เด็กหญิงวัย 8 ขวบชาวเยเมน เสียชีวิตจากภาวะเลือดตก ในคืนวันเข้าหอ หลังเธอแต่งงานกับชายที่มีอาวุธมากกว่าเธอ 5 เท่า คดีที่โหมกระพือเสียงโวยวายจากสื่อมวลชนและรื้อฟื้นประเด็นถกเถียงรอบใหม่เกี่ยวกับการแต่งงานในวัยเด็ก (Child Marriage)
ออร์วา ออห์มัน แกนนำนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า เด็กหญิงรายนี้ แต่งงานกับชายอายุ 40 ปี เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน ในเมืองมีดี จังหวัดฮัจจาห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน "ในคืนวันแต่งงานและหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เธอมีอาการตกเลือดภายในและมดลูกฉีดขาด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เธอเสียชีวิต พวกเขาพาเธอไปส่งคลินิก แต่แพทย์ไม่อาจยื้อชีวิตเธอไว้ได้"
ออห์มัน ระบุต่อว่าพวกเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับครอบครัวของเด็กผู้หญิง หรือไม่กระทั่งกับสามีของเธอ
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในเมืองฮาราดห์ ปฏิเสธว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกชาวบ้าน 2 คน ที่ได้รับการติดต่อโดยรอยเตอร์ ยืนยันว่ามันเกิดขึ้นจริง และพวกหัวหน้าชนเผ่าพยายามปกปิดเหตุการณ์นี้ ตอนที่มีข่าวหลุดออกไป โดยเตือนสื่อมวลชนท้องถิ่นรายหนึ่งเกี่ยวกับการนำเสนอเรื่องราวดังกล่าว
ครอบครัวผู้ยากจนจำนวนมากในเยเมน มักผลักดันให้ลูกสาวรีบแต่งงานตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก และได้รับเงินขวัญถุงพิเศษจากเงินสินสอดทองหมั้นที่เจ้าบ่าวมอบให้แก่ฝ่ายเจ้าสาว
รายงานของสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อเดือนมกาคม พบว่าประชากร 10.5 ล้านคนจากทั้งหมด 24 ล้านคนในเยเมน ประสบภาวะขาดแคลนอาหาร และจำนวน 13 ล้านคนไม่อาจเข้าถึงน้ำที่ปลอดภัย รวมไปถึงสุขอนามัยขั้นพื้นฐานอย่างอื่นๆ
องค์กรฮิวแมนไรท์วอตช์ เคยส่งเสียงเรียกร้องเยเมนในเดือนตุลาคม 2011 ให้แบนการแต่งงานของเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เตือนว่าการแต่งงานในวัยเด็กเป็นการกีดกัดเด็กจากการศึกษาและก่ออันตรายทางสุขภาพของเด็กหญิงเหล่านั้น
อ้างอิงข้อมูลจากสหประชาชาติและรัฐบาล ทางฮิวแมนไรท์วอตช์ ระบุว่าเกือบ 14% ของเด็กหญิงชาวเยเมน แต่งงานตั้งแต่ก่อนมีอายุครบ 15 ปี และ 52% แต่งงานก่อนอายุครบ 18 ปี พร้อมชี้ว่าการแต่งงานในวัยเด็ก เป็นการกีดกันเด็กๆ จากการไปโรงเรียนตั้งแต่วัยแรกรุ่น
(ที่มา : เทเลกราฟ/รอยเตอร์)