เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - โพล AJC ของมหาวิทยาลัยจอร์เจียล่าสุดวันอังคาร (25 มิ.ย.) ชี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นนำประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน อยู่ 5 จุดในรัฐจอร์เจียที่เป็นหนึ่งในรัฐสวิงสเตทที่กำลังจะเปิดฉากดีเบทประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นครั้งแรกจัดโดย CNN ในวันพฤหัสบดี (27 มิ.ย.) ที่จะถึง ประเด็นอายุไบเดน และทรัมป์กลายเป็นนักโทษเป็นสิ่งน่าจับตา นักข่าวรัสเซียชื่อดังโดนมอสโกขึ้นบัญชีดำเปิดประเด็น วงภายในเครมลินให้ฉายาใหม่ทรัมป์ “อเมริกันกอร์บาชอฟ” ฝันเห็นอเมริกาล่มสลายแตกเป็นเสี่ยงไม่ต่าง USSR เชื่อยุคสงครามเย็นระหว่างอเมริกา-จีนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ชัยชนะของทรัมป์จากรีพับลิกันจะช่วยประธานาธิบดีรัสเซียสร้างระเบียบโลกใหม่
นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (25 มิ.ย.) ว่า โพลมหาวิทยาลัยจอร์เจียร่วมกับหนังสือพิมพ์แอตแลนต้า AJC Atlanta Journal-Constitution เปิดเผยโพลสำรวจความนิยมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันในวันอังคาร (25)
โพล AJC ชี้ว่าพบว่าทรัมป์มีคะแนนนำไบเดนอยู่ 5 จุดในรัฐจอร์เจียซึ่งเป็นหนึ่งในสวิงสเตทที่สำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เที่ยวนี้ โดยทรัมป์นำไบเดนอยู่ที่ 43% ต่อ 38% ในขณะที่ผู้สมัครอิสระ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ (Robert F. Kennedy Jr) คาดว่าจะไม่ผ่านเข้าสู่การดีเบททางโทรทัศน์ครั้งแรกของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีผู้จัดโดย CNN ที่กำลังจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (27) ที่รัฐจอร์เจีย โพลชี้ว่า เคนเนดี จูเนียร์ได้ไป 9%
โพลที่ผ่านมามักชี้ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สูสี แต่ทว่าในการสำรวจล่าสุดของโพล AJC ชี้ว่า ทรัมป์สามารถเอาชนะไบเดนในรัฐสวิงสเตทที่จะเป็นตัวชี้ชะตาว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งปี 2024 ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2020 ไบเดนสามารถพลิกเอาชนะทรัมป์ในรัฐจอร์เจียได้อย่างเชือดเฉือนแค่กว่า 11,700 โหวต
ซึ่งนอกจากประเด็นอายุของไบเดนแล้วเชื่อว่าประเด็นทรัมป์ถูกพิพากษามีความผิดทางอาญาจะถูกตั้งคำถามภายในห้องส่งสถานีโทรทัศน์ CNN ในเมืองแอตแลนต้า โพลพบว่าเสียงของผู้ตอบแบบสอบถามแบ่งแยกในประเด็นทรัมป์กลายเป็นนักโทษถูกชี้ความผิด โดยมี 17% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับจะโหวตให้ทรัมป์ในเดือนพฤศจิกายนหลังคำพิพากษาที่ออกมา ส่วน 1 ใน 4 เปิดเผยจะไม่โหวตให้ทรัมป์ และอีกกว่าครึ่งหรือ 56% ชี้ว่า คำพิพากษาที่ออกมาไม่ส่งผลการตัดสินใจว่าจะโหวตให้ใครในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้
