ในห้วง 4-5 เดือนก่อนจะถึงพระเบิร์ธเดย์ 21 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา ช่างมากมายไปด้วยคืนวันอันหนักหนาสุดๆ สำหรับเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์ออฟเวลส์ อนาคตคิงอังกฤษ โดยเปิดปีมาสองสัปดาห์กว่า เจ้าหญิงแคเธอริน พระชายาสุดที่รัก ทรงต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ และประทับในโรงพยาบาล 13 วัน ตามมาด้วยการหยุดพระภารกิจทั้งปวงหลายเดือนเพื่อฟื้นพระพลานามัย พอถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปรินซ์ทรงต้องเผชิญข่าวร้าย เมื่อคณะแพทย์ตรวจพบว่าคิงชาร์ลส์ที่ 3 พระราชบิดาทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งส่งผลให้ทรงต้องงดเว้นพระราชกรณียกิจหลายเดือนเช่นกัน
ในขณะที่ปรินซ์วิลเลียมทรงต้องวิ่งรอก ทั้งเหมาดูแลพระโอรสพระธิดา ทั้งอภิบาลและเป็นกำลังใจแด่พระราชบิดาและพระชายา และทั้งรับพระภารกิจแห่งสำนักพระราชวัง นั้น ดวงพระหทัยเปี่ยมเมตตาของปรินซ์ทรงสั่นสะเทือนกับความตายอันมหาศาลของเด็กและสตรี ในดินแดนฉนวนกาซา ซึ่งเป็นผลจากสงครามที่อิสราเอลมุ่งกวาดล้างกลุ่มฮามาส และดังนั้น ปรินซ์วิลเลียมจึงทรงเผยแพร่พระถ้อยแถลงร้องขอการหยุดยิง เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
การตัดสินพระทัยดำเนินภารกิจแห่งจิตสำนึกดังกล่าว ทำให้เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์ติเตียนอย่างกระหึ่มรอบด้านว่า ทรงแทรกแซงทางการเมือง ผิดพระราชประเพณีสุดๆ แต่ก็ปรากฏว่าเสียงสนับสนุนจากประชาชนปรากฏออกมาเชียร์พระองค์อย่างหนาแน่น
ย่างเข้าเดือนมีนาคม ดรามา “ปรินเซสเคทตัวจริงอยู่ไหน” ก่อตัวขึ้นอย่างยืดเยื้อ และสำทับด้วยวิกฤติภาพตัดต่อวันแม่ 10 มีนาคม ปรินซ์วิลเลียมทรงเหนื่อยหนักสุดๆ จากกระแสกดดันจากสื่อมวลชนและชาวเกรียนคีย์บอร์ด ที่เร่งรัดขอทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการพระประชวรของเจ้าหญิงเคท กระแสกดดันนี้กระทั่งพัฒนาขึ้นเป็นเสียงเรียกร้องวุ่นวาย ขอให้พระราชสำนักเปิดเผยว่า ปรินเซสเคทอยู่ไหน พร้อมนี้มีการสร้างสมมุติฐานฟุ้งซ่านดุเดือดมากมาย และลือกันไปต่างๆ นานา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวลือเรื่องเตียงหัก โดยปรินซ์วิลเลียมทรงถูกกระหน่ำว่า ทรงมีพระกิ๊ก และเป็นเหตุให้พระชายาเคททรงโทมนัส ทั้งนี้ การสร้างทฤษฎีเสียๆ หายๆ โดยไร้หลักฐานรองรับ ได้บานปลายไปถึงขั้นที่กระพือไปทั่วว่าปรินเซสเคททรงหลบไปจากวงสังคมเพราะปัญหามือที่สาม
