ข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ ชี้ว่า ในบรรดาพลเมืองชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้โดยไม่มีเอกสารรับรองนั้น เป็นคนไทยมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 35% ตามรายงานของหนังสือพิมพ์โคเรียไทม์สเมื่อวันอังคาร(25 มิ.ย.)
โคเรียไทม์ส รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ ระบุว่าจนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคมมีคนไทยถึง 145,810 คน ที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้ โดยปราศจากวีซ่ารับรองหรือใบอนญาตต่างๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเลขนี้คิดเป็นสัดส่วนราว 35.1% ของชาวต่างชาติทั้งหมด 415,230 ที่พำนักอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ นับว่าสูงกว่าประเทศอื่นๆ เป็นอย่างมาก ในนั้นรวมถึงเวียดนาม (79,366 คน) จีน (64,151 คน) ฟิลิปปินส์ (13,740 คน) อินโดนีเซีย (12,172 คน) และกัมพูชา (10,681 คน)
ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาในขณะที่ข้อกำหนดในการเข้าเมืองที่เข้มงวดของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ K-ETA กำลังถูกตำหนิว่าเป็นเหตุให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยลดลงในปีนี้
K-ETA หรือ Korea Electronic Travel Authorization คือระบบออนไลน์ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อคัดกรองผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศมายังเกาหลีใต้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งมีข้อมูลว่าระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการโดนปฏิเสธของนักท่องเที่ยวที่ช่วงหลังมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากปัญหาข้อมูลด้านวัคซีน และข้อจำกัดด้านปริมาณการเปิดรับคนเข้าประเทศ รวมถึงการลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายที่เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าเกาหลีใต้เพียง 119,000 คน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 21.1% ซึ่งสวนทางโดยสิ้นเชิงกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ
กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ซึ่งรับผิดชอบพิจารณาทบทวนการยื่นขอเข้าเมืองผ่านระบบ K-ETA ไม่เปิดเผยถึงเหตุผลที่ทางกระทรวงปฏิเสธคำขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศของคนไทย แต่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยืนยันว่าได้ใช้กฎเกณฑ์เดียวกันในการพิจารณาผู้ยื่นขอจากประเทศอื่นๆ
ท่ามกลางความไม่พอใจในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อระบบ K-ETA ทำให้เกิดกระแสบอยคอตต์ อย่างเช่นแฮชแท็ก #แบนเที่ยวเกาหลีที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทางกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลี ได้ขอให้กระทรวงยุติธรรมยกเว้น K-ETA ให้คนไทย เป็นการชั่วคราวอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2024 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวกำลังเพิ่มความพยายามเป็นเท่าตัวในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ตามเป้าหมาย 20 ล้านคนในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้แสดงท่าทีระมัดระวัง โดยทางกระทรวงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวยอนฮับ ว่า จำเป็นต้องระมัดระวัง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายหนึ่งใดๆ อาจนำมาซึ่งจำนวนชาวต่างชาติที่เข้าเมืองผิดกฎหมายหรือไม่มีเอกสารรับรองเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กระแสความไม่พอใจของคนไทยต่อระบบ K-ETA ปรากฏขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ออกมาปกป้องระบบคัดกรองดังกล่าว โดยบอกว่า 78% ของคนไทยที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้เป็นการพำนักอย่างผิดกฎหมาย และทางกระทรวงมีหน้าที่ที่ชอบธรรมในการลดจำนวนพวกที่พักอาศัยในเกาหลีใต้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ก่อนหน้าโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ไทยเป็นหนึ่งในแหล่งนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้ ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และไต้หวัน หลายคนกังวลว่าจำนวนผู้มาเยือนจากไทยอาจไม่ฟื้นตัวสู่ระดับเดิมในอนาคตอันใกล้นี้ และอาจส่งผลกระทบทางลบแก่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ
เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่าระบบ K-ETA คือเหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลง แต่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบอกว่าเวลานี้ทางกระทรวงกำลังพยายามปรับปรุงระบบเพื่อให้มีความสะดวกเพิ่มมากขึ้น และจะดำเนินการพร้อมกับรับประกันความมั่นคงทางชายแดนไปด้วย
(ที่มา : เดอะโคเรียไทม์ส)