โมเดอร์นา บริษัทผู้ผลิตยาชื่อดังเปิดเผยว่าวัคซีนที่สามารถป้องกันได้ทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิดในเข็มเดียว ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ขั้นตอนสำคัญยิ่งขั้นตอนสุดท้ายแล้ว
ทางบริษัทเปิดเผยว่า จากการทดลองทั้ง 3 เฟส แสดงให้เห็นว่าวัคซีนสามารถปกป้องร่างกายด้วยแอนติบอดี้ และผลการทดสอบบ่งชี้ว่ามันมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 แยกกัน ทั้งนี้การฉีดวัคซีนน้อยลงช่วยให้ประชาชนสามารถป้องกันโรคได้มากขึ้นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สเตฟาน บานเซล ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยกับบีบีซีนิวา ว่าเขาหวังว่าวัคซีน mRNA ตัวนี้จะสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางในปี 2026 หรือบางทีอาจในปี 2025
"เรายินดีมากกับผลการทดลอง เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกในโลกที่มีบริษัทหนึ่งสามารถโชว์ผลการทดสอบ 3 ขั้นเป็นบวก ของวัคซีนที่รวมวัคซีนไข้หวัดใหญ่และโควิดในเข็มเดียว" เขากล่าว "เราต้องการแค่เข็มเดียว จำเป็นแค่เข็มเดียว นั่นหมายว่ามันช่วยสร้างความผ่อนคลายและสงบแก่ลูกค้า"
ปัจจุบันคู่แข่งอย่างไฟเซอร์ และไบออนเทค กำลังทดสอบวัคซีน mRNA แบบ 2 อิน 1 เช่นกัน สำหรับรับมือกับไข้หวัดใหญ่และโควิด พวกนักวิทยาศาสตร์หวังว่าวัคซีน mRNA จะสามารถผลิตออกมาได้รวดเร็วกว่าเดิม และมีการอัปเดตมากกว่าวัคซีนที่ใช้กับไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบัน และรับมือกับสายพันธุ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอยู่เรื่อยได้ดีขึ้น
ในการทดลองของโมเดอร์นาที่กำลังดำเนินการอยู่ วัคซีน mRNA-1083 ก่อการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันมากกว่าวัคซีนของคู่แข่งที่ได้รับอนุญาต มันมีประสิทธิภาพเท่ากับหรือดีกว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการเห็นชอบในปัจจุบัน ในนั้นรวมถึงวัคซีนที่ออกแบบมาเพื่อคนชรา
ผลการทดลองดังกล่าวมาจากอาสาสมัคร 8,000 คน ทั้งหมดอายุเกิน 50 ปี และมากกว่าครึ่งอายุเกิน 64 ปี
โมเดอร์นา บอกว่าพวกเขามุ่งเน้นไปที่คนสูงวัย เพราะคนกลุ่มนี้มีความเป็นไปได้ที่จะต้องฉีดวัคซีนโควิดอย่างต่อเนื่อง แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขามีแผนนำเสนอวัคซีนใหม่นี้กับคนหนุ่มสาวด้วยเช่นกัน
ผลข้างเคียงใดๆ พบเห็นอาการค่อนข้างเล็กน้อย เจ็บปวดบริเวณที่ฉีดและอ่อนล้าบ้าง ซึ่งก็เหมือนกับวัคซีนปกติทั่วไป ทางบริษัทมีแผนนำเสนอผลการวิจัยต่อที่ประชุมทางการแพทย์หนึ่งๆ เช่นเดียวกับนำเสนอมันให้เผยแพร่ต่อสาธารณะต่อไป
(ที่มา : บีบีซี)