ในท่ามกลางข่าวลือข่าวโคมลอยดังกล่าวตลอดช่วงเดือนมีนาคม 2024 นั้น ได้มีพิธีกรรายการทอล์กโชว์ในสหรัฐอเมริกา นามว่าสตีเฟน โคลเบิร์ท ออกมากล่าวกลางรายการ The Late Show by Stephen Colbert โดยระบุชื่อว่า สตรีลึกลับและมือที่สามคนนั้น คือ เลดีโรส ฮันเบอรี มาร์เชอเนสแห่งเชมลีย์ สุภาพสตรีแห่งครอบครัวชนชั้นขุนนางฐานะร่ำรวยของอังกฤษ
ข่าวลืออัปมงคลที่เกี่ยวกับการเป็นพระกิ๊กของปรินซ์วิลเลียมนี้ เคยแพร่กระจายในสังคมซูเปอร์ไฮโซมาแล้ว 2 รอบ รอบแรกมีขึ้นในปี 2019 แล้วซาไปจนสังคมลืมเลือน ส่วนรอบที่สองมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2022 และสำหรับการรีไซเคิลข่าวลือในรอบที่ 3 เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ครอบครัวของเลดีโรสประกาศเตรียมการที่จะฟ้องร้องดำเนินคดี สตีเฟน โคลเบิร์ท เรื่องโหดๆ ดังกล่าวจึงยุติลงได้
ในที่สุด ภาระบนสองไหล่กว้างของเจ้าฟ้าชายวิลเลียมก็คลี่คลาย เมื่อดรามาเจ้าหญิงเคทยุติลงด้วยดรามาชีวิตจริง
ในวันทำการสุดท้ายของโรงเรียน ศุกร์ที่ 22 มีนาคม ก่อนปิดเรียนสามสัปดาห์ในเทศกาลอีสเตอร์ เจ้าหญิงเคท ซึ่งทรงผ่ายผอมลงมหาศาล ได้บันทึกวิดีโอ กล่าวกับประชาชนอย่างสงบนุ่มนวลว่าคณะแพทย์ตรวจพบว่า พระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง
พร้อมนี้ ทรงอธิบายสาเหตุที่ทรงเลือกที่บอกในวันนั้น ว่าเพื่อปกป้องพระโอรสและพระธิดาทั้งสาม กล่าวคือ หลังจากที่ทรงแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์บีบีซีนั้น พระโอรสพระธิดาจะทรงอยู่ในพระตำหนัก ไม่ต้องทราบข่าวน่าตกใจนี้จากโลกภายนอก โดยพระองค์และพระสวามีจะใช้เวลาค่อยๆ บอกเล่าและอธิบายให้พระโอรสพระธิดาผู้ทรงพระเยาว์ได้เข้าใจ ภายในบรรยากาศอบอุ่นพ่อแม่ลูก
สาธารณชนและสื่อมวลชนตัวจี๊ดทั้งหลายออกอาการสะเทือนใจ และแสดงความสำนึกผิดที่ฟุ้งซ่านและกดดันเจ้าหญิงเคทแสนดีที่กำลังป่วยหนัก บรรยากาศว้าวุ่นทั้งปวงปิดฉากลงไปได้
เมื่อพ้นเทศกาลอีสเตอร์ ปรินซ์วิลเลียมทรงออกทรงงานน่าอนุโมทนาต่างๆ อาทิ โครงการสร้างที่พักเพื่อคนเร่ร่อน ที่ทรงเสด็จดูความก้าวหน้าของโครงการในเทศมณฑลคอร์นวอลล์ ซึ่งเป็นดัชชี่ที่ปรินซ์ทรงเป็นดยุกแห่งคอร์นวอลล์ พร้อมกับทักทายประชาชน รวมถึงดูงานโปรเจ็กต์ไลฟ์การ์ดอาสาสมัครที่ชายทะเลฟิตส์ทรัลในเมืองนิวคีย์ เทศมณฑลคอร์นวอลล์ และทรงลงเล่นวอลเลย์บอลชายหาดกับทีมเยาวชนไลฟ์การ์ดอย่างน่ารักน่าชื่นชม
ด้วยการทรงงานช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนการวางพระองค์อย่างให้เกียรติและให้กำลังใจแก่ผู้คนทั้งปวง อีกทั้งการดำรงพระองค์เป็นรัชทายาทที่ดีงามน่านับถือ ทำให้ปรินซ์วิลเลียมทรงเป็นความภาคภูมิใจและรักใคร่ของพสกนิกร แต้มบุญส่วนพระองค์จึงทวีตัวยั่งยืนขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ ดังปรากฏว่าในการทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อเจ้าฟ้าชายวิลเลียม พระองค์ทรงได้รับคะแนนนิยมสูงสม่ำเสมอ ประมาณว่า ‘ทรงทำสิ่งใด พสกนิกรก็เป็นปลื้มด้วยทั้งสิ้น’ พอกล่าวได้
