เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง เปิดฉากเยือนมาเลเซียเป็นเวลา 3 วันและพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิมวันพุธ (19 มิ.ย.) ยืนยันผลักดันโครงการทางรถไฟ BRI มูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์เชื่อมระหว่างมาเลเซียและไทย และให้โควตากัวลาลัมเปอร์สามารถส่ง ‘ทุเรียนสด’ ไปจีนได้ ท่ามกลางการบริหารผลประโยชน์ของผู้นำแดนเสือเหลืองระหว่างความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีนในทะเลจีนใต้
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ของสิงคโปร์รายงานวันนี้ (20 มิ.ย.) ว่า นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง ซึ่งเริ่มการเยือนมาเลเซียมาตั้งแต่วันอังคาร (18) ในการเยือนแดนเสือเหลืองอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน กลายเป็นเจ้าหน้าที่จีนระดับสูงสุดที่ออกเดินทางมาในรอบเกือบ 10 ปี และยังคล้ายกับการครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปีทางการทูตระหว่าง 2 ชาติ
ก่อนหน้าการเดินทางมาเยือน อันวาร์ประกาศว่า มาเลเซียพร้อมที่จะเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ BRICS ที่มีรัสเซีย-จีนเป็นผู้นำ และถูกมองว่าเป็นการขยายขั้วใหม่เพื่อแข่งกับระเบียบโลกภายใต้การนำของตะวันตก
รอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำทั้ง 2 ร่วมกันในพิธีเปิดการก่อสร้างโครงการรถไฟเส้นทางตะวันออก ECRL ภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของผู้นำจีน
โครงการนี้มีมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 50.27 พันล้านริงกิตมาเลเซีย ถูกสร้างโดยบริษัทจีนที่เป็นโครงการได้รับเงินกู้จากธนาคาร EXIM Bank ของจีน เป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับการอนุมัติมาตั้งแต่สมัยอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียผู้อื้อฉาว นาจีบ ราซัค
รอยเตอร์รายงานว่า โครงการรถไฟ ECRL เป็นความคาดหวังของปักกิ่งในการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเชื่อมจากโครงการรางรถไฟอื่นภายใต้การสนับสนุนของปักกิ่งในไทยและลาว
ECRL มีเส้นทางยาว 665 กม.ที่จะเชื่อมชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียและชายฝั่งตะวันตกเข้าด้วยกันให้ทันภายในปี 2026 ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียเคยกล่าวไว้เมื่อมีนาคมก่อนหน้าว่า กำลังพิจารณาขยายโครงการภายใต้การสนับสนุนของจีนไปยังพรมแดนติดประเทศไทย
ซึ่งก่อนหน้าการเยือนมาเลเซียพบว่า ผู้นำจีนได้ออกเดินสายไปในภูมิภาคทั้งนิวซีแลนด์และออสเตรเลียเพื่อเป้าหมายการขยายอิทธิพล และการลงทุนภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกท่ามกลางการเผชิญหน้ากับคู่แข่งสหรัฐฯ
นายกฯ อันวาร์กล่าววันพุธ (19) ในงานเลี้ยงอาหารค่ำแสดงความชื่นชมต่อปักกิ่งมีใจความว่า “พวกเราเชื่อว่านี่อยู่ในผลประโยชน์ทางยุทศาสตร์เพื่อสร้างพันธมิตรและความร่วมมือกับจีน ไม่ใช้การต่อต้าน”
และเสริมต่อว่า “พวกเราทำทุกความพยายามในการมีปฏิสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนและการทำให้ในมันกลายเป็นความสัมพันธ์ระดับภูมิภาค ไม่ใช่เป็นมันเป็นการตรงไปตรงมาเสมอเท่านั้นแต่เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญต่ออนาคตที่พวกเรามีร่วมกัน”
ทั้งนี้ โครงการทางรถไฟ ECRL นั้นจะเชื่อมท่า Port Klang ในรัฐสลังงอไปยังรัฐปีนังในชายฝั่งตะวันออก รัฐตรังกานู และรัฐกลันตัน
ซึ่งในวันพุธ (19) นายกรัฐมนตรีซึ่งหารือระดับทวิภาคีกับผู้นำมาเลเซียที่เขตที่ตั้งรัฐบาลปูตราจายาว่า ในเวลานี้ปักกิ่งกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการเพื่อเชื่อมระบบรางรถไฟไปยังโปรเจกต์ BRI ของจีนในลาวและไทย
และเสริมต่อว่า โครงการนี้จะกลายเป็นเส้นทางหลักของโครงการไฟแพนเอเชีย (Pan-Asia Railway) ที่จะวิ่งออกมาจากคุนหมิงในจีนไปสิงคโปร์กลายเป็นจริง
นายกฯ จีนกล่าวต่อว่า “นี่จะเป็นการโปรโมตที่ดีกว่าของการก่อสร้างของเส้นทางคอร์ริดดอร์การค้าทางทะเลและทางบกระหว่างประเทศ และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งของชุมชน ASEAN”
ในการเยือนมีการลงนามหนังสือบันทึกความเข้าใจในวันพุธ (19) ระหว่างมาเลเซีย-จีนเพื่อขยายความเชี่ยวชาญร่วมกันในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าและอสังหาริมทรัพย์ และทั้ง 2 ชาติต่างปฏิญาณร่วมกันจะพิจารณาวีซ่าท่องเที่ยวเสรีระหว่างกัน
และที่สำคัญมีการลงนามข้อตกลงไฟเขียวให้มาเลเซียสามารถส่งทุเรียนสดไปจีนได้โดยจะเริ่มในปีนี้ หลังก่อนหน้ามาเลเซียถูกจำกัดให้ส่งเฉพาะผลิตภัณฑ์ทุเรียนและผลทุเรียนแช่แข็งเท่านั้น
หนังสือพิมพ์สิงคโปร์ชี้ว่า ข้อตกลงอนุญาตให้มาเลเซียส่งทุเรียนสดไปยังจีนซึ่งจะทำให้ “มาเลเซีย” เข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่คู่แข่งไทยและเวียดนามอยู่ในนั้นก่อนหน้า
ในการเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการในวันพุธ (19) ผู้นำจีนยังได้เข้าเฝ้าสุลต่านมาเลเซีย ยังดีเปอร์ตวนอากง สมเด็จพระราชาธิบดีอิบราฮิม อิซมาอิลแห่งยะโฮร์ ที่พระราชวังอีสตานาเนการา