xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเบื้องลึก! ฮามาสซ่อน "4 ตัวประกัน" ในค่ายลี้ภัยนูเซรัต อาศัยปาเลสไตน์เป็น “โล่มนุษย์” ใช้ยุทธวิธีแบ่งเป็น 2 กลุ่มแยกขัง ด้าน IDF ได้ “สหรัฐฯ” ป้อนข่าวกรองจนช่วยสำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ปฏิบัติท้าความตายในการบุกช่วยตัวประกันของ IDF ที่ประสบความสำเร็จสามารถช่วยชีวิตตัวประกันทั้ง 4 คนที่โดนจับไปตั้งแต่งานเทศกาลดนตรี SuperNova เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว พบถูกแยกกลุ่มขัง 2 พิกัดซ่อนตัวในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต อาศัยชาวปาเลสไตน์ที่อยู่อย่างหนาแน่นเป็นโล่คุ้มกัน พบกองกำลัง IDF ของยิววางแผนนานได้สหรัฐฯ ป้อนข่าวกรองจนช่วยออกมาได้สำเร็จ

เอเจนซีส์ - ปฏิบัติการ Seeds of Summer สุดระทึกที่มีการเผยแพร่ภาพโดรนแสดงให้เห็นตัวประกันกำลังถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ช่วยออกไปนั้นเป็นจำนวน 4 คนได้แก่ Noa Argamani (วัย 25 ปี) Almog Meir (วัย 21 ปี) Andrey Kozlov (วัย 27 ปี) และ Shlomi Ziv (วัย 40 ปี) ซึ่งคนทั้งหมดถูกจับไปตั้งแต่งานเทศกาลดนตรี SuperNova ใกล้พรมแดนกาซาพร้อมกับเหยื่อชาวเยอรมนี แชนี โลค (Shani Louk) ที่โดนจับเปลือยกายท้ายรถกระบะก่อนขับประจานไปทั่วและโดนสังหารในระหว่างถูกควบคุมตัว

ในปฏิบัติการท้ามฤตยูถึงแม้จะช่วยมาได้ 4 คน แต่ทว่าต้องแลกกับการที่มีชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 236 คน และบาดเจ็บกว่า 400 คน อ้างอิงตัวเลขจากกาซา ขณะที่ทางการอิสราเอลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ไม่เกิน 100 คน

พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี (Daniel Hagari) แถลงวันเสาร์ (8) ว่า กองกำลังอิสราเอลต้องเข้าไปในพื้นที่พลเรือนเพื่อช่วยเหลือตัวประกันหลังจากที่พวกติดอาวุธฮามาสฝังตัวในพื้นที่พลเรือนแอบปะปนกับคนอื่นๆ

ฮาการีเปิดเผยว่า ฮามาสใช้ยุทธวิธีแบ่งตัวประกันแยกขังใน 2 จุด ซึ่งต้องใช้การจู่โจมช่วยเหลือพร้อมกัน โดยโลเกชัน X ทั้ง 2 พิกัดอยู่ห่างจากกันราว 200 เมตร โดยในจุดแรกเหยื่อถูกซ่อนตัวไว้ที่ตึกอพาร์ตเมนต์สูงหลายชั้นเหมือนเช่นจุดที่ 2 ที่ทั้ง 2 จุดอยู่ภายในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต (Nuseirat refugee) ตั้งอยู่ในตอนกลางของเขตฉนวนกาซา

เป็นปฏิบัติการช่วยเหลือในกลางวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษอิสราเอลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลจำนวน 1 นาย

IDF อ้างอิงจากนิวสวีกยืนยันเสียงแข็ง ปฏิบัติการ Seeds of Summer เป็นข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า "เป็นข้อเท็จจริงที่กลุ่มฮามาสอยู่ซ่อนตัวหลังพลเรือนและกำลังควบคุมตัวประกันทั้งหลายภายในจุดพื้นที่ประชาชนอาศัยหนาแน่น" และพร้อมกันนี้ยังอ้างว่า ไม่สมควรไปเชื่อโฆษณาชวนเชื่อของฮามาส

CNN รายงานว่า มีความเคลื่อนไหวล่าสุดเปิดออกมาว่า กองกำลัง IDF ได้รับข่าวกรองเกี่ยวกับพิกัดของตัวประกันเหล่านี้ก่อนปฏิบัติการลงมือ และยังเปิดเผยต่อว่า กลุ่มฮามาสมักจะเคลื่อนย้ายตัวประกันไปจุดอื่นๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และ Noa Argamani ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวประกันก่อนนั้นเธอเคยถูกขังอยู่ในจุดอื่น

และที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้งทาง IDF ต้องสั่งยกเลิกปฏิบัติการนาทีสุดท้ายเพราะไม่อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่เอื้ออำนวย

บีบีซีของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยคอมมานโดอิสราเอลได้บุกฝ่าเข้าไปและคว้าตัวประกันออกมาก่อนที่จะรีบจับคนเหล่านั้นยัดใส่รถกองทัพที่จอดรอด้านนอก

และระหว่างที่กำลังออกไปหน่วยคอมมานโดเทลอาวีฟยังต้องพบกับการต่อต้านจากบรรดานักรบปาเลสไตน์ 

ขณะที่นิวสวีกรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่กูัภัยปาเลสไตน์ ไซอัด (Ziad) และเขายังอาศัยอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้เปิดเผยต่อรอยเตอร์ว่า 

"มันเหมือนฉากภาพยนตร์สยองขวัญแต่นี่เป็นการสังหารหมู่ของจริง" และเสริมต่อว่า "โดรนอิสราเอลและเครื่องบินรบอิสราเอลยิงโจมตีตลอดทั้งคืนใส่ไม่เลือกหน้าไปที่บ้านของประชาชน และรวมไปถึงคนที่พยายามหลบหนีออกไปจากพื้นที่"

เขาเสริมต่อว่า การโจมตีทางอากาศมีศูนย์กลางไปที่จุดตลาดท้องถิ่น และมัสยิดอัล-เอาดา (al-Awda)

CNN รายงานว่าซึ่งหลังปฏิบัติการช่วยตัวประกันวันเสาร์ (8) ส่งผลทำให้จำนวนตัวประกันที่ถูกจับมาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ปี 2023 ปัจจุบันมีทั้งหมด 116 คน ที่มี 41 คนเสียชีวิต

ปฏิบัติการช่วยตัวประกันวันเสาร์ (8) ที่นอกจากฝ่ายอิสราเอลต้องซ้อมมานานพร้อมกับอาคาร 2 หลังเป็นสถานที่จำลองในปฏิบัติการพบว่า เทลอาวีฟได้ข่าวกรองจากสหรัฐฯ ในการให้การช่วยเหลือ โดยเป็นทีมสหรัฐฯ ที่ประจำอยู่ที่เทลอาวีฟ

แหล่งข่าว 2 คนที่เปิดเผยกับ CBS News ของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ มีบทบาทป้อนข่าวกรองให้แก่ฝ่ายอิสราเอลโดยที่ไม่มีกำลังพลของสหรัฐฯ ร่วมอยู่ในปฏิบัติการ โดยมีภาพที่เปิดเผยไปทั่ววันเสาร์ (8) แสดงให้เห็นถึง ฮ.ของ IDF กำลังเทกออฟจากชายหาดโดยมีสะพานบรรเทาทุกข์เพนตากอนให้เห็นเป็นฉากหลัง ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่า สะพานดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้ในปฏิบัติการของทหารอิสราเอลเพื่อช่วยตัวประกัน โดยทางกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ CentCom ออกแถลงยืนยันในวันเสาร์ (8) เช่นกัน

หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อมูลข่าวกรองที่สหรัฐฯ ป้อนให้กับเทลอาวีฟนั้นยังคลุมเคลือเพราะแหล่งข่าวรายแรกเปิดเผยว่า เป็นข้อมูลข่าวกรองชั้น 2 ที่รวบรวมมาจากอิสราเอลก่อนปฏิบัติการ ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายเปิดเผยว่า ดูเหมือนว่าจะมีภาพจากมุมสูงมาประกอบ

ทีมอเมริกันนี้ประกอบไปด้วยปฏอบัติการพิเศษและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอเมริกันที่ทำงานนอกสถานทูตมาตั้งแต่อิสราเอลโดนฮามาสโจมตีข้ามพรมแดนแบบเซอร์ไพรส์เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว

โดยเป็นการป้อนข้อมูลเกี่ยวกับพิกัดที่ตั้งของกลุ่มตัวประกันที่ได้มาจากโดรนสหรัฐฯ บินเหนือกาซา การดักฟัง และแหล่งข่าวจากช่องทางอื่นๆ

โดยในกลุ่มตัวประกันยังมีชาวอเมริกันที่หลงเหลืออีก 8 คน ซึ่งรวม 3 คนที่เชื่อว่าเสียชีวิต ขณะที่ตัวประกันไทยนั้น พบว่าสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษได้รายงานไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า กระทรวงต่างประเทศแถลงว่า มีตัวประกันแรงงานไทย 2 คนเสียชีวิตในกาซาคือ สนธยา อัครศรี (Sonthaya Akkharasri) และสุทธิศักดิ์ รินทรลักษณ์ (Sutthisak Rinthalak)

โดยเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตไม่นานหลังสงครามการสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาสเกิดขึ้นหลังเหตุบุกเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปี 2023

นอกเหนือจาก CBS แล้วพบว่า ทั้งแอ็กซิออสและหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สต่างรายงานถึงเบื้องหลังปฏิบัติการที่มีสหรัฐฯ ช่วยให้ข่าวกรองแก่อิสราเอลเช่นกัน


























กำลังโหลดความคิดเห็น