เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอียิปต์สั่งดำเนินคดีทางกฎหมายบริษัทท่องเที่ยว 16 บริษัท หลังผู้แสวงบุญอียิปต์เสียชีวิตมากที่สุด 658 คน เกือบทั้งหมดไม่ได้ลงทะเบียนถูกต้อง ริยาดร้อนตัวออกมายืนยันไม่ได้จัดการผิดพลาด แต่อากาศร้อนผิดปกติ 51.8 องศาเซลเซียส ดับสูงสุด 1,126 คนรวมอเมริกัน สุดอึ้งไม่ให้ผู้แสวงบุญเข้าใช้ห้องพักปรับอากาศหนีร้อน
เอเอฟพีรายงานวานนี้ (22 มิ.ย.) ว่า นายกรัฐมนตรีอียิปต์ Mostafa Madbouly ไม่พอใจอย่างหนักหลังเห็นตัวเลขผู้แสวงบุญแดนอัยคุปต์เสียชีวิตมากที่สุดจากทั้งหมด 1,126 คนรวมอเมริกันชนมีผู้แสวงบุญอียิปต์ดับ 658 คนและจากทั้งหมด 630 คนไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อประกอบพิธีอย่างถูกต้อง อ้างอิงจากแหล่งข่าวนักการทูตที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (20)
และออกคำสั่งให้ดำเนินคดีบริษัทท่องเที่ยว 16 บริษัท โดยแถลงการณ์ที่ออกมาจากคณะรัฐมนตรีอียิปต์ระบุว่า
“นายกรัฐมนตรีอียิปต์มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทเหล่านี้ ผู้จัดการบริษัทจะส่งไปยังอัยการ และการปรับเป็นเงินเพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวของเหยื่อผู้แสวงบุญที่ต้องเสียชีวิตเพราะบริษัทเหล่านี้”
ทั้งนี้ การเสียชีวิตจำนวนมากในกลุ่มผู้แสวงบุญชาวอียิปต์เกิดมาจากบริษัทท่องเที่ยวใช้วิธีส่งผู้แสวงบุญเข้าซาอุดีอาระเบียด้วยวีซ่าการเยี่ยมญาติซึ่งจะห้ามเข้าไปในนครเมกกะผ่านช่องทางทางการ
โดยในวันศุกร์ (21) เจ้าหน้าที่ระดับสูงริยาดออกมาให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีกล่าวปกป้องการจัดงานพิธีฮัจญ์ว่า ริยาดไม่ได้ล้มเหลวในการจัดการ แต่ทว่าเป็นเพราะอากาศร้อนจัดอย่างผิดปกติ
“ทางรัฐไม่ได้ล้มเหลว แต่มีการประเมินผิดพลาดในส่วนของกลุ่มผู้แสวงบุญที่ไม่ชื่นชอบต่อการเสี่ยงภัย” เจ้าหน้าที่ซาอุฯ กล่าว ซึ่งเป็นคำกล่าวแรกออกมาจากริยาดหลังข่าวการเสียชีวิตเป็นจำนวนมากออกมา
และเสริมต่อว่า “สิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางเงื่อนไขสภาพอากาศที่เลวร้ายและอุณหภูมิที่สาหัส”
เจ้าหน้าที่ซาอุฯ ยอมรับว่ามีผู้เสียชีวิตแค่เฉพาะ 2 วันคือวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่มีตัวเลขสูงถึง 577 คน และยังไม่ได้จบสิ้นกระบวนการที่มีต่อมาจนถึงวันพุธ
CNN รายงานว่า ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงวันศุกร์ (21) คนว่า มีพลเมืองสหรัฐฯ หลายคนรวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตระหว่างพิธีฮัจญ์ในซาอุดีอาระเบีย รวม 2 สามีภรรยาผิวสี อีซาตู เตจาน วูรี (Isatu Tejan Wurie) วัย 65 ปี และอาลิว เดาซี วูรี (Alieu Dausy Wurie) วัย 71 ปี จากรัฐแมรีแลนด์ใช้เงินสูงถึง 23,000 ดอลลาร์เพื่อไปประกอบพิธี
ลูกสาวเพิ่งมาทราบข่าวจากหนึ่งในลูกทัวร์ที่ไปด้วยว่า พ่อแม่ได้หายตัวไประหว่างเดินขึ้นเขาอาราฟัต (Mount Arafat) หลังผู้เป็นพ่อพูดออกมาว่า 'เดินต่อไปไม่ไหว'
กงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเจดดาห์ได้รับแจ้งจากข่าวการเสียชีวิตจากกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียว่า พ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตในวันที่ 15 มิ.ย. ด้วยสาเหตุการเสียชีวิตตามธรรมชาติ และได้แจ้งต่อไปยังลูกสาวที่สหรัฐฯ
ซึ่งทางสถานกงสุลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ฮีทสโตรกถือเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตตามธรรมชาติในซาอุดีอาระเบีย และแจ้งให้บุตรสาวของผู้แสวงบุญชาวอเมริกันทราบว่า ทางการริยาดได้จัดการฝังศพบิดามารดาของเธอเรียบร้อยแล้วแต่ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าอยู่ที่ใด
ขณะที่เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานอ้างการเปิดเผยจากแหล่งข่าวนักการทูตว่า ริยาดปิดไม่ให้ผู้แสวงบุญเข้าไปหลบความร้อนด้านในห้องปรับอากาศจึงทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก
“ผู้คนต่างเหน็ดเหนื่อยหลังถูกวิ่งไล่ตามโดยเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ก่อนวันอาราฟัต (Arafat day) คนเหล่านั้นเหนื่อยล้า” หนึ่งในนักการทูตอาหรับให้สัมภาษณ์ในวันพฤหัสบดี (20) โดยอ้างไปถึงการทำพิธีด้านนอกที่ยาวนานในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดของพิธี
ปราศจากใบอนุญาตทางการ ผู้แสวงบุญที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะไม่สามารถเข้าไปใช้ในพื้นที่ห้องปรับอากาศที่จัดไว้สำหรับผู้แสวงบุญที่ลงทะเบียนจำนวน 1.8 ล้านคนหลังการเดินและสวดภาวนาด้านนอกนานหลายชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อนจัดที่สูงถึง 51.8 องศาเซลเซียส
บรรดาเพื่อนและครอบครัวต่างพากันตามหาผู้แสวงบุญที่สูญหาย คนเหล่านี้ไปค้นหาที่โรงพยาบาล และประกาศตามหาทางออนไลน์