xs
xsm
sm
md
lg

2 แคนดิเดตเฒ่า‘ไบเดน-ทรัมป์’ดวลหมัดนัดแรก อเมริกันชนเฝ้าชมดีเบตที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการชิงชัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไบเดน-ทรัมป์ ได้ฤกษ์ขึ้นเวทีดีเบตนัดแรกของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ในวันพฤหัสฯ (27 มิ.ย.) ตามเวลาภาคตะวันออกของอเมริกา ซึ่งตรงกับตอนสายวันศุกร์ (28) ตามเวลาเมืองไทย ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของการแข่งขัน เมื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจำนวนมากระบุว่าพร้อมนั่งหน้าจอรอดูการปะทะคารมระหว่าง 2 ศัตรูคู่แข่งรุ่นดึกคู่นี้

การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ระหว่างโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่ถือเป็นผู้นำอายุมากที่สุดของสหรัฐฯ กับ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่ถูกตัดสินกระทำความผิดอาญาร้ายแรงไปแล้ว 1 คดี และยังมีที่ถูกฟ้องร้องค้างคาอยู่อีกหลายคดี ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นการรณรงค์เปญหาเสียงช่วงฤดูร้อนซึ่งคาดว่าจะมีการโจมตีใส่กันแบบไม่ยั้งระหว่าง 2 คู่แข่งขันที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานปี ขณะที่ภายในสหรัฐฯเองก็อยู่ในสภาพแตกแยกร้าวลึก อีกทั้งยังคงติดค้างคาอยู่กับสถานการณ์ตึงเครียดยุ่งเหยิงจากความรุนแรงในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่ก็มีเสือเฒ่าคู่นี้เองเป็นคู่ชิงชัย

สืบเนื่องจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันไว้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการดีเบตกันเพียง 2 รอบ ดังนั้นการโต้วาทีในวันพฤหัสฯ จึงมีเดิมพันสูงมาก และในการหาเสียงระยะหลังๆ นี้ ผู้สมัครทั้งคู่ยังเพิ่มดีกรีการโจมตีกันเป็นการส่วนตัว ขณะที่ผลสำรวจทั่วประเทศชี้ว่าทั้งสองคนยังคงมีคะแนนคู่คี่กันมากชนิดหายใจรดต้นคอ

ขณะที่ทั้งคู่กำลังปรับยุทธศาสตร์การดีเบตของตนเองในขั้นสุดท้ายกันอยู่นี้ คำถามสำคัญมากข้อหนึ่งซึ่งพวกผู้สังเกตการณ์อยากได้คำตอบ ก็คือ ทรัมป์ จะเลือกใช้วิธีรั้งๆ แนวโน้มสู่ความก้าวร้าวของตัวเอง หรือจะปล่อยเต็มที่โชว์ความดึงดันไม่ฟังใครแบบที่เคยทำมาในการดีเบตครั้งแรกระหว่างเขากับไบเดนซึ่งสุดแสนชุลมุนเมื่อปี 2020

เรื่องนี้ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับนิวส์แม็กซ์ เครือข่ายสื่อปีกขวาว่า ตนเองเตรียมตัวมาตลอดชีวิตและคิดว่า จะทำได้ดีบนเวทีดีเบต

ฝ่ายไบเดนนั้นถูกคาดหมายว่า จะพยายามสุดฤทธิ์เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยไก่ครั้งใหญ่ ซึ่งกลายเป็นจุดอ่อนที่กำลังถูกฝ่ายตรงข้ามนำมาขยายว่าส่อแสดงถึงความชราเกินกว่าจะเป็นผู้นำประเทศได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธ (26 ) ประมุขทำเนียบขาวก็สาวหมัดใส่เต็มที่บนโซเชียลมีเดียว่า ทรัมป์คือภัยคุกคามใหญ่ที่สุดของระบอบประชาธิปไตยของอเมริกา และเกือบจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า นี่ยังจะเป็นประเด็นสำคัญที่ไบเดนใช้โจมตีทรัมป์ในระหว่างการโต้วาที

ในวันพฤหัสฯ ไบเดนเดินทางด้วยเครื่องบินประจำตำแหน่ง แอร์ ฟอร์ซ วัน ถึงแอตแลนตา เมืองเอกของรัฐจอร์เจีย ที่ถือเป็นสนามเลือกตั้งสำคัญสนามหนึ่ง เพื่อเตรียมขึ้นเวทีดีเบตที่จัดที่สำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็น ส่วนทรัมป์นั่งเครื่องบินส่วนตัวที่ตั้งชื่อว่า “ทรัมป์ ฟอร์ซ วัน” ไปยังที่หมายเดียวกัน

