โตโยต้าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เปิดเผยแผนสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่ เสี่ยงเดิมพันว่าเทคโนโลยีเก่านี้จะยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดต่อไป แม้ผู้ซื้อหันไปหาเทสลา และผู้ผลิตรถไฟฟ้าอื่นๆ หลังกระแสรถอีวีเริ่มแผ่วลงไปในระยะหลัง
ถ้อยแถลงร่วมที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก พวกผู้บริหารของโตโยต้า มาสด้า และซูบารุ ประกาศว่าจะเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีพื้นฐานเชื้อเพลิง ความเคลื่อนไหวที่จะเป็นประโยชน์กับซัปพลายเออร์หลายร้อยเจ้าที่ประสบปัญหาในการรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า
"ในยุคที่การพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าแบตเตอรี่เร่งฝีเท้าขึ้น ยังมีบทบาทใหม่ที่เราสามารถเสาะหาได้กับเครื่องยนต์สันดาปภายในเช่นกัน" โคจิ ซาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโตโยต้ากล่าว พร้อมเน้นว่าเครื่องยนต์ใหม่ถูกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฮบริด
ความมุ่งมั่นของโตโยต้าที่มีต่อเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งปกติแล้วพึ่งพิงเชื้อเพลิงเบนซินหรือดีเซล มีขึ้นในขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัวลง สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและเครือข่ายชาร์จไฟที่ไม่เพียงพอ
ปัจจัยดังกล่าวทำให้อุปสงค์รถยนต์ไฮบริดเฟื่องฟูขึ้น และกระตุ้นบรรดาค่ายคู่แข่งทั่วโลกเพิ่มการลงทุนในรถยนต์ไฮบริดรุ่นต่างๆ
โตโยต้าเปิดเผยในวันอังคาร (28 พ.ค.) ว่าเครื่องยนต์ใหม่จะเข้าสู่การผลิตในช่วงเวลาที่คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านมลพิเศษของอียู มีแผนอัปเดตกฎระเบียบต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 2026
แม้โตโยต้าไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับการลงทุนในเครื่องยนต์ใหม่ แต่ ฮิโรกิ นาคาจิมะ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บอกว่าขนาดการลงทุนถือว่าน้อยกว่างบประมาณที่ต้องไหลบ่าเข้าสู่การพัฒนารถไฟฟ้า และแบตเตอรี่
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ เป็นผู้สนับสนุนรถยนต์ไฮบริดมาช้านาน และค่อนข้างล่าช้าในการปรับตัวเข้าสู่รถไฟฟ้า จุดยืนที่ผ่านการพิสูจน์แล้วจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
"ทั้งรถรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ และเครื่องยนต์สันดาปภายในมีความสำคัญ" นาคาจิมะ กล่าว พร้อมระบุว่าโตโยต้าจะเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีทั้ง 2 และให้ความสำคัญกับเป้าหมายด้านการลดมลพิษ
ก่อนหน้านี้ อาคิโอะ โตโยดะ ประธานของโตโยต้าคาดหมายว่าอุปสงค์รถยนต์ไฟฟ้าจะแตะเพดานสูงสุดแค่ 30% ในตลาดโลก เปิดทางสำหรับการขายรถยนต์ไฮบริดเพิ่มเติม
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าจะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมราว 10 ถึง 20% ซึ่งจะเปิดทางทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเมื่อทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ พวกเขาคาดหมายว่าจะใช้เครื่องยนต์ใหม่กับรถยนต์ไฮบริดเป็นลำดับแรก จากนั้นก็ตามด้วยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
"มันเป็นไปตามกรอบกลยุทธ์ของโตโยต้า สำหรับกระจายเดิมพันไปในเทคโนโลยีที่ต่างกันออกไป" เจมส์ ฮ่อง นักวิเคราะห์จาก Macquarie พร้อมระบุว่า "โดยพื้นฐานแล้ว มันก็คือ โตโยต้ากำลังพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็กสำหรับไฮบริด ที่สามารถตติดตั้งโดยไม่จำเป็นต้องดัดแปลงการออกแบบรุ่นยนต์รุ่นถัดๆ ไปของพวกเขา"
(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส)