xs
xsm
sm
md
lg

PLANET #3: คิงชาร์ลส์ทรงสุดปลื้มในวันสำคัญ Trooping the Colour ‘ปรินเซสเคท’ ที่ทรงรักยิ่ง แข็งแรงขึ้นมากแม้ยังประชวรจากมะเร็ง & มาร่วมพระราชพิธีในพระสิริโฉมงดงาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงโสมนัสแฮปปีเป็นที่ยิ่ง ที่ได้ต้อนรับเจ้าหญิงแคเธอรินแห่งเวลส์กลับคืนสู่พระราชกรณียกิจแห่งวังหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานพระราชพิธี Trooping the Colour หลังจากที่เจ้าหญิงทรงแจ้งทราบทั่วกันเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2024 ว่า ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง และจะต้องเว้นวรรคการทรงงานสนองพระเดชพระคุณกษัตริย์ชาร์ลส์เป็นเวลานานหลายเดือน เพื่อรับการบำบัดรักษาด้วยคีโม ทั้งนี้ พสกนิกรต่างก็พากันตื่นเต้นยินดีที่จะได้เห็นพระรูปพระโฉมเจ้าหญิงแสนรัก ที่คิดถึงกันมากมาย และมากเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ได้อ่านจดหมายน้อยอันจับใจ ที่พระองค์ทรงเล่าถึง “วันคืนดีๆ และวันคืนเลวร้าย” ที่ทรงเผชิญขณะต่อสู้กับมะเร็ง ตลอดจนความปลื้มปิติต่อความรักและห่วงใยมหาศาลที่ประชาชนหลายพันรายส่งบัตรอวยพรไปให้กำลังใจ และช่วยให้พระองค์และเจ้าฟ้าชายวิลเลียมผ่านความยากลำบากแห่งคีโม มาได้เป็นอย่างดี
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษทรงโสมนัสแฮปปีเป็นที่ยิ่ง เมื่อเจ้าหญิงแคเธอริน พระราชสุณิสาซึ่งพระองค์ทรงรักใคร่เอ็นดูดั่งว่าเป็นพระราชธิดาที่พระองค์ทรงไม่มี กราบทูลว่าพระพลานามัยจากการต่อสู้กับพระโรคมะเร็งนั้น แข็งแรงดีขึ้นเพียงพอที่จะเสด็จเข้าร่วมพระราชพิธียิ่งใหญ่ตระการตา Trooping the Colour อันเป็นโบราณราชประเพณีกว่า 260 ปีเพื่อถวายพระเกียรติยศแด่พระมหากษัตริย์ในต้นฤดูร้อนของทุกปี

พระพลานามัยของกษัตริย์ชาร์ลส์ทรงฟื้นคืนความแข็งแรงค่อนข้างรวดเร็ว พระองค์ทรงออกทรงงานมาเดือนกว่าแล้ว ดังนั้น ประชาชนที่รอเฝ้ารับเสด็จในวันเฉลิมฉลองพระราชสมภพซึ่งถวายพระเกียรติด้วย Trooping the Colour ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2024 จึงได้ชื่นชมพระบารมีว่าทรงแข็งแรงแจ่มใจทั้งพระกายและพระหทัย แม้จะมิได้ทรงม้าร่วมอยู่ในขบวนสวนสนามอันโอฬารของเหล่าทหาร 1,400 นาย เฉกเช่นเมื่อปีที่แล้ว

เจ้าหญิงแคเธอริน หรือก็คือ ปรินเซสเคท รัตนราชกัลยาผู้เป็นที่รักและเป็นความภาคภูมิพระราชหฤทัยของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ทรงงดงามทั้งพระรูปพระโฉม และพระจริยวัตรในการปฏิบัติจัดวางพระองค์ที่สมบูรณ์แบบ ทรงหลีกเลี่ยงทุกสิ่งที่จะกลายเป็นปัญหาต่อพระราชตระกูล และทรงดำเนินทุกอย่างที่จะส่งเสริมพระเกียรติยศของพระราชบัลลังก์