ปรินเซสเคทนำพระรูปปรินซ์วิลเลียมพร้อมพระโอรสพระธิดา กระโดดสูงดูร่าเริงน่าสนุก ขึ้นแชร์ให้แฟนานุแฟนได้ชื่นชม พร้อมถ้อยคำหวานฉ่ำ “ปะป๊าคะ เราทุกคนรักพระองค์นะคะ”
พระรูปบานใหม่ของปรินซ์ออฟเวลส์ได้รับการเผยแพร่ให้เป็นที่ระลึกถึงวันพระเบิร์ธเดย์ครบรอบ 42 พรรษา เมื่อศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2024 โดยเป็นพระรูปที่สนุกสุดๆ ของรัชทายาทลำดับที่ 1 - 4 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงกระโดดลอยอยู่ในอากาศ
“สุขสันต์วันเกิดนะคะ ปะป๊า เราทุกคนรักพระองค์มากเหลือเกินค่ะ!” ลงชื่อ Cx. (แคเธอริน) เดลิเมลออนไลน์รายงาน
ด้วยองค์ประกอบของพระรูปที่เจ้าชายและเจ้าหญิงทั้ง 4 พระองค์ทรงพระภูษาลำลองขาสั้น เรียบง่ายและดูสนุกครึกครื้น มีวิวท้องฟ้าสดใสอยู่ด้านหลัง บรรยากาศของภาพจึงอบอุ่นเต็มไปด้วยความใกล้ชิดระหว่างพ่อ-ลูก พสกนิกรผู้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของพระครอบครัวแห่งเวลส์ พากันปลื้มปริ่มและแห่กันเข้าไปเชียร์
หลายคนเขียนชื่นชมว่า “อาจจะเป็นพระรูปของพระครอบครัวเวลส์ที่ดีที่สุดที่พวกเราเคยได้เห็น”
อีกหลายๆ คนตั้งพระฉายาถวายปรินซ์วิลเลียมว่า “ปรินซ์ผู้ทรงพระชิลล์ขั้นสุด”
“แฮปปีเบิร์ธเดย์ เพคะ ปรินซ์วิลเลียม หม่อมฉันขออวยพระพรให้พระองค์ทรงพบเจอแต่สิ่งดีที่สุด และขอให้ทรงมีความสุขมากขึ้นมากๆ เพคะ” แฟนคลับนางหนึ่งของปรินซ์ขวัญใจพสกนิกร เขียนไว้ในคอมเมนต์
“จับภาพได้สวยเหลือเกินพะยะค่ะ” อีกรายหนึ่งคอมเมนต์อย่างนั้น พร้อมคำอวยพระพร “แฮปปีเบิร์ธเดย์ แด่ปรินซ์วิลเลียม”
ทัศนะของแฟนานุแฟนที่ปรากฏมากพิเศษประการหนึ่งคือ คำสรรเสริญว่าทรงเป็นพระครอบครัวแสนสุขและเป็นธรรมชาติธรรมดาดีจัง
นอกจากคอมเมนต์ปลื้มปริ่มเหล่านี้ที่ปรากฏใต้กระทู้ของ The Prince and Princess of Wales แล้ว ยังมีแอคเคาท์ the Royal Family บนโซเชียลมีเดียของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่นำพระรูปประทับใจของปรินซ์ไปตั้งกระทู้อวยพร อันได้แก่ พระรูปขาว-ดำที่กษัตริย์ชาร์ลส์ยังทรงเป็นคุณพ่อมือใหม่ โอบพระกายจ้ำม่ำของปรินซ์วิลเลียม และมีคำอวยพรว่า ขอให้ปรินซ์ออฟเวลส์มีวันเกิดแสนสุขมากๆ
ปรินซ์วิลเลียมพระราชโอรสพระองค์โตของกษัตริย์ชาร์ลส์ ทรงเป็นที่รักและเป็นความภาคภูมิพระทัยอย่างยิ่งของพระราชบิดา ในห้วงที่ปรินซ์ทรงประสูติใหม่ๆ ทรงสร้างความรู้สึกประทับใจใหญ่หลวงแก่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ผู้ทรงเป็นพระบิดา โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงเขียนไว้ตอนหนึ่งในจดหมายถึงเคาน์เตสเมาต์แบ็ตเตนแห่งเบอร์มา พระญาติผู้ใหญ่ที่ทรงสนิทและไว้วางพระทัย และดิเอกซ์เพรสนำมาเสนอไว้ในสกู๊ป ดังนี้
