สงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นสาเหตุโดยตรงหรือนำไปสู่การปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกสู่ชั้นบรรยากาศมากถึง 175 ล้านตัน และมีส่วนกระพือปัญหา “โลกร้อน” ให้ทวีความรุนแรงขึ้น ตามรายงานที่เผยแพร่วันนี้ (13 มิ.ย.)
รายงานซึ่งจัดทำขึ้นโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมยูเครน ร่วมกับกลุ่มเอ็นจีโอด้านสภาพอากาศ ระบุว่า ตัวเลขประเมินนี้คิดคำนวณจากปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปลดปล่อยแล้ว รวมถึงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หลังจากยูเครนเริ่มบูรณะฟื้นฟูบ้านเมืองซึ่งเสียหายย่อยยับจากการที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2022
รายงานฉบับนี้มีการอ้างถึง “น้ำมันหลายพันล้านลิตรที่ถูกใช้ไปกับยานพาหนะทางทหาร ทุ่งหญ้าและผืนป่าที่ถูกเผาทำลายไปเกือบ 1 ล้านเฮกตาร์ โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันและก๊าซที่ถูกระเบิดทำลายไปหลายร้อยจุด รวมถึงเหล็กและซีเมนต์ซึ่งถูกนำไปสร้างเป็นแนวป้องกันตลอดพื้นที่แนวหน้าซึ่งกินระยะทางหลายร้อยไมล์”
คาร์บอนไดออกไซด์ 175 ล้านตันนั้นเทียบเท่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยจากรถยนต์ 90 ล้านคันในช่วงเวลา 1 ปี หรือเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ “เนเธอร์แลนด์” ปลดปล่อยตลอดทั้งปี
นอกจากจะสังหารผู้คนไปหลายหมื่นและทำให้ชาวยูเครนอีกหลายล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานแล้ว การสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพ 2 ฝ่ายในสงครามภาคพื้นดินครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในรอบ 80 ปี ยังก่อผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อมด้วย
กระทรวงสิ่งแวดล้อมยูเครนได้ร่วมกับนักวิจัยด้านสภาพอากาศทั้งในยูเครนและต่างประเทศเพื่อประเมิน “รอยเท้าคาร์บอน” ของสงครามครั้งนี้ โดยใช้วิธีที่เรียกว่า Social Cost of Carbon เพื่อคำนวณต้นทุนทางการเงินที่เกิดจากการปล่อยปลดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติม
“ความเสียหายต่อสภาพอากาศที่สหพันธรัฐรัสเซียก่อขึ้นตลอด 24 เดือนของสงคราม มีมูลค่าสูงกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” รายงานระบุ
คณะผู้จัดทำรายงานได้แบ่งการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) กิจกรรมทางทหาร 2) เหล็กและคอนกรีตที่ใช้ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย และ 3) ปัจจัยอื่นๆ เช่น เพลิงไหม้ และการเคลื่อนย้ายของผู้คน
รายงานพบว่า กิจกรรมทางทหารก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 51.6 ล้านตัน ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งมาจากการใช้เชื้อเพลิงของฝ่ายรัสเซีย 35.2 ล้านตัน และอีก 9.4 ล้านตันมาจากการใช้เชื้อเพลิงของกองทัพยูเครน
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กองทัพประเทศต่างๆ ทั่วโลกเป็นตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 5.5% ของทั้งหมด ตามผลการประเมินในปี 2022
รายงานฉบับนี้ยังพบว่า ปฏิบัติการสงครามซึ่งก่อให้เกิดเพลิงไหม้กินพื้นที่ราว 1 ล้านเฮกตาร์ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 23 ล้านตัน ขณะที่มาตรการปิดน่านฟ้ายูเครนและบางส่วนของรัสเซีย รวมถึงการที่บางสายการบินไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าน่านฟ้าแดนหมีขาว ก็ทำให้มีการปล่อยคาร์บอนส่วนเกินอีกมากกว่า 24 ล้านตัน
ที่มา : รอยเตอร์
