ชายผิวดำ 3 คน เมื่อวันพุธ (29 พ.ค.) ยื่นฟ้องเอาผิดกับสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ตามคำกล่าวหาเลือกปฏิบัติทางผิวสีอย่างร้ายแรงและโจ่งแจ้ง จากกรณีที่ไล่พวกเขาลงจากเที่ยวบินหนึ่ง โดยอ้างว่ามีคำร้องเรียนเกี่ยวกับกลิ่นตัว
คำฟ้องระบุว่าฝ่ายโจทก์ ที่ประกอบด้วยนายอัลวิน แจ็คสัน นายเอ็มมานูเอล ฌอง โจเซฟ และนายซาเบียร์ เวียล และผู้โดยสารชายผิวสีคนอื่นๆ อีก 5 ราย ถูกไล่ลงจากเที่ยวบิน 832 ของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส จากฟีนิกซ์ สู่ท่าอากาศยานเจเอฟเคในนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2024 "โดยปราศจากเหตุผลที่ชอบธรรม บนพื้นฐานเกี่ยวกับผิวสีของพวกเขาล้วนๆ"
ในคำฟ้องบอกด้วยว่าตัวแทนของอเมริกัน แอร์ไลน์สรายหนึ่งเดินตรงมาหาชายแต่ละคน ก่อนเครื่องบินเทกออฟ จากนั้นก็สั่งให้พวกเขาลงจากเครื่องบิน ซึ่งเบื้องต้นทั้งหมดก็ยอมปฏิบัติตาม "แต่ครั้งที่พวกเขาเดินลงไปถึงสะพานเทียบเครื่องบิน พวกเขาก็เห็นชายผิวดำคนอื่นๆ ถูกขอให้ลงจากเครื่องบินเช่นกัน ซึ่งฝ่ายโจทก์เชื่อว่าในความเป็นจริงแล้ว อเมริกัน แอร์ไลน์ส ได้สั่งให้ชายผิวสีทั้งหมด บนเที่ยวบิน 832 ลงจากเครื่อง"
ตัวแทนของอเมริกัน แอร์ไลน์ส อ้างว่าชายเหล่านี้ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับกลิ่นตัว ซึ่งมันกระตุ้นให้ต้องขอให้พวกเขาลงจากเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ในคำฟ้องระบุว่า ไม่มีฝ่ายโจทก์คนไหนที่มีกลิ่นตัว และข้อเท็จริงคือ ไม่มีฝ่ายโจทก์รายไหนมีกลิ่นตัวรุนแรงเลย
ในคำร้องอ้างด้วยว่า มีตัวแทนของอเมริกัน แอร์ไลน์ส อย่างน้อย 1 คน ที่ยอมรับ เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างของฝ่ายโจทก์ที่ว่าพวกเขาถูกเจาะจง สืบเนื่องจากเป็นคนผิวสี
คลิปวิดีโอที่ชาวผิวสีคนหนึ่งใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเอาไว้ และถูกแชร์โดย Public Citizen Litigation Group ตัวแทนของฝ่ายโจทก์ เป็นภาพเหตุการณ์ความยุ่งเหยิง ระหว่างที่พวกเขาสอบถามถึงการกระทำของสายการบิน และระหว่างนั้นได้ยินชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "แล้วนี่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือเปล่า เราเป็นแค่กลุ่มเดียวที่ถูกพาลงจากเครื่องบิน" ส่วนอีกคลิป เป็นภาพที่ชายอีกคนกล่าวว่า "นี่มันบ้ามาก คุณเพิ่งเห็นชายผิวสี 8 คน ถูกนำตัวลงจากเครื่องบิน"
ในคำฟ้องระบุว่าฝ่ายโจทก์ทั้ง 3 คน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และไม่ได้นั่งติดกัน และตอนที่ทั้งหมดเดินมาถึงประตูทางออก พวกเขาได้รับการบอกเล่าว่าพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชายผิวขาว เป็นคนร้องเรียนเกี่ยวกับกลิ่นตัวของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วผู้ชายกลุ่มนี้ก็ได้รับอนุญาตให้กลับขึ้นไปบนเครื่องบินราว 1 ชั่วโมงหลังจากนั้น หลังจากสายการบินสรุปแล้วว่า ไม่มีเที่ยวบินอื่นแล้วในช่วงเย็นวันเดียวกัน
"จากนั้นฝ่ายโจทก์ก็กลับขึ้นไปบนเครื่อง แต่ต้องเผชิญกับสายตาที่จ้องมองอย่างไม่เป็นมิตรจากพวกผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เป็นคนผิวขาว ที่มองพวกเขาว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินต้องดีเลย์เป็นเวลานาน พวกเขารู้สึกทุกข์ทรมานตลอดเวลาที่อยู่บนเที่ยวบิน เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลมันสร้างบาดแผล ก่อความผิดหวัง น่ากลัวและน่าอับอาย"
สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ระบุในถ้อยแถลงว่า "เราขอรับผิดชอบเรื่องราวเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติด้วยความจริงจังเป็นอย่างยิ่ง และประสงค์ให้ลูกค้าของเรามีประสบการณ์ในทางบวก ตอนที่พวกเขาเลือกบินกับเรา เวลานี้ทีมงานของเรากำลังสืบสวนในประเด็นนี้ การฟ้องร้องไม่ได้สะท้อนค่านิยมหลักของเราหรือจุดประสงค์ในการดูแลผู้โดยสารของเรา"
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)