“การเกิดมาของลูกชายตัวน้อยของผมเป็นประสบการณ์อันน่าทึ่ง และเป็นเรื่องที่มีความหมายต่อผมมากยิ่งกว่าที่ผมเคยคาดคิดไว้ ผมดีใจที่ได้อยู่ข้างไดอานาตลอดเวลา เพราะผมรู้สึกราวกับว่าผมมีส่วนร่วมในกระบวนการกำเนิด และจึงได้รับรางวัลคือการเห็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยซึ่งเป็นของผมกับไดอานา แม้ว่าเค้าก็ดูเหมือนว่าจะเป็นของทุกคนด้วย”
ความชื่นชมและนับถือที่พสกนิกรมีต่อปรินซ์วิลเลียม ปรากฏชัดในโพสสำรวจความนิยมที่ประชาชนมีต่อสมาชิกพระราชวงศ์
บริษัท Ipsos ผู้เชี่ยวชาญการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อพระราชวงศ์อังกฤษ รายงานผลโพลเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2024 ว่าภาพลักษณ์ของพระราชตระกูลวินด์เซอร์ยังแข็งแกร่ง และความนิยมที่ได้รับก็ดีวันดีคืน ตลอดจนดีขึ้นจากที่สำรวจไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024ดี
โดยผลโพลที่สำรวจกันในระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2024 พบว่าปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ ทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด อยู่ที่ 69% เท่ากัน โดยดีขึ้นมา 9% และ 8% ตามลำดับ โดยทั้งสองพระองค์ทรงได้รับความยอมรับอย่างสูงเด่นในด้านของความถ่อมตัว เป็นมิตร ขณะเดียวกัน ทรงสง่างามสมพระฐานะเจ้าชายและเจ้าหญิง ยิ่งกว่านั้น ในบรรดาผู้สูงอายุจะชื่นชมว่าทรงเป็นแบบอย่างที่ดี
ขณะที่ปรินเซสแอนน์ ซึ่งทรงมีความโดดเด่นในเรื่องของการทรงงานหนัก และความตรงไปตรงมา ทรงได้รับความนิยมสูงสุดลำดับที่ 3 คือ 64%
ในส่วนของคิงชาร์ลส์ ทรงอยู่ที่ลำดับที่ 4 อยู่ที่ 56% ตามมาด้วยความป๊อปปูลาร์ของสถาบันกษัตริย์อังกฤษโดยรวม อยู่ที่ 56% เช่นกัน
ด้านควีนคามิลลาทรงอยู่ที่ลำดับ 7 และได้คะแนนนิยม 43% เพราะถูกแซงหน้าโดย ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ผู้ทรงเป็นน้องเขย ณ ลำดับที่ 6 และได้คะแนนนิยม 48%
ในการสำรวจรอบนี้ มีการเพิ่มปรินเซสเบียทริซกับปรินเซสยูเชนี (พระธิดาของปรินซ์แอนดรูว์ผู้ทรงประพฤติพระองค์อื้อฉาว) เข้าไว้ในแบบสอบถาม และปรากฏว่าทรงอยู่ในลำดับที่ 8 แล 9 โดยได้คะแนนนิยม 32% และ 31% ตามลำดับ