โพลยังเปิดเผยว่า ไบเดนสูญเสียการสนับสนุนจากฐานเสียงแอฟริกันอเมริกันในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นฐานเสียงเลือกตั้งที่ไบเดนคาดหวังไว้สำหรับสมัย 2 ของเขา
โพล AJC นั้นสำรวจความเห็นจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ได้ลงทะเบียนในรัฐจำนวน 1,007 คนระหว่างวันที่ 3 ม.ค.-11 ม.ค.ปีนี้โดยคณะกิจการสาธารณะและกิจการระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยจอร์เจีย โพลมีค่าความผิดพลาดอยู่ที่ 3.1%
การดีเบทครั้งสำคัญที่จะแสดงให้ประชาชนอเมริกันเห็นถึงทางแยกในอนาคตของสหรัฐฯ ที่มีปัญหาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศตั้งแต่ปัญหาห้ามการยุติการตั้งครรภ์ไปจนถึงปัญหา LGBTQ+ ที่เห็นรัฐฟลอริดาใช้อำนาจบริหารบีบบริษัทเอกชนเช่น สวนสนุกดิสนีย์เวิลด์ที่มีพนักงาน LGBTQ+ ทำงานต้องเสียสถานภาพเขตพิแศษไป
และล่าสุด ทรัมป์ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนหลังรัฐทางใต้ให้กลับมาสอนบทบัญญัติ 10 ประการของศาสนาคริสต์ในโรงเรียน และเขาประกาศจะไม่ให้เงินอุดหนุนโรงเรียนที่ประกาศบังคับฉีดวัคซีนไปจนถึงปัญหาผู้อพยพจำนวนมากที่ไหลเข้าทางใต้ของอเมริกาที่ส่งผลทำให้ไบเดนต้องเสียคะแนนความนิยมหลังผู้อพยพทะลักตามเมืองใหญ่ในอเมริกา และมีบางส่วนก่ออาชญากรรมกับพลเมืองสหรัฐฯ สร้างความไม่พอใจให้การเมืองปีกขวาสหรัฐฯ
นักข่าวเดนตายชื่อดังรัสเซีย มิคาอิล ไซการ์ (Michail Zygar) ซึ่งโดนศาลมอสโกสั่งลงโทษแบบลับหลังและโดนขึ้นบัญชีดำ ไซการ์เคยเขียนลงนิตยสารไทม์ส ไปจนถึงสถาบันธิงค์แทงก์สหรัฐฯ ชื่อดัง Atlantic Council และเขาเคยให้สัมภาษณ์กับเรดิโอฟรียุโรปของสหรัฐฯ แต่ล่าสุดเขาลงบทความในนิตยสารแวร์นิตีแฟร์ที่ออกมาเผยแพร่วานนี้ (25) ว่า ปูตินกำลังสนับสนุนให้ 'คู่แข่งไบเดน' ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันปลายปีเพื่อเปิดทางการสร้างโลกใหม่แบบหลายขั้วของรัสเซียขึ้นมา
ไซการ์ชี้ว่า วงในเครมลินได้เรียกทรัมป์ว่า “อเมริกันกอร์บาชอฟ” หรือกอร์บาชอฟแบบอเมริกันซึ่งล้อไปกับอดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย มิคาอิล กอร์บาชอฟ ที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เคยพูดถึงการล่มสลายของ “Eastern Block” ที่ประกอบไปด้วย ฮังการี บัลแกเรีย เช็กโกสโลวะเกีย โรมาเนีย เยอรมนีตะวันออก แอลเบเนีย โปแลนด์ มอลโดวา ว่า "เป็นการล่มสลายภูมิศาสตร์การเมืองที่เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สุดของศตวรรษที่ 20"
“Eastern Block” นี้ล่มสลายไปพร้อมกับอดีตสหภาพโซเวียต และปูตินกล่าวว่า โลกจำเป็นต้องมี "new Yalta" และหากยังไม่มีจะต้องสร้างขึ้นใหม่
อ้างอิงจากวิกีพีเดีย Yalta คือการประชุมสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แฟรงกลิน ดี.โรสเซเวลต์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ วินสเตอร์ เชอร์ชิล และอดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต โจเซฟ สตาลิน ตัดสินถึงสถานะเยอรมนีและยุโรป ซึ่งในที่ประชุมจัดระหว่างวันที่ 4 ก.พ.ปี 1945 ถึงวันที่ 11 ก.พ.ปี 1945 โดยที่สำคัญเป้าหมายโซเวียตต้องการกดดันให้ฝ่ายตะวันตกต้องยกครึ่งหนึ่งของเยอรมนีให้ตกเป็นของสหภาพโซเวียตไป
