สื่อนอกรายงานครึกโครม โพลชี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่พอใจกับผลงาน รบ.เศรษฐา

เอเจนซีส์ - ผลสำรวจล่าสุดชี้ประชาชนไทยส่วนใหญ่เกิน 66% ยืนยันไม่พอใจในผลงานรัฐบาลนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน ตลอดช่วงระยะเวลา 9 เดือนรับตำแหน่งหลังล้มเหลวในการแก้ปัญหาประเทศ ระหว่างชะตาผู้นำไทยกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายหลัง 40 ส.ว.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี

บลูมเบิร์กรายงานวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) ว่า โพลสำรวจที่ออกมาล่าสุดวันอาทิตย์ (9) โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีพอใจในผลงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน

โดยในผลการสำรวจพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามราว 66% คนที่ระบุว่า “ไม่พอใจมาก” หรือ “ไม่พอใจโดยสิ้นเชิง” ต่อผลงานรัฐบาลผสมที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำในช่วงเวลา 9 เดือนตั้งแต่รับตำแหน่ง

ในขณะที่ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดนั้นระบุว่า “มีความพอใจ” หรือ “มีความพอใจมาก” ต่อความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันนโยบายด้านต่างๆ เพื่อปรับปรุงเศรษฐกิจและสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ในโพลสำรวจที่จัดทำเมื่อวันที่ 4-5 มิ.ย.พบว่า เกือบ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า คนเหล่านั้นไม่เชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลในการแก้ปัญหาประเทศจากการที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้เห็นตามคำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียง

แต่อย่างไรก็ตาม มีอีกราว 27% ของผู้ตอบแบบสอบถามยืนยันว่ามีความมั่นใจในคณะรัฐมนตรีของนายกฯ เศรษฐาว่ามีประสบการณ์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศ

โดยรัฐบาลพิเศษที่เพื่อไทยเป็นแกนนำประกอบด้วย 11 พรรค มี 314 เสียงรวม พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง และพรรคท้องที่ไทย 1 เสียง รวมพรรคอิงกองทัพได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง อ้างอิงจากบลูมเบิร์กและสื่อในประเทศ

โพลสำรวจยังได้สอบถามความเห็นว่า คาดจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาลในอีก 2 เดือนหรือไม่

พบว่ามี 43% ของผู้ตอบแบบสอบถามชี้ว่า คาดว่าเศรษฐา จะยังคงอยู่ในตำแหน่ง ในขณะที่ 10.92% ชี้ว่าอาจมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ส่วน 10.46% เป็นการเปลี่ยนตัวนายกฯ แต่มาจากพรรคเพื่อไทย และอีก 6.11% เป็นการสลับขั้วทางการเมือง เปลี่ยนรัฐบาล 6.11% ซึ่งปัจจุบันฝ่ายค้านมี 4 พรรคประกอบไปด้วยพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเป็นธรรม และในโพลยังพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามอีก 12.67% ระบุว่า “ไม่ตอบ/ไม่สนใจ”

ทั้งนี้ อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจหัวข้อ “ขอถามบ้าง … 9 เดือน รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา” เป็นการทำวิจัยระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2567 จากผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ฐานการสำรวจครอบคลุมเป็นการสำรวจกระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 คน

การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 และความคลาดเคลื่อน (Margin of error)อยู่ที่ 3%

เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินถูกกลุ่ม 40 ส.ว.ยืนศาลรัฐธรรมนูญให้ตัดสินในเรื่องคุณสมบัติ อ้างอิงจากสื่อไทยรายงานวันจันทร์ (10) ว่า ผู้นำไทยได้ส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันศุกร์ (7) แล้ว แต่ปฏิเสธไม่เปิดเผยแนวทางการต่อสู้พร้อมอ้างวิตกกังวลในทุกเรื่องและขอให้สื่อมวลชนอย่าซักถามอีก

นอกเหนือจากเศรษฐาแล้วพบว่าพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคฝ่ายค้านยังกำลังเผชิญหน้าในการถูกสั่งยุบพรรคในคดีข้อหาล้มล้างการปกครอง บีบีซีภาคภาษาไทยรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องคดียุบพรรคก้าวไกล ไว้พิจารณาเมื่อ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา และมีกำหนดนัดประชุมเพื่อพิจารณาคดีนี้ในวันพรุ่งนี้