ถัดลงมาอันเป็นลำดับรองโหล่ คือ ปรินซ์แฮร์รี กับ ดัชเชสเมแกน อยู่ที่ลำดับที่ 10 และ 11 ได้คะแนนนิยม 31% และ 25% แต่คะแนนยี้สูงลิ่ว คือ 46% และ 53% ซึ่งเท่ากับว่าคะแนนนิยมติดลบ 15% และติดลบ 28% ตามลำดับ ทั้งนี้ ทั้งคู่เป็นผู้ที่โจมตีป้ายสีสถาบันกษัตริย์หนักหนาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเป็นที่เบื่อหน่ายเอือมระอาของผู้คนทั้งในอังกฤษและอเมริกา
สำหรับอันดับโหล่ ณ ลำดับที่ 13 คือ ปรินซ์แอนดรูว์ พระราชอนุชาของคิงชาร์ลส์ โดยปรินซ์แอนดรูว์ทรงได้รับคะแนนนิยมเพียง 12% ขณะที่คะแนนยี้ที่ได้รับคือสนั่นมาก 70% เท่ากับว่าทรงมีคะแนนนิยมติดลบ 58%
ปรินซ์วิลเลียม ขวัญใจพสกนิกรระดับเวอร์วัง เมื่อทรงวอนขอให้ยุติฆ่าฟันเด็ก-สตรีใน ‘ฉนวนกาซา’ ประชาชนก็พร้อมใจโนสนโนแคร์พระราชประเพณี หนุนปรินซ์พรึ่บพรั่บ
ปรินซ์วิลเลียมทรงได้รับพลังสนับสนุนแน่นปึ้กจากประชาชน หลังจากที่พระองค์ทรงออกพระถ้อยแถลงความคิดเห็นของพระองค์ต่อสงครามอันรุนแรงในฉนวนกาซา ที่ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ทั้งนี้ โพลของ YouGov พบว่าชาวอังกฤษส่วนใหญ่รู้สึกว่าพระถ้อยแถลงดังกล่าว “มีความเหมาะสม”
การแสดงความคิดเห็นต่อสงครามในฉนวนกาซา เป็นการฉีกออกจากพระราชประเพณีของสถาบันอังกฤษซึ่งสมาชิกพระราชวงศ์จะหลีกเลี่ยง เพราะจะถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ปรินซ์วิลเลียม พระชนมายุ 41 พรรษา ซึ่งทรงมีความเป็นห่วงต่อผู้คนที่ประสบหายนะและความทุกข์ยากเสมอ อาทิ เมื่อเกิดเหตุวิกฤติที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิต ได้รับความเดือดร้อน หรืออดอยาก พระองค์จะทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ไปสนับสนุนการดำเนินงานช่วยเหลือของหน่วยงานด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ในเอกสารถ้อยแถลงของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ขวัญใจพสกนิกรอังกฤษ เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2024 มีใจความว่า
‘ผมกังวลใจอย่างยิ่งต่อสถานการณ์อันเลวร้ายที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตมนุษย์ภายในความขัดแย้งที่ตะวันออกกลาง ตลอดตั้งแต่ที่มีการใช้กำลังโดยผู้ก่อการร้ายฮามาส เมื่อ 7 ตุลาคม มีผู้คนมากมายเหลือเกินถูกสังหาร
ผมก็เหมือนคนอื่นมากมายมหาศาล ที่ต้องการจะเห็นการสู้รบยุติลงโดยเร็วที่สุดที่จะเป็นได้ ขณะนี้มีความจำเป็นอย่างที่สุดที่จะต้องเพิ่มการสนับสนุนเชิงมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา สถานการณ์ขณะนี้วิกฤติอย่างหนัก จะต้องเร่งนำความช่วยเหลือเข้าไป และจะต้องปล่อยตัวประกัน’
ถ้อยแถลงของปรินส์ออฟเวลส์ซึ่งเป็นพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ เป็นการแสดงออกต่อปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซา ในลักษณะที่จริงจังที่สุด เดลิเมลออนไลน์บอกอย่างนั้น