นักข่าวรัสเซียชี้ว่า ผู้นำรัสเซียจำเป็นต้องมีพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสมซึ่งเขานั้นต่างจากสตาร์ลินในปี 1945 ที่ทรงอำนาจและยอมรับว่า “รัสเซีย” ไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม วงในเครมลินชี้ว่า จีนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในฐานะ “Big Three”
และวงในเครมลินประเมินว่า สงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว
ไซการ์กล่าวว่า ผู้นำรัสเซียประเมินการเมืองอเมริกันนั้นไม่ต่างจากซีรีส์ทีวี House of Cards ที่ทั้งฉ้อฉล โหดร้ายและหลอกลวงเหมือนที่เขาได้ดูและเขาแค่รอเวลาบุคคลที่เหมาะสมก้าวขึ้นสู่อำนาจ
"โดนัลด์ ทรัมป์" กลายเป็นเป้าหมายของรัสเซียที่ฝ่ายเครมลินต้องการให้ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ รอบนี้ล่าสุด รอยเตอร์รายงานวานนี้ (25) ว่า เครมลินออกแถลงการณ์ว่า แผนสันติภาพใดๆ สำหรับยูเครนที่ออกมาโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ในอนาคตของโดนัลด์ ทรัมป์จะสะท้อนถึงความเป็นจริงของการรบสู้รบในสมรภูมิและประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ยังคงเปิดกว้างต่อการเจรจา
ชื่อเรียกทรัมป์ภายในเครมลินคือ “อเมริกันกอร์บาชอฟ” ที่มาจากอดีตผู้นำคนสุดท้ายของอดีตสหภาพโซเวียต มิคาอิล กอร์บาชอฟ
นักข่าวรัสเซียชี้ว่า การวาดหวังอนาคตจักรวรรดิอเมริกาภายใต้เงื้อมมือทรัมป์ยังเป็นความฝันของเครมลินที่จะได้แก้แค้นอเมริกาต่อการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียตไปในปี 1991
บรรดาที่ปรึกษาปัจจุบันของปูตินต่างมั่นใจว่า สหรัฐฯ ในท้ายที่สุดจะต้องล่มสลายแตกลงเป็นเสี่ยงเหมือนเช่นอดีตสหภาพโซเวียต และส่งผลทำให้ฝ่ายรัสเซียเชื่อว่า ต้องให้ได้ผู้นำอเมริกันที่เหมาะสมในการทำให้ประเทศเกิดความโกลาหล
แผน new Yalta นี้ปูตินต้องการได้ผู้นำอเมริกันที่จะเห็นพ้องในการแบ่งโลกกับเขา ซึ่งคำว่า “Yalta” เกิดดังขึ้นมาภายในเครมลินหลังอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งในปี 2016 โดยฝ่ายรัสเซียได้มองว่า "ทรัมป์" ได้ทำลายขั้วโลกเก่าเดิมที่เป็นขั้วโลกฝ่ายเสรีนิยมโดยมีสหรัฐฯ เป็นผู้นำหลังการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์
ทั้งนี้ นักข่าวรัสเซียอ้างว่า ถึงแม้เครมลินจะสนับสนุนให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง แต่ไซการ์อ้างว่า เครมลินไม่ได้มองว่า ทรัมป์เป็นหุ่นเชิดของรัสเซีย และไม่ต้องการที่จะมีอิทธิพลเหนือเขา ปูตินเพียงมองว่า ทรัมป์นั้นมีระดับทางศีลธรรมที่ใกล้เคียงกับเขาและน่าจะเข้าใจเขามากกว่า เป็นพวกนักการเมืองฉ้อฉลที่คิดว่า “เงินจะสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง”