เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ วานนี้ (30 พ.ค.) กลายเป็นอดีตผู้นำคนแรกที่ถูกตัดสินความผิดทางอาญาระหว่างแฟนคลับทั่วประเทศช็อกไม่เชื่อสายตา ฟ็อกซ์นิวส์ชี้ถ้าทรัมป์ติดคุกจริงยังหาเสียงจากเรือนจำได้ และตำรวจลับสหรัฐฯ ต้องตามเข้าไปอารักขาในห้องขังเดียวกัน
ฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (30 พ.ค.) ว่า อเมริกันชนทั่วประเทศต่างตกตะลึงต่อคำพิพากษาที่ระบุว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มีความผิดทางอาญาทั้ง 34 กระทง ในความผิดปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจที่มีทั้งดีใจและเสียใจ
และเชื่อว่าคำพิพากษาจะมีผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในอีก 5 เดือนหลังจากนี้ ส่งผลทำให้สายตาทุกคู่จับจ้องว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานว่า “ทรัมป์” ประกาศด้านนอกศาลว่า คำพิพากษาตัดสินว่าเขาผิดนี้มันน่าละอาย และ “เขาเป็นผู้บริสุทธิ์มากๆ” ยืนยันว่าการไต่สวนนี้มีปัญหาโดนแทรกแซง ก่อนจะเดินทางออกไป ขณะที่โฆษกประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดนออกมาตอกตะปูย้ำว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย”
แฟนคลับ MAGA ของทรัมป์ออกมาโวยหลังคำตัดสินว่า เป็นวันที่บ้าคลั่ง ฟ็อกซ์นิวส์ชี้ โดยอารอน (Aaron) จากรัฐมิชิแกนเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า มันเป็นวันที่บ้าคลั่งและยิ่งทำให้เขาต้องการโหวตให้ทรัมป์ และบริจาคให้การหาเสียงของเขา พร้อมยืนยันว่าสิ่งนี้จะยิ่งทำให้ทรัมป์แข็งขึ้นในฐานเสียงของเขา
อารอนยืนยันโดยสรุปว่า มันเป็นการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ขณะที่ผู้สนับสนุนอีกรายเป็นชาวนิวยอร์กเกอร์ให้สัมภาษณ์ด้านนอกศาลในเมืองแมนแฮตตันว่า ทรัมป์อาจจะมีความผิดในศาล แต่ในสายตาของชาวนิวยอร์ก เขากำลังจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพวกเรา และเสริมว่า พวกเราสนับสนุนเขา
ขณะที่คอรา (Cora) ให้สัมภาษณ์จากรัฐแคลิฟอร์เนียอาณาจักรฐานของไบเดน เปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า เธอไม่แปลกใจต่อผลที่ออกมาเพราะเป็นการไต่สวนที่มีแรงจูงใจทางการเมืองมาตั้งแต่ต้นจนถึงวันสุดท้าย และยืนยันจะโหวตเลือกเขาในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง
ขณะที่จิมมี (Jimmy) จากเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนแสดงความเห็นว่า คำพิพากษาเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และเรียกร้องให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ ยื่นอุทธรณ์ ส่วน เดนีซ (Denise) จากเมืองมิชิแกนกล่าวว่า เธอไม่คิดว่าผลจากคดีจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของคนในการโหวตเดือนพฤศจิกายน เธอกล่าวว่าโดยส่วนตัวเธอจะไม่โหวตให้ทรัมป์ แต่เชื่อว่าเขาจะได้รับการเลือกกลับเข้ามา
ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า กลายเป็นคำถามว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ หากถูกตัดสินจำคุกจะสามารถหาเสียงจากในเรือนจำได้หรือไม่
ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ที่ยาวนานมาตั้งแต่ครั้งก่อตั้งประเทศไม่ได้ระบุว่า พลเมืองอเมริกันที่มีประวัติอาชญากรรมไม่สามารถลงรับสมัครเลือกตั้งได้
ทรัมป์ที่กำลังเผชิญหน้าโทษสูงสุดตั้งแต่จำคุกในเรือนจำนาน 4 ปี ไปจนถึงปรับและสั่งภาคทัณฑ์ยังไม่ได้ถูกตัดสินในเรื่องโทษแต่อย่างใด
ฟ็อกซ์นิวส์ชี้ว่า แต่ไม่น่ามีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะได้รับโทษจำคุก และหากว่าเขาต้องถูกตัดสินจำคุกจริง ทรัมป์อาจสามารถได้รับโทษกักตัวในบ้านพักแทน
ในอดีตเคยมีผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หาเสียงจากเรือนจำมาแล้ว เป็นผู้สมัครพรรคสังคมนิยม ยูจีน วี. เด็บส์ (Eugene V. Debs) โดนตัดสินในข้อหาล้มล้างการปกครองหลังจากเขาต่อต้านไม่ให้สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 และโดนผู้นำอเมริกาในเวลานั้น วอร์เรน จี. ฮาร์ดิง (Warren G. Harding) สั่งจำคุกเขาในปี 1921 และทำให้เด็บส์ในปี 1922 หาเสียงเลือกตั้งทำเนียบขาวจากห้องขังในที่สุด
ซึ่งการที่ทรัมป์อาจมีสิทธิโดนส่งตัวเข้าเรือนจำทำให้เกิดคำถามไปถึงความปลอดภัยของเขาซึ่งเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า ส.ส.พรรครีพับลิกันสังกัดทรัมป์ มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน (Marjorie Taylor Greene) อ้างอิงจากเดลีเมลของอังกฤษเคยออกมาเปิดเผยทฤษฎีสมคบคิดของตัวเองว่า พรรคเดโมแครตกำลังวางแผนเพื่อลอบสังหารทรัมป์ในเรือนจำ และพยายามที่จะหาทางถอดการคุ้มกันของหน่วยตำรวจลับสหรัฐฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานวันพฤหัสบดี (30) ว่า มีการหารืออย่างกว้างขวางภายในหน่วยตำรวจลับสหรัฐฯ ถึงกระบวนการให้การปกป้องอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งสื่ออเมริกันชื่อดังต่างรายงานคาดการณ์ว่า หากทรัมป์ต้องเข้าคุกจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจลับต้องตามเข้าไปติดในห้องขังเดียวกันเพื่อตามอารักขาด้วยเพื่อปกป้องตลอด 24 ชม.
ตามการรายงานกล่าวว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์อาจส่งไปขังในพื้นที่แยกออกไปจากนักโทษคนอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลับสหรัฐฯ สามารถเดินเข้าเดินออกไปตลอดเวลา แต่อาจมีปัญหาเพราะภายในเรือนจำจะไม่อนุญาตให้สามารถพกปืนได้
การปกป้องทรัมป์ในเรือนจำนอกจากต้องแยกเขาจากนักโทษคนอื่นๆ และยังจำเป็นต้องตรวจอาหารและสิ่งของส่วนตัวอื่นๆ ซึ่งตำรวจลับสหรัฐฯ จำเป็นต้องทำงาน 24 ชม./วัน อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน
ซึ่งถึงแม้ว่าพื้นที่เรือนจำจะห้ามการพกอาวุธเด็ดขาด แต่ทว่า เอเยนต์นั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะยังคงมีอาวุธติดตัว
แหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่ระบบเรือนจำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์สว่า มีเรือนจำไม่กี่เมืองและระดับรัฐจำนวนหนึ่งที่ปิดตัวหรือถูกปิดบางส่วน และจะสามารถส่งทรัมป์และทีมอารักขาของเขาไปที่แห่งนั้นได้
ซึ่งกำหนดโทษจะประกาศในวันที่ 11 ก.ค. ขณะที่ประชุมพรรครีพับลิกันเพื่อกำหนดตัวผู้แทนพรรคลงชิงเป็นทางการที่เมืองมิลวอล์กกี รัฐวิสคอนซิน จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 ก.ค.นี้
