xs
xsm
sm
md
lg

Nvidia เบียดแซง ‘แอปเปิล’ ขึ้นแท่นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงอันดับ 2 ของโลกรองจาก ‘ไมโครซอฟท์’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nvidia
Nvidia ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์รายใหญ่ของอเมริกา มีมูลค่าตลาดพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เบียดแซงยักษ์ใหญ่อย่าง ‘แอปเปิล’ ขึ้นมาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 2 ของโลกรองจากไมโครซอฟท์ในวันพุธ (5 มิ.ย.)

รายงานระบุว่า Nvidia เตรียมที่จะแตกหุ้นในอัตรา 10 ต่อ 1 โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป ในความเคลื่อนไหวที่คาดว่าจะทำให้หุ้นของบริษัทชิปเอไอแห่งนี้เป็นที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนมากขึ้นไปอีก

มูลค่าตลาดของ Nvidia ที่พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถแซงแอปเปิลได้สำเร็จถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับแวดวงอุตสาหกรรมไฮเทคในซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งที่ผ่านมาถูกฉายแสงครอบงำโดยแอปเปิลที่ก่อตั้งโดย สตีฟ จ็อบส์ มาตั้งแต่เริ่มเปิดตัวโทรศัพท์ iPhone เมื่อปี 2007

ราคาหุ้น Nvidia ขยับขึ้น 5.2% ปิดตลาดที่ 1,224.40 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้นเมื่อวันพุธ (6) ส่งผลให้มูลค่าทางการตลาดของบริษัทพุ่งแตะ 3.012 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่มูลค่าตลาดของแอปเปิลอยู่ที่ 3.003 ล้านดอลลาร์หสรัฐ

ไมโครซอฟท์ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน ยังคงรั้งแชมป์บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุด 3.15 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่ราคาหุ้นขยับขึ้น 1.9%

เจค ดอลลาร์ไฮด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Longbow Asset Management ให้มุมมองเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นว่า “Nvidia กำลังมุ่งทำเงินจากเอไอในตอนนี้ และบริษัทอย่างแอปเปิล หรือเมตาก็ทุ่มงบลงทุนมหาศาลไปกับเอไอเช่นกัน”

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ไฮด์ชี้ว่า “ยังเร็วไปหน่อย” ที่จะสรุปตอนนี้ว่า Nvidia อาจจะแซงไมโครซอฟท์ได้ด้วยในที่สุด

ราคาหุ้น Nvidia พุ่งสูงขึ้นถึง 147% ในปี 2024 ด้วยกำลังการผลิตโปรเซสเซอร์ระดับคุณภาพเยี่ยมที่ยังคงไม่เพียงพอกับอุปสงค์ของตลาด เนื่องจากทั้งไมโครซอฟท์ เมตา และอัลฟาเบ็ทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ต่างก็แข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เอไอออกสู่ท้องตลาด

ในขณะที่ NVidia ได้รับอานิสงส์จากกระแสความบูมของเอไอในวอลล์สตรีท แอปเปิลกลับเริ่มเผชิญปัญหาจากอุปสงค์ iPhone ที่ซบเซาลงบวกกับเจอการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้ผลิตใน “จีน” ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนใหญ่ที่สุดในโลก

นักลงทุนบางคนยังมองว่า แอปเปิลค่อนข้างที่จะ “ตามหลัง” บริษัทเทครายใหญ่เจ้าอื่นๆ ในแง่ของการพัฒนาฟีเจอร์เอไอเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ

ที่มา : รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น