พร้อมกับรายงานด้วยว่า มีประชาชนมากถึง 47% รู้สึกว่า “เป็นการเหมาะสม” ที่องค์รัชทายาทจะทรงแสดงความกังวลต่อวิกฤติการณ์ของมนุษยชาติ ขณะที่ 24% เท่านั้นที่มอง “เป็นการไม่เหมาะสม” หรือก็คือ ฝ่ายที่เชียร์ปรินซ์วิลเลียม มีมากกว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ตั้ง 2 เท่าตัว
โพลดังกล่าวซึ่งจัดทำโดย YouGov รายงานผลสำรวจเมื่อวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พร้อมกับให้ตัวเลขด้วยว่า ส่วนที่เหลืออีก 29% ตอบว่าไม่ทราบเลยว่าเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงควรหรือทรงไม่ควรที่จะแสดงความเห็นต่อ ‘สถานการณ์ในตะวันออกกลาง’
ด้านเดอะไทมส์ ไล่เรียงให้ทบทวนบทบาทต่างๆ ของปรินซ์วิลเลียมในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา ว่าปรินซ์ทรงก้าวออกไปดำเนินการหลายประการเกี่ยวกับประเด็นตะวันออกกลาง ก่อนที่พระองค์จะยกระดับขึ้นสู่การแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการ
แม้ปรินซ์ออฟเวลส์ทรงฉีกแนวออกจากแนวปฏิบัติของพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ล่วงลับ แต่พระดำรัสของพระองค์ก็แทบจะเป็นการถอดหัวใจของประชาชนออกมาเป็นถ้อยพระดำรัส จึงไม่น่าประหลาดใจที่ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับพระองค์
แน่นอนว่าสิ่งที่ปรินซ์วิลเลียมทรงดำเนินการ จะต้องถูกนักการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับพระองค์ ดาหน้ากันเข้าไปวิจารณ์เย้ยหยัน เช่น เป็นการไม่ฉลาด และไม่สมควรอย่างยิ่งที่ปรินซ์ทรงแหวกพระราชประเพณี และลุยเข้าไปแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งถ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังทรงมีพระชนม์ชีพ พระองค์จะทรงตกพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง
ส่วนนักการเมืองแนวจิกกัดก็เย้ยออกไปว่า ปรินซ์วิลเลียมน่าจะเอาเวลาไปหมกมุ่นกับพิธีแจกรางวัลนักแสดง BASFTA มากกว่า
นอกจากนั้น ยังมีความพยายามจะโยงเรื่องให้เกิดภาพว่า ถ้อยแถลงของปรินซ์วิลเลียมมีคำศัพท์และวลีที่นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลเคยกล่าวเคยใช้มาก่อน หรือก็คือการกล่าวหาว่าปรินซ์ทรงตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายรัฐบาล ข้อกล่าวหานี้เป็นแค่แท็กติกเพื่อด้อยค่าพระดำรัสนั่นเอง
ในการนี้ บรรดาแหล่งข่าววงในสำนักพระราชวังเคนซิงตันบอกเดลิเมลออนไลน์ว่า ปรินซ์วิลเลียมผู้ทรงเป็นพระบิดาของเจ้าชายและเจ้าหญิง 3 พระองค์ ทรงสะเทือนใจอย่างยิ่งกับการที่ประชาชนล้มตายหลายหมื่นชีวิต พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยออกมาเคลื่อนไหว และทรงเขียนถ้อยแถลงด้วยพระองค์เอง
