจ้าหน้าที่ปาเลาไม่ต้องปรากฏตัว

การกลับคืนสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของสหรัฐฯ ในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานว่า ปักกิ่งเจอเครื่องดักเรือดำน้ำที่ทิ้งลงมาจากเครื่องบินจารกรรมลับอเมริกัน P-8 Poseidon ใกล้แนวสันดอนโธมัสที่ 2 เขตพิพาทระหว่างฟิลิปปินส์และจีนกลางทะเลจีนใต้ที่คลิปฉาวปรากฏไปทั่วว่าฝ่ายหน่วยยามฝั่งจีนใช้มีดและขวานทำร้ายทหารฟิลิปปินส์จนนิ้วโป้งขาดและโดนประณามว่าทำตัวไม่ต่างจาก “กองโจรสลัด” บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานวันศุกร์ (28)

วิดีโอคลิปที่เผยแพร่โดยสื่อทางการจีนวันพุธ (26 มิ.ย ) แสดงให้เห็นว่า เครื่องบินอเมริกัน P-8 Poseidon ลำหนึ่งกำลังทิ้งวัตถุลึกลับที่คล้ายกับทุ่นโซนาร์ลงในทะเลจีนใต้

และภาพที่เผยแพร่ได้แสดงให้เห็นภาพขยายเพื่อตรวจสอบวัตถุ โดยสื่อหยูหยวน เทียนถาน (Yuyuan Tiantan) ได้บ่งชี้ว่า เป็นเครื่องดักเรือดำน้ำ พร้อมรายงานว่าถูกค้นพบโดยเรือยามฝั่งจีน

วิดีโอคลิปชี้ว่าบริษัทผู้ผลิตคือ Ultra Electronics Undersea Sensor Systems ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษที่เชี่ยวชาญในการผลิตทุ่นโซนาร์และระบบเซ็นเซอร์ใต้น้ำ

โดยทุ่นโซนาร์นี้ถูกใช้มานานในแวดวงทางการทหารสำหรับการเฝ้าจัยตาพิกัดเรือดำน้ำ และการเคลื่อนไหวรวมไปถึงจุดประสงค์ด้านพลเรือน