ในความ “สุดสวยและแสนดี มีอยู่จริง” มาตลอดสิบกว่าปีที่ปรินเซสเคททรงก้าวจากความเป็นสามัญชน บัณฑิตภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ เข้าสู่ความเป็นสมาชิกแห่งพระราชวงศ์ในฐานะพระชายาแห่งปรินซ์วิลเลียม นั้น คะแนนนิยมที่พระองค์ทรงได้รับจากพสกนิกร คือ ดีและดีเยี่ยม เพราะผู้คนมองเห็นถึงความทุ่มเทในการปฏิบัติพระภารกิจสนองพระเดชพระคุณพระราชบัลลังก์ พร้อมกับเลี้ยงดูกล่อมเกลาพระโอรสพระธิดาด้วยความรักและเข้าใจได้อย่างน่ายกย่อง

ดังนั้น เมื่อเจ้าหญิงขวัญใจประชาชนทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงดีขึ้นหลังได้รับการรักษาโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัดราว 3 เดือน และสามารถจะเข้าร่วมพระราชพิธีสำคัญของกษัตริย์ผู้เป็นพระสสุระได้พร้อมด้วยพระโอรสพระธิดาทั้ง 3 พระองค์ พระราชพิธีจึงมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เป็นบุญตาสำหรับพสกนิกรหลายหมื่นชีวิตที่แห่แหนไปรอเฝ้ารับเสด็จที่ถนนเดอะมอลล์ และอีกล้านๆ รายที่รับชมการถ่ายทอดสด








‘ปรินเซสเคท’ ทรงกลับสู่สายตาพสกนิกรอย่างสง่าในพระราชยานรถม้าพระที่นั่งเก๋ง พระรูปพระโฉมงดงาม และด้วยผลจากการรักษาเคมีบำบัด พระกายจึงบางลงยิ่งกว่าที่เคยแบบบางมานานปี

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงปรับรายละเอียดของพระราชพิธีสวนสนามในปีนี้บ้าง โดยมีการงดเว้นไฮไลต์สำคัญที่พระองค์ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์จะทรงม้านำขบวนสวนสนาม เนื่องจากจะต้องระมัดระวังพระพลานามัย และจึงปรับเปลี่ยนเป็นการเสด็จด้วยกันกับสมเด็จพระราชินีคามิลลา ไปในพระราชยานรถม้าพระที่นั่งเก๋งทองคำ State Golden Coach ขณะดำเนินพิธีตรวจแถวกองทหารรักษาพระองค์ซึ่งแปรขบวนสวนสนามในอาณาบริเวณของฮอร์สการ์ดถนนไวท์ฮอลล์

ด้านเจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์ ซึ่งทรงกลับคืนสู่อ้อมกอดอ้อมใจของสาธารณชนอย่างสง่างาม ได้ทำให้ผู้คนหลายหมื่นชีวิตที่รอเฝ้ารับเสด็จคึกคักเปี่ยมสุข ที่เป็นกลุ่มชนรุ่นแรกที่ได้ชื่นชมพระองค์อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ปรินเซสสุดเลิฟของประชาชนต้องปลีกวิเวกไปต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัดนานสามเดือน และยังไม่จบสิ้น

ปรินเซสขวัญยี่หวาของพสกนิกรทรงแย้มพระสรวลสดใส และช่วยกันกับพระโอรสพระธิดาโบกพระหัตถ์ทักทายออกมาจากพระราชยานรถม้าพระที่นั่งเก๋งกรุด้วยแก้วใส ท่ามกลางเสียงร้องเชียร์ที่กึกก้องในบรรดาฝูงชนตลอดแนวถนนเดอะมอลล์ ที่พระราชยานรถม้าพระที่นั่งเคลื่อนผ่านไปในพระราชพิธีเฉลิมฉลอง

