นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมนำสเปรย์สีส้มไปฉีดพ่นใส่ “สโตนเฮนจ์” (Stonehenge) กลุ่มหินโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ในอังกฤษซึ่งถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เมื่อวันพุธ (19 มิ.ย.)
ตำรวจอังกฤษยืนยันว่าได้จับกุมนักเคลื่อนไหว 2 ราย ฐานเป็นผู้ต้องสงสัยก่อความเสียหายให้อนุสรณ์สถานโบราณซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งราบกว้างใหญ่บนที่ราบซอลส์บรี (Salisbury Plain) ทางตอนใต้ของอังกฤษ
“มันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และทีมภัณฑารักษ์ของเราอยู่ระหว่างตรวจสอบระดับความเสียหาย” มูลนิธิ English Heritage ซึ่งดูแลสโตนเฮนจ์โพสต์ข้อความผ่าน X พร้อมยืนยันว่าสถานที่แห่งนี้ยังคงเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ
สโตนเฮนจ์ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอังกฤษที่มีผู้มาเยือนมากที่สุด และยังมีความสำคัญในเชิงจิตวิญญาณ โดยทุกๆ ปีจะมีนักเดินทางจำนวนมากแห่แหนไปที่นั่นในวันครีษมายัน (summer solstice) ซึ่งเป็นวันที่เวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปีของฝั่งซีกโลกเหนือ
จากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหว Just Stop Oil จะเห็นว่ามีผู้ประท้วง 2 คนวิ่งตรงเข้าไปยังแท่งหิน 2 แท่งในสโตนเฮนจ์ ก่อนจะนำสีสเปรย์ออกมาฉีดพ่นใส่ โดยมีอีกคนหนึ่งพยายามเข้าไปห้ามปราม
ก่อนหน้านี้ ทางการอังกฤษเคยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเดินชมภายในวงกลมของแท่งหินทั้ง 112 ก้อนได้ กระทั่งมีการติดตั้งรั้วในปี 1977 เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปที่นั่นเป็นจำนวนมากจนเกรงกันว่าจะทำให้โบราณสถานเกิดความเสียหาย
นายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก แห่งอังกฤษ ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน X ว่า “Just Stop Oil ทำในสิ่งที่น่าอับอายขายหน้า”
Just Stop Oil เป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมซึ่งกำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ในอังกฤษ ด้วยวิธีการประท้วงที่มักจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เช่น ปิดถนน ป่วนการแข่งขันกีฬาหรือกิจกรรมทางวัฒนธรรม หรือแม้กระทั่งเอา “ซุป” ไปสาดใส่ภาพวาดของจิตรกรดัง แวน โก๊ะห์ (Van Gogh)
ทางกลุ่มประกาศข้อเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษหยุดการสำรวจขุดเจาะ และการใช้น้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินภายในปี 2030
ที่มา : รอยเตอร์