“ฝ่าบาททรงเข้าแทรกแซงในเรื่องใหญ่โตอย่างนี้ เพราะความตายของเด็กและผู้หญิงเป็นประเด็นสำคัญที่แนบชิดอยู่ในพระหทัย” ข้าราชบริพารแห่งสำนักพระราชวังเคนซิงตันบอกกับเดลิเมลออนไลน์อย่างนั้น
ความเคลื่อนไหวของเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงมีขึ้นในห้วงที่รัฐสภาเตรียมการโหวตเพื่อกำหนดท่าทีของประเทศอังกฤษต่อสถานการณ์ความรุนแรงและต่อการหยุดยิงในฉนวนกาซา ในการนี้แหล่งข่าววงในรัฐบาลซูแน็ก ริชี บอกว่า
“เมื่อเจ้าฟ้าเจ้านายแห่งพระราชตระกูลทรงตรัส ประชาชนจะฟัง” คนวงในของรัฐบาลอังกฤษกล่าวกับนักข่าวเดลิเมล์ออนไลน์
และที่สำคัญคือ เมื่อเป็นพระดำรัสของ เจ้าฟ้าชายวิลเลียม อนาคตพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ ต่อสงครามอันรุนแรงในกาซาที่ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง สาธารณชนซึ่งรู้สึกในแนวทางเดียวกับพระองค์ ก็พากันแสดงความสนับสนุนพระองค์
และในเมื่อโพลของ YouGov ออกผลมาว่าสาธารณชนสนับสนุนปรินซ์วิลเลียม การวิพากษ์วิจารณ์พระองค์ก็ยุติลงในที่สุด
แนวทางการทรงงานของปรินซ์วิลเลียมในกาลต่อไปมีความชัดเจนว่า พระองค์จะเดินหน้าเป็น “ผู้นำทางสังคม” บีบีซีรายงานอย่างนั้น พร้อมระบุว่าพระภารกิจที่ปรินซ์ทรงวางรากฐานและขับเคลื่อนอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 3 กระแส ได้แก่
การลดปัญหาคนไร้บ้าน ซึ่งพระองค์ขับเคลื่อนโปรเจ็กต์สร้างที่พักอาศัยพร้อมโปรเจ็กต์สร้างงาน มาปีกว่าแล้วบนพื้นที่ของพระองค์เองจำนวน 6 ทำเลทั่วประเทศ
การส่งเสริมสุขภาพจิต
การสนับสนุนธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านโปรเจ็กต์ Earthshot ซึ่งทรงขับเคลื่อนในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก
บีบีซีบอกว่าพระภารกิจเหล่านี้เป็นวิสัยทัศน์ระดับสหัสวรรษของพระราชวงศ์วินด์เซอร์ สิ่งที่จะเป็นโครงการนำร่องเพื่อการสาธิตเหล่านี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะปรินซ์วิลเลียมทรงลุยงานเป็นจริงเป็นจริง ทรงถอดเน็กไท ถลกแขนเสื้อ และดำเนินงานในฐานะของงานสังคมสงเคราะห์เพื่อขับเคลื่อนวาระทางสังคมนั่นเอง
“สูงศักดิ์ หล่อล่ำ น้ำใจงาม มีอยู่จริงในดาวโลกดวงนี้” ภายใต้วิสัยทัศน์ บนทุนทรัพย์ และโดยฝีมือการวางแผนและบริหารจัดการ ของรัฐบุรุษ พระนามว่า เจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์แห่งเวลส์ คนนี้นี่เอง ต้องขออนุโมทนาบุญกับพระองค์อย่างด่วนเลย
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ บีบีซี เดอะซัน นิวยอร์กโพสต์ ดิเอกซ์เพรส เอพี รอยเตอร์)