ที่ผ่านมา สื่อมวลชนใหญ่น้อยพากันลุ้นว่าการบำบัดรักษาพระกายจากมะเร็งร้าย จะส่งผลให้เจ้าหญิงแห่งเวลส์ต้องพลาดพระราชพิธีครั้งสำคัญนี้หรือไม่ จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ของวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน โฆษกสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมจึงออกมาประกาศว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเปรมปรีดิ์พระราชหฤทัย เจ้าหญิงแคเธอรินทรงสามารถเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเกียรติแด่พระองค์เนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองพระราชสมภพได้








ขบวนพระราชยานรถม้าพระที่นั่งซึ่งเคลื่อนไปตามถนนเดอะมอลล์ ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ถนนไวท์ฮอลล์ เพื่อชมพระราชพิธีสวนสนาม ณ ลานของฮอร์สการ์ด นั้น นำหน้าด้วยพระราชยานของกษัตริย์ชาร์ลส์กับพระราชินีคามิลลา; ต่อด้วยพระราชยานของเจ้าหญิงเคทกับเจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์; และถัดมาเป็นพระราชยานของพระครอบครัวแห่งเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชอนุชาแห่งกษัตริย์ชาร์ลส์ ได้แก่ ดัชเชสโซฟีแห่งเอดินบะระกับพระธิดาสุดสวย คือ เลดีหลุยส์ เมาท์แบตเทน-วินด์เซอร์ พร้อมด้วยเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเคนต์ พระญาติลำดับที่ 1 ของควีนเอลิซาเบธที่ 2; แล้วปิดท้ายด้วยพระราชยานของเจ้าชายริชาร์ดและพระชายา ซึ่งมีพระอิสริยยศ ดยุกและดัชเชสแห่งกลอสเตอร์ พระญาติลำดับที่ 1 ของควีนเช่นกัน พร้อมด้วยเซอร์ทิม ลอเรนซ์ พระสวามีแห่งเจ้าฟ้าหญิงแอนน์

พระราชพิธีสวนสนามเริ่มขึ้นเวลา 10.00 น. ของวันเสาร์ (15 มิถุนายน) โดยที่เจ้าหญิงเคทซึ่งต้องระมัดระวังพระพลานามัย มิได้ประทับชมบนปะรำพิธีด้วยกันกับสมาชิกพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่พระองค์อื่นๆ ทรงได้รับสิทธิพิเศษในการขึ้นไปชมจากอาคารสำนักงานของดยุกแห่งเวลลิงตันพร้อมพระโอรสและพระธิดา ซึ่งทรงเพลิดเพลินอย่างยิ่งกับการชี้ชวนเจ้าชายและเจ้าหญิงพระองค์น้อยให้ชมสิ่งละอันพันน้อย

อย่างไรก็ตาม ในตอนหนึ่งของการชมพระราชพิธีสวนสนาม ปรินซ์หลุยส์ (6 พรรษา) ทรงหาวง่วงงุนเล็กน้อย โดยก่อนหน้านั้น ปรินซ์น้อยทรงแดนซ์เบาๆ น่าเอ็นดู ในห้วงที่วงดุริยางค์สกอตส์การ์ดพาเหรดผ่านพร้อมบรรเลงจังหวะมาร์ชคึกคัก

ในเวลาที่ขบวนพระราชยานเคลื่อนกลับสู่พระราชวังบัคกิงแฮม ฝนเม็ดโตสาดซัดลงกระหน่ำบรรดาทหารในเครื่องแบบที่เดินพาเหรด ตลอดจนประชาชนหลายหมื่นชีวิตที่เฝ้าชมพระราชพิธี จนชุ่มฉ่ำกันทั่วหน้า

แต่สำหรับคิงชาร์ลส์พร้อมควีนคามิลลา และปรินเซสเคทพร้อมพระโอรสพระธิดา ทรงปลอดภัยจากความเสี่ยงสืบเนื่องจากพระวรกายอ่อนแอจากภูมิคุ้มกันโรคลดต่ำขณะรับการรักษาด้วยเคมีบำบัด เพราะทรงประทับในพระราชยานรถม้าพระที่นั่งเก๋งกรุกระจกรอบคัน



เจ้าชายหลุยซ์ทรงอดใจไม่ไหว ขยับพระหัตถ์ตามจังหวะดนตรีมาร์ชคึกคัก แต่เพียงไม่กี่วินาทีก็ทรงระลึกได้ แล้วลดพระหัตถ์ลงเอง ไม่ต้องให้พระบิดาทรงต้องแนะนำ
คิงชาร์ลส์ทรงรู้จักและเข้าร่วมพระราชพิธี Trooping the Colour ตั้งแต่พระชนมายุเพียง 3 พรรษา

พระราชพิธีสวนสนามถวายพระเกียรติแด่พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระราชประเพณีเก่าแก่ 260 ปีนั้น เป็นของขวัญจากกองพลทหารรักษาพระองค์เนื่องในวโรกาสพระราชสมภพ

โดยเมื่อครั้งที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระเยาว์ 3 พรรษา ทรงได้เข้าร่วมพระราชพิธี Trooping the Colour ประจำปี 1951 โดยได้ตามเสด็จพระอัยยิกา พระราชินีเอลิซาเบธแห่งกษัตริย์จอร์จที่ 6 ไปในพระราชยานรถม้าพระที่นั่ง และหลังจากนั้น ในปี 1975 พระชนมายุ 27 พรรษา ในฐานะผู้บังคับการกองพลเวลช์การ์ด ทรงขึ้นหลังม้าและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสวนสนามเป็นครั้งแรก

การจัดขบวนสวนสนาม Trooping the Colour ในปีนี้ประกอบด้วยทหารจำนวนมากกว่า 1,400 นาย โดยเป็นทหารรักษาพระองค์หลายร้อยนาย ตั้งขบวนสง่างาม รอให้คิงชาร์ลส์และควีนคามิลลาตรวจแถว

ทั้งนี้ ปี 2024 เป็นศักราชแรกในรอบร้อยกว่าปี ที่ทหารในขบวนสวนสนามได้รับอนุญาตให้ไว้หนวดไว้เคราได้ โดยมีการเปลี่ยนกฎกันเมื่อต้นปีนี้เองเมื่อคิงชาร์ลส์ทรงลงพระนามอนุมัติ

เจน อิง วัย 61 กะรัต ชาวยอร์กเชอร์ พร้อมสามีกับเพื่อนหนึ่งคน เดินทางมาจับจองพื้นที่ริมถนนเดอะมอลล์อย่างมุ่งมั่นว่าจะต้องเปิดโอกาสให้ตนเองได้เฝ้าชมพระบารมีคิงชาร์ลส์สักครั้งในชีวิต พร้อมกับอยากจะได้ชมขบวนสวนสนามอันโอฬารยิ่งใหญ่ด้วยตาตนเอง

“พระราชพิธีนี้เป็นส่วนหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมของพวกเราชาวอังกฤษ เราควรจะภาคภูมิใจ ดังนั้นดิฉันจึงมาให้การสนับสนุนกิจกรรม” เจน อิงกล่าวอย่างนั้นกับนักข่าวเดลิเมลออนไลน์

เธอบอกด้วยว่า เป็นเรื่องน่ารักมากที่ปรินเซสเคททรงสามารถเสด็จมาเข้าร่วมพระราชพิธีนี้

ด้านศิลปินหนุ่มใหญ่วัย 67 กะรัต ซึ่งเป็นนักจิตรกรรมทางการเมือง นามว่า กายา มาร์ ก็มารอรับเสด็จด้วยกันกับคนอื่นๆ หลายหมื่นราย โดยนำภาพเขียนสีน้ำมันผลงานของตนเองมาตั้งโชว์ 2 ภาพ

กายา มาร์ กล่าวกับนักข่าวว่า “พระราชวงศ์ทรงเป็นเสมือนสมอเรือที่ช่วยประคองเสถียรภาพของประเทศในวันเวลาแห่งความไม่แน่นอนทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกนักการเมืองทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่ว