จากผลโพลหยั่งเสียงที่ออกมาในตอนนี้ ทรัมป์ดูเหมือนได้เปรียบเล็กน้อยในบรรดารัฐซึ่งทั้งคู่มีคะแนนใกล้เคียงกัน กระนั้นโดยภาพรวมคะแนนนิยมของทั้งสองคนถือว่าไม่ได้ทิ้งห่างอะไรกัน และผลการเลือกตั้งอาจต้องตัดสินกันจากความสามารถในการช่วงชิงคะแนนเสียงในสมรภูมิเลือกตั้งสำคัญๆ เพียงไม่กี่แห่ง

ทั้งนี้โพลล่าสุดของมหาวิทยาลัยควินนิแพ็กที่จัดทำขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (23) พบว่า ทรัมป์นำไบเดน 49 ต่อ 45

การดีเบตครั้งนี้กำหนดให้ทั้งคู่อยู่บนเวที 90 นาที โดยคาดหมายกันว่าจุดสำคัญคือเพื่อทำให้ผู้ออกเสียงคลายความกังวลเกี่ยวกับจุดอ่อนร้ายแรงทางการเมืองของพวกเขา

ไบเดน วัย 81 ปี จะเผชิญข้อกังวลใหญ่สุดเกี่ยวกับความคิดอ่านที่ฉับไว เนื่องจากมีแนวโน้มมากขึ้นว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสนใจอายุของไบเดนมากกว่าอายุของทรัมป์ ทั้งที่ผู้สมัครจากรีพับลิกันอ่อนกว่าแค่ 3 ปีก็ตาม

ก่อนการดีเบตครั้งนี้ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ผู้สมัครทั้งสองคนต่างเคยนั่งทำงานในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวมาก่อนนั้น ทั้งทรัมป์และไบเดนล้วนเคยทำผิดพลาดที่กระตุ้นให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอายุของพวกเขา เช่น พูดติดตะกุกตะกัก หรือมีท่าทางดูงุนงงสับสน

ทางด้านทรัมป์นั้นก็มีจุดอ่อนทั้งเรื่องที่ชอบใช้คำพูดยั่วยุชวนทะเลาะ, การที่เขาเพิ่งถูกศาลตัดสินกระทำความผิดจริงฐานปลอมแปลงเอกสารธุรกิจ 34 กระทง โดยยังไม่ต้องพูดถึงคดีอาญาอื่นๆ อีกหลายคดีที่เขาตกเป็นจำเลย, นอกจากนั้นแล้ว ยังมีความวิตกกังวลกันว่า เขาจะใช้ตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นอาวุธสำหรับการแก้แค้นส่วนตัว

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไบเดนซุ่มซ้อมดีเบตที่แคมป์เดวิด เพื่อปรับถ้อยคำที่จะใช้โจมตีทรัมป์ภายใต้การจัดแสงสีเหมือนถ่ายทำรายการจริง

ด้านทรัมป์ผ่อนคลายมากกว่า ด้วยการใช้การประชุมโต๊ะกลมพูดถกนโยบายอย่างไม่เป็นทางการ และการใช้การรณรงค์หาเสียงกับพวกผู้สนับสนุน เป็นเวิร์กชอปขัดเกลายุทธศาสตร์การดีเบต

บรรดาผู้ช่วยของทรัมป์สนับสนุนให้เขาโฟกัสจุดแข็งของตัวเองเรื่องเศรษฐกิจและอาชญากรรม ขณะที่ไบเดนจะพยายามสร้างภาพทรัมป์เป็นคนวิปลาสและไม่เหมาะสำหรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ทีมหาเสียงทรัมป์กระหน่ำโจมตีไบเดนเป็นคนอ่อนแอไร้ความสามารถ แต่เพิ่งจะมาเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อไม่กี่วันนี้หลังได้รับคำเตือนว่า การทำให้ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตถูกคาดหวังต่ำเช่นนี้ รังแต่กลับจะเป็นประโยชน์กับไบเดน

นอกจากนั้นทรัมป์และทีมหาเสียงยังปล่อยทฤษฎีที่ไม่มีหลักฐานว่า ไบเดนจะกินยากระตุ้นเพื่อให้ดีเบตอย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งในจุดอ่อนสำคัญของไบเดนคือความมั่นคงบริเวณชายแดน โดยทรัมป์สัญญาว่า จะจัดการกับคลื่นผู้ลักลอบข้ามแดนจากเม็กซิโกด้วยการเนรเทศครั้งใหญ่

ทว่า เมื่อวันพุธ คณะบริหารของไบเดนอวดว่า จำนวนคนข้ามแดนผิดกฎหมายลดลงถึง 40% นับจากที่ไบเดนใช้อำนาจฝ่ายบริหารปราบปรามการลักลอบข้ามแดนเมื่อเดือนที่แล้ว

ทั้งนี้ คนอเมริกันที่คาดว่าทรัมป์จะชนะดีเบตครั้งนี้มีมากกว่าที่คิดว่าไบเดนจะคว้าชัยในระดับ 40 ต่อ 30% ทว่าก็มีแค่ 10% ที่คิดว่า การโต้วาทีจะทำให้ตนเองเปลี่ยนใจ

(ที่มา: เอเอฟพี, เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น