xs
xsm
sm
md
lg

PLANET#3: ‘ปรินซ์วิลเลียม’ฉลองเบิร์ธเดย์เข้าสู่ปีที่ 42 ด้วยแต้มบุญท่วมท้น ขยับแต่ละหน ผู้คนหนุนพรึ่บ จากกรณี ‘กาซา’ ที่ต่อว่ากันหนัก สู่‘พระรูปกระโดดสูง’ เสียงเชียร์กระหึ่มตลอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปรินซ์วิลเลียมทรงเผชิญกับปัญหาหนักสารพัดเรื่อง เป็นซีรีส์ยาว ตลอดทั้งสามสี่เดือนแรกของปี 2024 ดังนั้นเมื่อถึงวันฉลองเบิร์ธเดย์ครบ 42 พรรษาเมื่อ 21 มิถุนายน 2024 อันเป็นห้วงที่บรรดาข่าวลือข่าวบ่อนทำลายจากสื่อมวลชนและเกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลายได้หายหน้าไปหมด ปรินเซสแคเธอริน พระชายาสุดรักทรงนำภาพชีวิตครอบครัวร่าเริงท่ามกลางเวิ้งฟ้าแจ่มใส มาเป็นภาพฉลองวันเกิด และทรงโพสต์ขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งก็ทรงได้รับคอมเมนต์จากแฟนคลับเชียร์เข้าไปท่วมท้น ในการนี้ พระองค์จะต้องเผชิญกับข่าวลือว่าทรงมีพระภรรยาน้อย อีกทั้งวิกฤติดรามาเจ้าหญิงเคทพระองค์จริงทรงอยู่ที่ไหนกันแน่ และวิกฤติพระรูปวันแม่เป็นภาพตัดต่อ ซึ่งสื่อมวลชนและกองทัพเกรียนคีย์บอร์ดตอแยจะจับโป๊ะสำนักพระราชวังให้เดี้ยงคามือให้จงได้ ใช่แต่เท่านั้น ยังมีกรณีที่ปรินซ์ทรงโนสนโนแคร์พระราชประเพณี และออกถ้อยแถลงเรียกร้องการหยุดยิงในสงครามยิว-ปาเลสไตน์ในดินแดนฉนวนกาซา ซึ่งส่งผลให้พระองค์ทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหนาสาหัสในประเด็นว่าทรงแทรกแซงทางการเมือง กระนั้นก็ตาม ปรินซ์วิลเลียมทรงลอยลำผ่านทุกปัญหามาได้ด้วยดี เพราะทรงมีแต้มบุญคุ้มครองมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แต้มบุญจากการที่ทรงได้รับความชื่นชมนิยมและเชื่อมั่นจากประชาชนมาโดยตลอด ทั้งในด้านจริยวัตรส่วนพระองค์ และในด้านผลงานการส่งเสริมสังคม ทั้งนี้ ทุกโพลทุกรอบจะออกผลมาว่า พระองค์และพระชายาทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษที่มีความป๊อปปูลาร์สูงสุด
ในห้วง 4-5 เดือนก่อนจะถึงพระเบิร์ธเดย์ 21 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา ช่างมากมายไปด้วยคืนวันอันหนักหนาสุดๆ สำหรับเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์ออฟเวลส์ อนาคตคิงอังกฤษ โดยเปิดปีมาสองสัปดาห์กว่า เจ้าหญิงแคเธอริน พระชายาสุดที่รัก ทรงต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ และประทับในโรงพยาบาล 13 วัน ตามมาด้วยการหยุดพระภารกิจทั้งปวงหลายเดือนเพื่อฟื้นพระพลานามัย พอถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปรินซ์ทรงต้องเผชิญข่าวร้าย เมื่อคณะแพทย์ตรวจพบว่าคิงชาร์ลส์ที่ 3 พระราชบิดาทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งส่งผลให้ทรงต้องงดเว้นพระราชกรณียกิจหลายเดือนเช่นกัน

ในขณะที่ปรินซ์วิลเลียมทรงต้องวิ่งรอก ทั้งเหมาดูแลพระโอรสพระธิดา ทั้งอภิบาลและเป็นกำลังใจแด่พระราชบิดาและพระชายา และทั้งรับพระภารกิจแห่งสำนักพระราชวัง นั้น ดวงพระหทัยเปี่ยมเมตตาของปรินซ์ทรงสั่นสะเทือนกับความตายอันมหาศาลของเด็กและสตรี ในดินแดนฉนวนกาซา ซึ่งเป็นผลจากสงครามที่อิสราเอลมุ่งกวาดล้างกลุ่มฮามาส และดังนั้น ปรินซ์วิลเลียมจึงทรงเผยแพร่พระถ้อยแถลงร้องขอการหยุดยิง เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์

การตัดสินพระทัยดำเนินภารกิจแห่งจิตสำนึกดังกล่าว ทำให้เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์ติเตียนอย่างกระหึ่มรอบด้านว่า ทรงแทรกแซงทางการเมือง ผิดพระราชประเพณีสุดๆ แต่ก็ปรากฏว่าเสียงสนับสนุนจากประชาชนปรากฏออกมาเชียร์พระองค์อย่างหนาแน่น

ย่างเข้าเดือนมีนาคม ดรามา “ปรินเซสเคทตัวจริงอยู่ไหน” ก่อตัวขึ้นอย่างยืดเยื้อ และสำทับด้วยวิกฤติภาพตัดต่อวันแม่ 10 มีนาคม ปรินซ์วิลเลียมทรงเหนื่อยหนักสุดๆ จากกระแสกดดันจากสื่อมวลชนและชาวเกรียนคีย์บอร์ด ที่เร่งรัดขอทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการพระประชวรของเจ้าหญิงเคท กระแสกดดันนี้กระทั่งพัฒนาขึ้นเป็นเสียงเรียกร้องวุ่นวาย ขอให้พระราชสำนักเปิดเผยว่า ปรินเซสเคทอยู่ไหน พร้อมนี้มีการสร้างสมมุติฐานฟุ้งซ่านดุเดือดมากมาย และลือกันไปต่างๆ นานา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวลือเรื่องเตียงหัก โดยปรินซ์วิลเลียมทรงถูกกระหน่ำว่า ทรงมีพระกิ๊ก และเป็นเหตุให้พระชายาเคททรงโทมนัส ทั้งนี้ การสร้างทฤษฎีเสียๆ หายๆ โดยไร้หลักฐานรองรับ ได้บานปลายไปถึงขั้นที่กระพือไปทั่วว่าปรินเซสเคททรงหลบไปจากวงสังคมเพราะปัญหามือที่สาม

ในท่ามกลางข่าวลือข่าวโคมลอยดังกล่าวตลอดช่วงเดือนมีนาคม 2024 นั้น ได้มีพิธีกรรายการทอล์กโชว์ในสหรัฐอเมริกา นามว่าสตีเฟน โคลเบิร์ท ออกมากล่าวกลางรายการ The Late Show by Stephen Colbert โดยระบุชื่อว่า สตรีลึกลับและมือที่สามคนนั้น คือ เลดีโรส ฮันเบอรี มาร์เชอเนสแห่งเชมลีย์ สุภาพสตรีแห่งครอบครัวชนชั้นขุนนางฐานะร่ำรวยของอังกฤษ

ข่าวลืออัปมงคลที่เกี่ยวกับการเป็นพระกิ๊กของปรินซ์วิลเลียมนี้ เคยแพร่กระจายในสังคมซูเปอร์ไฮโซมาแล้ว 2 รอบ รอบแรกมีขึ้นในปี 2019 แล้วซาไปจนสังคมลืมเลือน ส่วนรอบที่สองมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2022 และสำหรับการรีไซเคิลข่าวลือในรอบที่ 3 เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ครอบครัวของเลดีโรสประกาศเตรียมการที่จะฟ้องร้องดำเนินคดี สตีเฟน โคลเบิร์ท เรื่องโหดๆ ดังกล่าวจึงยุติลงได้

เลดีโรส ฮันเบอรี มาร์เชอเนสแห่งเชมลีย์ ที่ถูกหมิ่นประมาทร้ายแรงออกอากาศไปทั่วทั้งประเทศอเมริกาและประเทศอังกฤษ เป็นสุภาพสตรีแห่งครอบครัวชนชั้นขุนนางของอังกฤษ โดยคุณยายของเลดีโรสเป็น 1 ใน 8 เพื่อนเจ้าสาวของเจ้าหญิงเอลิซาเบธ ซึ่งในเวลาต่อมาทรงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในภาพนี้ ปรินซ์วิลเลียมกับปรินเซสเคททรงเสด็จร่วมงานสังคมที่มาร์ควิสแห่งเชมลีย์รุ่นที่ 7 สามีของเลดีโรส (ที่สองจากซ้าย) จัดขึ้นที่คฤหาสน์ฮูตัน ฮอลล์ ในปี 2016

เมื่อเลดีโรสเติบโตเป็นสาว เธอเข้าสู่วงการนางแบบ และภายหลังต่อมาก็สมรสกับ เดวิด ร็อกซาเวจ มาร์ควิสแห่งเชมลีย์รุ่นที่ 7 ซึ่งทำให้เธอมีบรรดาศักดิ์เป็นมาร์เชอเนสแห่งเชมลีย์  ข่าวลืออัปมงคลที่เกี่ยวกับการเป็นพระกิ๊กของปรินซ์วิลเลียม เคยแพร่กระจายในสังคมซูเปอร์ไฮโซมาในอดีตรวมได้ 2 รอบ รอบแรกมีขึ้นในปี 2019 แล้วซาไปจนสังคมลืมเลือน ส่วนรอบที่สองมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2022 สำหรับการรีไซเคิลข่าวลือนี้ในรอบที่ 3 เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ครอบครัวของเลดีโรสเตรียมการที่จะฟ้องร้องดำเนินคดี สตีเฟน โคลเบิร์ท เรื่องโหดๆ ดังกล่าวนี้จึงยุติลงได้
ในที่สุด ภาระบนสองไหล่กว้างของเจ้าฟ้าชายวิลเลียมก็คลี่คลาย เมื่อดรามาเจ้าหญิงเคทยุติลงด้วยดรามาชีวิตจริง

ในวันทำการสุดท้ายของโรงเรียน ศุกร์ที่ 22 มีนาคม ก่อนปิดเรียนสามสัปดาห์ในเทศกาลอีสเตอร์ เจ้าหญิงเคท ซึ่งทรงผ่ายผอมลงมหาศาล ได้บันทึกวิดีโอ กล่าวกับประชาชนอย่างสงบนุ่มนวลว่าคณะแพทย์ตรวจพบว่า พระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง

พร้อมนี้ ทรงอธิบายสาเหตุที่ทรงเลือกที่บอกในวันนั้น ว่าเพื่อปกป้องพระโอรสและพระธิดาทั้งสาม กล่าวคือ หลังจากที่ทรงแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์บีบีซีนั้น พระโอรสพระธิดาจะทรงอยู่ในพระตำหนัก ไม่ต้องทราบข่าวน่าตกใจนี้จากโลกภายนอก โดยพระองค์และพระสวามีจะใช้เวลาค่อยๆ บอกเล่าและอธิบายให้พระโอรสพระธิดาผู้ทรงพระเยาว์ได้เข้าใจ ภายในบรรยากาศอบอุ่นพ่อแม่ลูก

สาธารณชนและสื่อมวลชนตัวจี๊ดทั้งหลายออกอาการสะเทือนใจ และแสดงความสำนึกผิดที่ฟุ้งซ่านและกดดันเจ้าหญิงเคทแสนดีที่กำลังป่วยหนัก บรรยากาศว้าวุ่นทั้งปวงปิดฉากลงไปได้

เมื่อพ้นเทศกาลอีสเตอร์ ปรินซ์วิลเลียมทรงออกทรงงานน่าอนุโมทนาต่างๆ อาทิ โครงการสร้างที่พักเพื่อคนเร่ร่อน ที่ทรงเสด็จดูความก้าวหน้าของโครงการในเทศมณฑลคอร์นวอลล์ ซึ่งเป็นดัชชี่ที่ปรินซ์ทรงเป็นดยุกแห่งคอร์นวอลล์ พร้อมกับทักทายประชาชน รวมถึงดูงานโปรเจ็กต์ไลฟ์การ์ดอาสาสมัครที่ชายทะเลฟิตส์ทรัลในเมืองนิวคีย์ เทศมณฑลคอร์นวอลล์ และทรงลงเล่นวอลเลย์บอลชายหาดกับทีมเยาวชนไลฟ์การ์ดอย่างน่ารักน่าชื่นชม

ด้วยการทรงงานช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนการวางพระองค์อย่างให้เกียรติและให้กำลังใจแก่ผู้คนทั้งปวง อีกทั้งการดำรงพระองค์เป็นรัชทายาทที่ดีงามน่านับถือ ทำให้ปรินซ์วิลเลียมทรงเป็นความภาคภูมิใจและรักใคร่ของพสกนิกร แต้มบุญส่วนพระองค์จึงทวีตัวยั่งยืนขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ ดังปรากฏว่าในการทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อเจ้าฟ้าชายวิลเลียม พระองค์ทรงได้รับคะแนนนิยมสูงสม่ำเสมอ ประมาณว่า ‘ทรงทำสิ่งใด พสกนิกรก็เป็นปลื้มด้วยทั้งสิ้น’ พอกล่าวได้

ทรงครองใจพสกนิกรได้อย่างง่ายๆ แต่ติดตรึงลึกซึ้ง เพราะปรินซ์ทรงมีพลังซอฟต์พาวเวอร์ขนานแท้อยู่ในพระดีเอ็นเอ ซึ่งจะแผ่ออกมาด้วยกันกับพระจริยวัตรใจดีอบอุ่น ใส่พระทัยกับสิ่งละอันพันน้อยของผู้คน:- ขณะทรงเยี่ยมเยือนดัชชีคอร์นวอลล์เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2024 และดูงานการลงโปรเจ็กต์ของพระองค์ว่าด้วยบ้านเอื้ออาทรแก่คนเร่ร่อนในเมืองนิวคีย์ ที่ทรงดำเนินการบนที่ดินของพระองค์ในฐานะดยุกแห่งคอร์นวอลล์ นั้น ปรินซ์วิลเลียมทรงแวะชมกิจกรรมพัฒนาชุมชนที่คนท้องถิ่นแห่งชายหาดฟิตส์ทรัลริเริ่มกันเอง อาทิ กิจกรรมฝึกสร้างไลฟ์การ์ดให้ดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวผู้มาเล่นวินด์เซิร์ฟในทะเลเกรดเยี่ยมของคอร์นวอลล์ อีกทั้งกิจกรรมกีฬาชายหาด สันทนาการสนุกๆ เพื่อความสามัคคี ทั้งนี้ เมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นหนูน้อยนักกีฬารุ่นจิ๋ววัย 9 ขวบ นามว่า น้องฟีนิกซ์ มีเฝือกมอมแมมสมอายุ หุ้มแขนซ้าย ปรินซ์ทรงเข้าไปถามความเป็นมา และได้ทราบว่าน้องเล่นชิงช้า แล้วร่วงลงพื้น บีบีซีเล่าไว้อย่างนั้น ปรินซ์คุณพ่อลูกสามจึงกำชับว่าหนูจะต้องระมัดระวังให้ดีนะครับ ต่อไปเวลาเล่นชิงช้า ก็ต้องกุมที่จับให้ถูกต้องให้รัดกุมเลยครับ พร้อมนี้ทรงเซ็นพระนามพลางยิ้มเอ็นดูไว้บนเฝือกแห่งมิตรภาพของน้องฟีนิกซ์ด้วย ถ้าไม่หลงรักปรินซ์วิลเลียม เดอะคองเควียร์เรอร์ (จอมพิชิตดวงใจ) พระองค์นี้ ก็ไม่ทราบว่าจะไปหลงรักใครดี

ปรินซ์วิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงเข้าร่วมแมตช์วอลเลย์บอลชายหาดระหว่างทีมสโมสรผู้ช่วยชีวิตนักเล่นเซิร์ฟแห่งนิวคีย์ กับทีมสโมสรผู้ช่วยชีวิตนักเล่นเซิร์ฟแห่งโฮลีแวลล์ เบย์ เป็นที่ชื่นมื่นครึกครื้นของพสกนิกรโดยทั่วหน้า หลังจากนั้นก็ทรงถ่ายเซลฟีกับประชาชน ในการนี้ เนื่องจากชายหาดฟิตส์ทรัลของเมืองนิวคีย์เป็นแหล่งเล่นกระดานโต้คลื่นยอดนิยมสูงสุดแห่งหนึ่ง ประสิทธิภาพการทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของทีมไลฟ์การ์ด จึงเป็นจุดดึงดูดนักวินด์เซิร์ฟ ดังนั้น ปรินซ์วิลเลียมจึงเสด็จไปดูการฝึกอบรมกระบวนการทำงานของไลฟ์การ์ด และทรงพบปะสนทนากับสมาชิกกลุ่มสถาบันไลฟ์การ์ด แห่งราชสถาบันเรือชูชีพแห่งชาติ หรือ RNLI ที่คอยลาดตระเวนไปตามชายหาด ให้นักโต้คลื่นมั่นใจถึงความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นขณะเล่นกระดานโต้คลื่น ทีมไลฟ์การ์ดจึงเป็นทีมสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจให้บริการทะเลวินด์เซิร์ฟที่รับประกันความปลอดภัยแก่นักเล่นกระดานโต้คลื่นนั่นเอง บีบีซีรายงานว่าในโครงการสร้างบ้านเอื้ออาทรให้แก่คนเร่ร่อนในเมืองนิวคีย์ (1 ใน 6 พื้นถิ่นที่ปรินซ์ทรงนำโปรเจ็กต์ไปดำเนินการ) จะผนวกเอาการฝึกอาชีพไลฟ์การ์ดแถมให้ด้วย เพื่อสร้างงานซึ่งจะช่วยให้คนไร้บ้านตั้งต้นชีวิตใหม่ พ้นจากความยากจน-ตกงาน ได้สำเร็จ

เมืองเชฟฟิลด์เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ปรินซ์วิลเลียมทรงนำโครงการบ้านเอื้ออาทรเพื่อคนเร่ร่อนไปดำเนินการ โดยเมื่อ 25 มีนาคม 2024 ปรินซ์ทรงเสด็จไปเยือนเพื่อโปรโมตพระภารกิจนี้ และพระองค์ได้สร้างความประทับใจขั้นสุดให้แก่พสกนิกรเล็กๆ สองราย หนึ่งในนั้น คือ ลี สติชคอมท์ หนุ่มฉกรรจ์วัย 33 กะรัต ซึ่งมาในชุดพนักงาน เดอะซัน สื่อทรงอิทธิพลค่ายยักษ์ของอังกฤษ เล่าว่า ขณะที่ปรินซ์ทรงก้าวผ่านหนุ่มลี เขากราบทูลขอถ่ายเซลฟีกับพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงโอเคทันที และเขาก็เกิดประหม่าขึ้นอย่างปุบปับ พยายามจะควักโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงช่างด้วยความยากเย็น ปรินซ์ต้องช่วยเอาแก้วกาแฟของเขามาถือให้ แถมแนะนำวิธีเปลี่ยนไปใช้กล้องหน้าเพื่อถ่ายเซลฟี  แล้วทรงวางพระหัตถ์ทั้งสองบนบ่าของหนุ่มลีอย่างไม่ถือพระองค์ พร้อมกับยิ้มให้กล้อง เพื่อที่หนุ่มช่างชุดส้มจะได้ภาพถ่ายคู่กับพระองค์ที่ดูดีงามเอาไปอวดเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งปวง “ขอบพระทัยพะยะค่ะ” หนุ่มลีกล่าว; “คุณชื่ออะไรครับ” ปรินซ์ถาม; “ผมชื่อลีฮะ” เขาตอบ; “ขอให้ราบรื่นตลอดวันนะ” ปรินซ์ตรัสอวยพร และเช็กแฮนด์กัน พร้อมกับส่งถ้วยกาแฟคืนหนุ่มช่าง แถมด้วยการแตะไหล่ของลี และกล่าวลา ในการนี้ ปรินซ์ทรงประทานสุดยอดโมเมนต์แห่งชีวิตแก่เขาผู้เป็นพสกนิกรธรรมดาคนหนึ่งที่มิได้ถูกปรินซ์มองข้ามความเป็นมนุษย์ นี่คือประสบการณ์หลายนาทีที่เขาจะนำไปเล่าซ้ำๆ อย่างมีความสุขจนชั่วชีวิต เพราะเขาจะจดจำความอบอุ่นใจดีของเจ้าฟ้าชายด้วยความรู้สึกขอบคุณตลอดกาลนาน ส่วนสำหรับปรินซ์วิลเลียม พระองค์ทรงแข็งแกร่งด้วยวุฒิภาวะที่เต็มเปี่ยม เพราะในวันดังกล่าว เป็นห้วงเวลา 3 วันให้หลังจากที่พระชายาเคทได้แจ้งให้ประชาชนทราบว่าพระนางป่วยด้วยโรคมะเร็ง พระหทัยของปรินซ์อยู่ในความทุกข์ตรมอย่างมากมาย แต่พระองค์ทรงวางมิตินั้นลงไปก่อน เพื่อประทานเวลาอย่างเต็มที่แก่พสกนิกรของพระองค์

พระรูปฉลองเบิร์ธเดย์ที่ปรินเซสเคททรงจัดทำถวายปรินซ์วิลเลียมผู้เป็นพระสวามี พร้อมคำอวยพระพรอย่างอ่อนหวาน
ปรินเซสเคทนำพระรูปปรินซ์วิลเลียมพร้อมพระโอรสพระธิดา กระโดดสูงดูร่าเริงน่าสนุก ขึ้นแชร์ให้แฟนานุแฟนได้ชื่นชม พร้อมถ้อยคำหวานฉ่ำ “ปะป๊าคะ เราทุกคนรักพระองค์นะคะ”

พระรูปบานใหม่ของปรินซ์ออฟเวลส์ได้รับการเผยแพร่ให้เป็นที่ระลึกถึงวันพระเบิร์ธเดย์ครบรอบ 42 พรรษา เมื่อศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2024 โดยเป็นพระรูปที่สนุกสุดๆ ของรัชทายาทลำดับที่ 1 - 4 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงกระโดดลอยอยู่ในอากาศ

“สุขสันต์วันเกิดนะคะ ปะป๊า เราทุกคนรักพระองค์มากเหลือเกินค่ะ!” ลงชื่อ Cx. (แคเธอริน) เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ด้วยองค์ประกอบของพระรูปที่เจ้าชายและเจ้าหญิงทั้ง 4 พระองค์ทรงพระภูษาลำลองขาสั้น เรียบง่ายและดูสนุกครึกครื้น มีวิวท้องฟ้าสดใสอยู่ด้านหลัง บรรยากาศของภาพจึงอบอุ่นเต็มไปด้วยความใกล้ชิดระหว่างพ่อ-ลูก พสกนิกรผู้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของพระครอบครัวแห่งเวลส์ พากันปลื้มปริ่มและแห่กันเข้าไปเชียร์

หลายคนเขียนชื่นชมว่า “อาจจะเป็นพระรูปของพระครอบครัวเวลส์ที่ดีที่สุดที่พวกเราเคยได้เห็น”

อีกหลายๆ คนตั้งพระฉายาถวายปรินซ์วิลเลียมว่า “ปรินซ์ผู้ทรงพระชิลล์ขั้นสุด”

“แฮปปีเบิร์ธเดย์ เพคะ ปรินซ์วิลเลียม หม่อมฉันขออวยพระพรให้พระองค์ทรงพบเจอแต่สิ่งดีที่สุด และขอให้ทรงมีความสุขมากขึ้นมากๆ เพคะ” แฟนคลับนางหนึ่งของปรินซ์ขวัญใจพสกนิกร เขียนไว้ในคอมเมนต์

“จับภาพได้สวยเหลือเกินพะยะค่ะ” อีกรายหนึ่งคอมเมนต์อย่างนั้น พร้อมคำอวยพระพร “แฮปปีเบิร์ธเดย์ แด่ปรินซ์วิลเลียม”

ทัศนะของแฟนานุแฟนที่ปรากฏมากพิเศษประการหนึ่งคือ คำสรรเสริญว่าทรงเป็นพระครอบครัวแสนสุขและเป็นธรรมชาติธรรมดาดีจัง

คอมเมนต์ปลื้มปริ่มที่แฟนานุแฟนของพระครอบครัวเวลส์ แห่เข้าไปเขียนชมเขียนเชียร์พระรูปสนุกครึกครื้นระหว่างปรินซ์วิลเลียมกับพระโอรสพระธิดา เนื่องในวโรกาสการฉลองพระเบิร์ธเดย์ของปรินซ์ เรียกได้ว่าทรงทำอะไร ผู้คนก็รักก็ปลื้มไปทั้งหมดทั้งสิ้น เพราะทรงทำด้วยความจริงใจ โดยมุ่งให้แฟนคลับได้รับความสุข

พระรูปของปรินซ์วิลเลียมกับพระโอรสพระธิดาที่ปรินเซสแคเธอรินใช้อวยพระพรพระสวามี เนื่องในโอกาสวันพ่อ 16 มิถุนายน 2024 ซึ่งได้รับคอมเมนต์ชื่นชมเข้าไปมหาศาล ว่างดงามอบอุ่น เป็นธรรมดาเป็นธรรมชาติ
นอกจากคอมเมนต์ปลื้มปริ่มเหล่านี้ที่ปรากฏใต้กระทู้ของ The Prince and Princess of Wales แล้ว ยังมีแอคเคาท์ the Royal Family บนโซเชียลมีเดียของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่นำพระรูปประทับใจของปรินซ์ไปตั้งกระทู้อวยพร อันได้แก่ พระรูปขาว-ดำที่กษัตริย์ชาร์ลส์ยังทรงเป็นคุณพ่อมือใหม่ โอบพระกายจ้ำม่ำของปรินซ์วิลเลียม และมีคำอวยพรว่า ขอให้ปรินซ์ออฟเวลส์มีวันเกิดแสนสุขมากๆ

ปรินซ์วิลเลียมพระราชโอรสพระองค์โตของกษัตริย์ชาร์ลส์ ทรงเป็นที่รักและเป็นความภาคภูมิพระทัยอย่างยิ่งของพระราชบิดา ในห้วงที่ปรินซ์ทรงประสูติใหม่ๆ ทรงสร้างความรู้สึกประทับใจใหญ่หลวงแก่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ผู้ทรงเป็นพระบิดา โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงเขียนไว้ตอนหนึ่งในจดหมายถึงเคาน์เตสเมาต์แบ็ตเตนแห่งเบอร์มา พระญาติผู้ใหญ่ที่ทรงสนิทและไว้วางพระทัย และดิเอกซ์เพรสนำมาเสนอไว้ในสกู๊ป ดังนี้

“การเกิดมาของลูกชายตัวน้อยของผมเป็นประสบการณ์อันน่าทึ่ง และเป็นเรื่องที่มีความหมายต่อผมมากยิ่งกว่าที่ผมเคยคาดคิดไว้ ผมดีใจที่ได้อยู่ข้างไดอานาตลอดเวลา เพราะผมรู้สึกราวกับว่าผมมีส่วนร่วมในกระบวนการกำเนิด และจึงได้รับรางวัลคือการเห็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยซึ่งเป็นของผมกับไดอานา แม้ว่าเค้าก็ดูเหมือนว่าจะเป็นของทุกคนด้วย”

คำอวยพรที่คิงชาร์ลส์จัดทำให้แก่ปรินซ์วิลเลียม เนื่องในวันพระเบิร์ธเดย์ พสกนิกรเข้าไปเขียนเชียร์กันล้นหลามว่าพระราชบิดาทรงเลือกพระรูปได้ถูกใจประชาชนเหลือเกิน

ในวันพ่อที่ผ่านมา ปรินซ์วิลเลียมทรงเลือกพระรูปบานนี้ประกอบการถวายพระพรแด่พระราชบิดา โดยคิงชาร์ลส์ทรงหล่อเหลาและผอมเพรียว ประมาณว่าปรินซ์ทรงเอาใจพระราชบิดาอย่างสุดๆ
ความชื่นชมและนับถือที่พสกนิกรมีต่อปรินซ์วิลเลียม ปรากฏชัดในโพสสำรวจความนิยมที่ประชาชนมีต่อสมาชิกพระราชวงศ์

บริษัท Ipsos ผู้เชี่ยวชาญการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อพระราชวงศ์อังกฤษ รายงานผลโพลเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2024 ว่าภาพลักษณ์ของพระราชตระกูลวินด์เซอร์ยังแข็งแกร่ง และความนิยมที่ได้รับก็ดีวันดีคืน ตลอดจนดีขึ้นจากที่สำรวจไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024ดี

โดยผลโพลที่สำรวจกันในระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2024 พบว่าปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ ทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด อยู่ที่ 69% เท่ากัน โดยดีขึ้นมา 9% และ 8% ตามลำดับ โดยทั้งสองพระองค์ทรงได้รับความยอมรับอย่างสูงเด่นในด้านของความถ่อมตัว เป็นมิตร ขณะเดียวกัน ทรงสง่างามสมพระฐานะเจ้าชายและเจ้าหญิง ยิ่งกว่านั้น ในบรรดาผู้สูงอายุจะชื่นชมว่าทรงเป็นแบบอย่างที่ดี

ขณะที่ปรินเซสแอนน์ ซึ่งทรงมีความโดดเด่นในเรื่องของการทรงงานหนัก และความตรงไปตรงมา ทรงได้รับความนิยมสูงสุดลำดับที่ 3 คือ 64%

ในส่วนของคิงชาร์ลส์ ทรงอยู่ที่ลำดับที่ 4 อยู่ที่ 56% ตามมาด้วยความป๊อปปูลาร์ของสถาบันกษัตริย์อังกฤษโดยรวม อยู่ที่ 56% เช่นกัน

ด้านควีนคามิลลาทรงอยู่ที่ลำดับ 7 และได้คะแนนนิยม 43% เพราะถูกแซงหน้าโดย ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ผู้ทรงเป็นน้องเขย ณ ลำดับที่ 6 และได้คะแนนนิยม 48%

ในการสำรวจรอบนี้ มีการเพิ่มปรินเซสเบียทริซกับปรินเซสยูเชนี (พระธิดาของปรินซ์แอนดรูว์ผู้ทรงประพฤติพระองค์อื้อฉาว) เข้าไว้ในแบบสอบถาม และปรากฏว่าทรงอยู่ในลำดับที่ 8 แล 9 โดยได้คะแนนนิยม 32% และ 31% ตามลำดับ

ถัดลงมาอันเป็นลำดับรองโหล่ คือ ปรินซ์แฮร์รี กับ ดัชเชสเมแกน อยู่ที่ลำดับที่ 10 และ 11 ได้คะแนนนิยม 31% และ 25% แต่คะแนนยี้สูงลิ่ว คือ 46% และ 53% ซึ่งเท่ากับว่าคะแนนนิยมติดลบ 15% และติดลบ 28% ตามลำดับ ทั้งนี้ ทั้งคู่เป็นผู้ที่โจมตีป้ายสีสถาบันกษัตริย์หนักหนาซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเป็นที่เบื่อหน่ายเอือมระอาของผู้คนทั้งในอังกฤษและอเมริกา

สำหรับอันดับโหล่ ณ ลำดับที่ 13 คือ ปรินซ์แอนดรูว์ พระราชอนุชาของคิงชาร์ลส์ โดยปรินซ์แอนดรูว์ทรงได้รับคะแนนนิยมเพียง 12% ขณะที่คะแนนยี้ที่ได้รับคือสนั่นมาก 70% เท่ากับว่าทรงมีคะแนนนิยมติดลบ 58%

ภาพสรุปผลโพลว่าด้วยความน่านิยมที่สมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษได้รับจากประชาชน โดยบริษัท Ipsos ทำการสำรวจในระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2024 ทั้งนี้ ปรินซ์วิลเลียมและปรินเซสเคททรงมีคะแนนนิยมเกือบจะเท่ากันที่ 69% โดยปรินเซสเคททรงขึ้นเป็นอันดับที่ 1 พร้อมกับนำหน้าพระสวามีนิดเดียว ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซนต์
ปรินซ์วิลเลียม ขวัญใจพสกนิกรระดับเวอร์วัง เมื่อทรงวอนขอให้ยุติฆ่าฟันเด็ก-สตรีใน ‘ฉนวนกาซา’ ประชาชนก็พร้อมใจโนสนโนแคร์พระราชประเพณี หนุนปรินซ์พรึ่บพรั่บ

ปรินซ์วิลเลียมทรงได้รับพลังสนับสนุนแน่นปึ้กจากประชาชน หลังจากที่พระองค์ทรงออกพระถ้อยแถลงความคิดเห็นของพระองค์ต่อสงครามอันรุนแรงในฉนวนกาซา ที่ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ทั้งนี้ โพลของ YouGov พบว่าชาวอังกฤษส่วนใหญ่รู้สึกว่าพระถ้อยแถลงดังกล่าว “มีความเหมาะสม”

การแสดงความคิดเห็นต่อสงครามในฉนวนกาซา เป็นการฉีกออกจากพระราชประเพณีของสถาบันอังกฤษซึ่งสมาชิกพระราชวงศ์จะหลีกเลี่ยง เพราะจะถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ปรินซ์วิลเลียม พระชนมายุ 41 พรรษา ซึ่งทรงมีความเป็นห่วงต่อผู้คนที่ประสบหายนะและความทุกข์ยากเสมอ อาทิ เมื่อเกิดเหตุวิกฤติที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิต ได้รับความเดือดร้อน หรืออดอยาก พระองค์จะทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ไปสนับสนุนการดำเนินงานช่วยเหลือของหน่วยงานด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

ในเอกสารถ้อยแถลงของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ขวัญใจพสกนิกรอังกฤษ เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2024 มีใจความว่า

‘ผมกังวลใจอย่างยิ่งต่อสถานการณ์อันเลวร้ายที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตมนุษย์ภายในความขัดแย้งที่ตะวันออกกลาง ตลอดตั้งแต่ที่มีการใช้กำลังโดยผู้ก่อการร้ายฮามาส เมื่อ 7 ตุลาคม มีผู้คนมากมายเหลือเกินถูกสังหาร

ผมก็เหมือนคนอื่นมากมายมหาศาล ที่ต้องการจะเห็นการสู้รบยุติลงโดยเร็วที่สุดที่จะเป็นได้ ขณะนี้มีความจำเป็นอย่างที่สุดที่จะต้องเพิ่มการสนับสนุนเชิงมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา สถานการณ์ขณะนี้วิกฤติอย่างหนัก จะต้องเร่งนำความช่วยเหลือเข้าไป และจะต้องปล่อยตัวประกัน’


ถ้อยแถลงของปรินส์ออฟเวลส์ซึ่งเป็นพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ เป็นการแสดงออกต่อปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซา ในลักษณะที่จริงจังที่สุด เดลิเมลออนไลน์บอกอย่างนั้น

พร้อมกับรายงานด้วยว่า มีประชาชนมากถึง 47% รู้สึกว่า “เป็นการเหมาะสม” ที่องค์รัชทายาทจะทรงแสดงความกังวลต่อวิกฤติการณ์ของมนุษยชาติ ขณะที่ 24% เท่านั้นที่มอง “เป็นการไม่เหมาะสม” หรือก็คือ ฝ่ายที่เชียร์ปรินซ์วิลเลียม มีมากกว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ตั้ง 2 เท่าตัว


โพลดังกล่าวซึ่งจัดทำโดย YouGov รายงานผลสำรวจเมื่อวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พร้อมกับให้ตัวเลขด้วยว่า ส่วนที่เหลืออีก 29% ตอบว่าไม่ทราบเลยว่าเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงควรหรือทรงไม่ควรที่จะแสดงความเห็นต่อ ‘สถานการณ์ในตะวันออกกลาง’

ถ้อยแถลงที่ปรินซ์วิลเลียมทรงนำออกเผยแพร่ (ภาพขวา) เพื่อเรียกร้องการหยุดยิงในดินแดนฉนวนกาซา
ด้านเดอะไทมส์ ไล่เรียงให้ทบทวนบทบาทต่างๆ ของปรินซ์วิลเลียมในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา ว่าปรินซ์ทรงก้าวออกไปดำเนินการหลายประการเกี่ยวกับประเด็นตะวันออกกลาง ก่อนที่พระองค์จะยกระดับขึ้นสู่การแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการ

แม้ปรินซ์ออฟเวลส์ทรงฉีกแนวออกจากแนวปฏิบัติของพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ล่วงลับ แต่พระดำรัสของพระองค์ก็แทบจะเป็นการถอดหัวใจของประชาชนออกมาเป็นถ้อยพระดำรัส จึงไม่น่าประหลาดใจที่ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับพระองค์

แน่นอนว่าสิ่งที่ปรินซ์วิลเลียมทรงดำเนินการ จะต้องถูกนักการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับพระองค์ ดาหน้ากันเข้าไปวิจารณ์เย้ยหยัน เช่น เป็นการไม่ฉลาด และไม่สมควรอย่างยิ่งที่ปรินซ์ทรงแหวกพระราชประเพณี และลุยเข้าไปแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งถ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังทรงมีพระชนม์ชีพ พระองค์จะทรงตกพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง

ส่วนนักการเมืองแนวจิกกัดก็เย้ยออกไปว่า ปรินซ์วิลเลียมน่าจะเอาเวลาไปหมกมุ่นกับพิธีแจกรางวัลนักแสดง BASFTA มากกว่า

นอกจากนั้น ยังมีความพยายามจะโยงเรื่องให้เกิดภาพว่า ถ้อยแถลงของปรินซ์วิลเลียมมีคำศัพท์และวลีที่นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลเคยกล่าวเคยใช้มาก่อน หรือก็คือการกล่าวหาว่าปรินซ์ทรงตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายรัฐบาล ข้อกล่าวหานี้เป็นแค่แท็กติกเพื่อด้อยค่าพระดำรัสนั่นเอง

ในการนี้ บรรดาแหล่งข่าววงในสำนักพระราชวังเคนซิงตันบอกเดลิเมลออนไลน์ว่า ปรินซ์วิลเลียมผู้ทรงเป็นพระบิดาของเจ้าชายและเจ้าหญิง 3 พระองค์ ทรงสะเทือนใจอย่างยิ่งกับการที่ประชาชนล้มตายหลายหมื่นชีวิต พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยออกมาเคลื่อนไหว และทรงเขียนถ้อยแถลงด้วยพระองค์เอง

“ฝ่าบาททรงเข้าแทรกแซงในเรื่องใหญ่โตอย่างนี้ เพราะความตายของเด็กและผู้หญิงเป็นประเด็นสำคัญที่แนบชิดอยู่ในพระหทัย” ข้าราชบริพารแห่งสำนักพระราชวังเคนซิงตันบอกกับเดลิเมลออนไลน์อย่างนั้น

ความเคลื่อนไหวของเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงมีขึ้นในห้วงที่รัฐสภาเตรียมการโหวตเพื่อกำหนดท่าทีของประเทศอังกฤษต่อสถานการณ์ความรุนแรงและต่อการหยุดยิงในฉนวนกาซา ในการนี้แหล่งข่าววงในรัฐบาลซูแน็ก ริชี บอกว่า

“เมื่อเจ้าฟ้าเจ้านายแห่งพระราชตระกูลทรงตรัส ประชาชนจะฟัง” คนวงในของรัฐบาลอังกฤษกล่าวกับนักข่าวเดลิเมล์ออนไลน์

และที่สำคัญคือ เมื่อเป็นพระดำรัสของ เจ้าฟ้าชายวิลเลียม อนาคตพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ ต่อสงครามอันรุนแรงในกาซาที่ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง สาธารณชนซึ่งรู้สึกในแนวทางเดียวกับพระองค์ ก็พากันแสดงความสนับสนุนพระองค์


และในเมื่อโพลของ YouGov ออกผลมาว่าสาธารณชนสนับสนุนปรินซ์วิลเลียม การวิพากษ์วิจารณ์พระองค์ก็ยุติลงในที่สุด

เนื่องจากประเทศอังกฤษมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวยิวเข้าไปสร้างรัฐอิสราเอลในพื้นที่ที่ชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ และส่งผลให้เกิดการสู้รบระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์อย่างรุนแรงยืดเยื้อมาครั้งแล้วครั้งเล่า ด้านรัฐบาลอังกฤษมีการจัดทำโครงการพัฒนาทางสังคมให้แก่ชาวปาเลสไตน์ เจ้าฟ้าชายวิลเลียมจึงทรงเข้าไปช่วยเหลือโดยให้ความสำคัญแก่พื้นที่ความขัดแย้งอย่าง เขตเวสต์แบงก์ของชาวปาเลสไตน์ที่มีชาวยิวเข้าไปตั้งนิคม และมีทหารยิวเข้าไปยึดครองและควบคุม โดยในวันที่ 26-27 มิถุนายน 2018 พระองค์ทรงเสด็จเยือนกรุงเทลอาวีฟ และเขตเวสต์แบงก์โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายผู้ลี้ภัย เพื่อเสริมแกร่งโครงการความร่วมมืออังกฤษ-ปาเลสไตน์ ในภาพนี้ พระองค์ทรงทักทายกับเด็กๆ ปาเลสไตน์ที่พัฒนาตนเองเป็นนักฟุตบอล

ปรินซ์วิลเลียมเยือนเขตเวสต์แบงก์เมื่อ 27 มิถุนายน 2018 โดยนิวยอร์กโพสต์ระบุว่า ทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์วินด์เซอร์พระองค์แรกที่เสด็จเยือนภูมิภาคนี้ของย่านตะวันออกกลาง  ในภาพนี้ ทรงประทับยืนใกล้แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของมัสยิดอัลอักศอ แลเห็นโดมแห่งศิลา Dome of the Rock  สีทองโดดเด่น ด้วยพระภารกิจนี้ของปรินซ์วิลเลียม เดอะไทมส์จึงชี้ให้สังเกตว่าก่อนที่ปรินซ์จะทรงร้องขอการหยุดยิงในกาซา เพื่อรักษาชีวิตของเด็กและสตรีนั้น พระองค์ทรงลงไปศึกษาและดำเนินงานในภูมิภาคนี้มาหลายปีแล้ว

นอกจากที่ปัญหาการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนทำให้ชาวยูเครเนียนบาดเจ็บล้มตาย และมีผู้อพยพหนีภัยไปเป็นคนพลัดถิ่นในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังมีผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของยุโรป ดังนั้น อังกฤษร่วมมือกับชาติพันธมิตรในการช่วยเหลือให้ยูเครนสามารถรับมือกับรัสเซียซึ่งเป็นชาติที่ใหญ่กว่า ในการนี้ โปแลนด์ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครนจึงแบกภาระหนักในการรองรับช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามจากยูเครน และให้พื้นที่เป็นฐานที่ตั้งแก่กองกำลังชาติพันธมิตรของยูเครน ซึ่งรวมถึงกองกำลังชาติอังกฤษ คือ กองพลน้อยที่ 3 รักษาดินแดน และเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2023 เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงเสด็จเยี่ยมเยือนให้กำลังใจแก่กองกำลังทหารอังกฤษในฐานที่มั่นเมืองเรสโซวอันเป็นเมืองชายแดนติดต่อกับยูเครน และได้พบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ (ยืนด้านขวาของพระองค์) พร้อมถ่ายภาพร่วมกันกับทหารโปแลนด์และทหารอังกฤษ ทั้งนี้ เป็นการเสด็จเยือนโดยไม่มีการประกาศหมายกำหนดการล่วงหน้า เพื่อมิให้เป็นภาระหนักสำหรับหน่วยงานถวายการรักษาความปลอดภัย

ปรินซ์วิลเลียมทรงแวะเยี่ยมทักทายผู้ลี้ภัยสงครามจากยูเครน มาพักอาศัยอยู่ในโปแลนด์ ทรงรับฟังประสบการณ์การตั้งต้นชีวิตใหม่และการหางานทำในโปแลนด์ รวมทั้งได้สนทนากับครอบครัวชาวโปล ที่เปิดบ้านต้อนรับผู้ลี้ภัยให้ได้พักพิงเพราะสงสารคนตกทุกข์ได้ยาก ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ลี้ภัยที่เข้าพักในสถานที่สงเคราะห์ของรัฐบาล จะได้รับอาหารวันละ 2 มื้อ ได้เรียนภาษาโปลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้งานทำ ตลอดจนได้รับการสนับสนุนเยียวยาทางจิตใจ นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่สันทนาการให้แก่เด็กๆ ด้วย อนึ่ง หญิงสาวที่นั่งข้างปรินซ์วิลเลียมเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครชาวโปล ที่เข้าไปช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ รวมทั้งดูแลให้ผู้ลี้ภัยได้รับส่วนแบ่งสิ่งของบริจาคที่ชุมชนลงขันกันช่วยเหลือ และรวบรวมไว้แจกจ่ายอยู่ในร้านฟรีช็อป
แนวทางการทรงงานของปรินซ์วิลเลียมในกาลต่อไปมีความชัดเจนว่า พระองค์จะเดินหน้าเป็น “ผู้นำทางสังคม” บีบีซีรายงานอย่างนั้น พร้อมระบุว่าพระภารกิจที่ปรินซ์ทรงวางรากฐานและขับเคลื่อนอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 3 กระแส ได้แก่

การลดปัญหาคนไร้บ้าน ซึ่งพระองค์ขับเคลื่อนโปรเจ็กต์สร้างที่พักอาศัยพร้อมโปรเจ็กต์สร้างงาน มาปีกว่าแล้วบนพื้นที่ของพระองค์เองจำนวน 6 ทำเลทั่วประเทศ

การส่งเสริมสุขภาพจิต

การสนับสนุนธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านโปรเจ็กต์ Earthshot ซึ่งทรงขับเคลื่อนในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก

บีบีซีบอกว่าพระภารกิจเหล่านี้เป็นวิสัยทัศน์ระดับสหัสวรรษของพระราชวงศ์วินด์เซอร์ สิ่งที่จะเป็นโครงการนำร่องเพื่อการสาธิตเหล่านี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะปรินซ์วิลเลียมทรงลุยงานเป็นจริงเป็นจริง ทรงถอดเน็กไท ถลกแขนเสื้อ และดำเนินงานในฐานะของงานสังคมสงเคราะห์เพื่อขับเคลื่อนวาระทางสังคมนั่นเอง

“สูงศักดิ์ หล่อล่ำ น้ำใจงาม มีอยู่จริงในดาวโลกดวงนี้” ภายใต้วิสัยทัศน์ บนทุนทรัพย์ และโดยฝีมือการวางแผนและบริหารจัดการ ของรัฐบุรุษ พระนามว่า เจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์แห่งเวลส์ คนนี้นี่เอง ต้องขออนุโมทนาบุญกับพระองค์อย่างด่วนเลย

คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ บีบีซี เดอะซัน นิวยอร์กโพสต์ ดิเอกซ์เพรส เอพี รอยเตอร์)

กำลังโหลดความคิดเห็น