“พระราชวงศ์ทรงเป็นสถาบันทางการเมืองสถาบันเดียวที่มั่นคงให้เราเกาะกุมในท่ามกลางความว้าวุ่นโกลาหล พูดจริงๆ นะ สถาบันไหนเลยที่จะมั่นคงได้สม่ำเสมอ มาช่วยประคองอนาคตของประเทศอังกฤษ ยังไงก็ต้องเป็นสมาชิกพระราชวงศ์แหละ

“แต่ละพระองค์ทรงปราศจากอันตราย และไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวา หรือตรงกลาง คุณก็ต้องมองหาเสถียรภาพจากพวกพระองค์น่ะครับ” ศิลปินกายา มาร์ กล่าวไว้กับนักข่าว



ปรินซ์วิลเลียมขณะอยู่ในพระราชพิธีสวนสนามถวายพระเกียรติแด่คิงชาร์ลส์  โดยทรงดำเนินการเคียงข้างกับปรินซ์เอ็ดเวิร์ดและปรินเซสแอนน์ผู้ทรงเป็นเสด็จอา
ชาวเมืองผู้ดีรู้สึกจับใจกับคำบอกเล่าของเจ้าหญิงเคทที่ทรงเปิดเผยความในพระทัยต่อการรักษาโรคมะเร็ง

ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ ให้ความเห็นแก่เมลออนไลน์ว่า

“เจ้าหญิงเคทมาปรากฏพระองค์ในวันนี้เป็นเรื่องดีอย่างยิ่งครับ เพราะการที่สมาชิกพระราชวงศ์ระดับผู้ใหญ่ป่วยด้วยโรคมะเร็งพร้อมกันถึงสองพระองค์นั้น ทำให้พระราชตระกูลอ่อนแอมากครับ ประชาชนไม่ได้เห็นพระนางนานมากแล้ว ทรงเสด็จออกครั้งสุดท้ายก็ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

“จากถ้อยคำของปรินเซสในวิดีโอเมื่อเดือนมีนาคม และจากจดหมายน้อยที่ปรากฏออกมาเมื่อวันเสาร์ พวกเราได้เห็นชัดเจนว่าพระนางทรงทรหดและแข็งแกร่ง

“ภาพใหม่ของปรินเซสเคทก็ยืนยันถึงความเข้มแข็งของพระนาง ที่หนุนให้พระนางผ่านช่วงชีวิตอันหนักหนามาได้เฉกเช่นใครๆ ที่ต้องรับการรักษาด้วยคีโม รายละเอียดต่างๆ ที่ทรงเล่าไว้นั้น จะช่วยผู้ป่วยมะเร็งรายอื่นๆ เผชิญหน้ากับโรคร้ายนี้

“เจ้าหญิงเคททรงเป็นบุคคลพิเศษสุดๆ ในดวงใจของพวกเราทุกคน

ในค่ำวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน ปรินเซสแห่งเวลส์ทรงมีข้อความเขียนถึงสาธารณชน ซึ่งเล่าถึงเส้นทางการรักษาพระองค์จากโรคมะเร็ง โดยทรงเล่าว่าพระองค์ได้ประสบ “ทั้งวันคืนแสนดีและวันคืนเลวร้าย” ในห้วงที่ต้องรับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งเป็นกระบวนการเจ็บปวดและลำบากทีเดียว

“ดิฉันมีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องค่ะ แต่ทุกท่านที่ผ่านการรักษาด้วยคีโมมาแล้วจะทราบดีว่า จะต้องเจอกับวันดีๆ และวันเลวร้าย ในวันเลวร้ายนั้น คุณรู้สึกอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อย และคุณต้องยอมแพ้ให้แก่ร่างกายซึ่งต้องการพักผ่อน

“แล้วในวันดีๆ คุณรู้สึกแข็งแรงดีขึ้น คุณก็อยากจะทำสิ่งต่างๆ เยอะๆ

“การรักษาสำหรับดิฉัน ยังไม่จบค่ะ และจะต้องดำเนินต่อไปอีกสองสามเดือน ในวันเวลาที่รู้สึกแข็งแรงขึ้นบ้าง ดิฉันจะสนุกกับการใช้ชีวิต ไปทำสิ่งต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกดี ตอนนี้ดิฉันเริ่มทำงานบ้างแล้วด้วยค่ะ

“ดิฉันหวังว่าจะได้ออกมาทำพระกรณียกิจบ้างในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่ในใจก็ทราบดีว่าดิฉันยังไม่พ้นจากความป่วยไข้นี้เลยค่ะ

“ดิฉันได้เรียนรู้ที่จะอดทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อดทนกับความไม่แน่นอนต่างๆ ดิฉันยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตนเองแบบวันต่อวันเลยค่ะ จะคอยฟังสิ่งที่ร่างกายบอกออกมา และทำใจให้ตนเองยอมรับว่าจะต้องใช้เวลาเพื่อเยียวยารักษาโรคนี้ต่อไป”

เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าเจ้าหญิงแคเธอรินแห่งเวลส์ทรงเริ่มรับการรักษาโรคมะเร็งตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่สำนักพระราชวังมิได้ให้รายละเอียดว่าทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง ณ อวัยวะส่วนใด

ที่ผ่านมา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงได้รับจดหมายให้กำลังใจและบัตรอวยพรหลายพันฉบับจากประชาชนผู้มีจิตปรารถนาดี และทรงบอกว่าประทับใจปลาบปลื้มใจอย่างที่สุดที่ได้รับ “ข้อความดีงาม” ซึ่งทำให้โลกของพระองค์และพระสวามีสดใสขึ้นมา และช่วยให้ผ่านวันเวลาอันแสนลำบากยากเข็ญมาได้ด้วยดี

พระรูปของปรินเซสเคท บานแรกในรอบ 2 เดือนที่ทรงเก็บพระองค์รักษาโรคมะเร็ง โดยเพิ่งกดชัตเตอร์กันไปในช่วงสัปดาห์ที่สองของมิถุนายน 2024 ณ บริเวณสวนของพระราชฐานปราสาทวินด์เซอร์

พระราชวงศ์ผู้ทรงงานถวายพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น ที่จะได้เสด็จออกสีหบัญชรพระราชวังบัคกิงแฮมทักทายประชาชน โดยในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2024 มีสมาชิกพระราชวงศ์วินด์เซอร์รวม 15 พระองค์อยู่ในพระรูปสำคัญบานนี้ อันได้แก่ คิงชาร์ลส์และควีนคามิลลา (ฉลองพระองค์สีเขียวจาง) ประทับยืนตรงกลาง และติดกับคิงชาร์ลส์คือปรินเซสเคท (ฉลองพระองค์สีขาวขลิบดำ) โดยประทับยืนเคียงข้างปรินซ์วิลเลียม และมีปรินเซสชาร์ลอตต์ ปรินซ์หลุยส์ และปรินซ์จอร์จประทับยืนด้านหน้าพระบิดาพระมารดา ส่วนทางซ้ายของควีนคามิลลา คือ ดัชเชสโซฟี (ฉลองพระองค์สีเหลือง) เคียงข้างกับพระสวามี ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเอดินบะระ และถัดไปคือพระธิดาเลดีหลุยส์ เมาท์แบตเตน-วินด์เซอร์ สำหรับ 3 พระองค์ที่ทรงประทับยืนถัดไป ได้แก่ ปรินเซสแอนน์ พระราชกนิษฐาของคิงชาร์ลส์ และ เซอร์ทิม ลอเรนซ์ ผู้เป็นพระสวามีของปรินเซสแอนน์ แล้วปิดท้ายคือ ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเคนต์ เสด็จอาของคิงชาร์ลส์ ด้านปลายสุด ณ ฝั่งซ้ายของพระรูป คือ ปรินซ์ริชาร์ด ดยุกแห่งกลอสเตอร์ เสด็จอาของคิงชาร์ลส์ ซึ่งทรงประทับยืนเคียงกับพระชายา คือ ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์


คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ เอพี)

กำลังโหลดความคิดเห็น