แนวโน้มตะวันตกจะเข้าพัวพันช่วยเหลือเคียฟทางการทหารโดยตรงเพิ่มมากขึ้น ผู้บัญชาการทหารยูเครนระบุ เพิ่งลงนามเอกสารเปิดทางครูฝึกฝรั่งเศสเข้ามาช่วยเทรนทหารถึงในดินแดนยูเครน แทนที่จะไปทำกันในต่างประเทศอย่างเมื่อก่อน ถึงแม้ปารีสรีบออกมาปฏิเสธเรื่องนี้กลายๆ โดยบอกว่ายังอยู่ระหว่างการหารือ ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง กระแสถกเถียงในยุโรปยิ่งเข้มข้นหลังเลขาธิการนาโตหนุนข้อเรียกร้อง “เคียฟ” เปิดทางยูเครนใช้อาวุธของตะวันตก โจมตีเล่นงานพวกเป้าหมายภายในรัสเซีย
โอเลคซานดร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารยูเครน โพสต์บนแอปเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ (27 พ.ค.) ภายหลังพูดคุยผ่านวิดีโอลิงก์กับเซบาสเตียน เลอคอร์นู รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ว่า ยินดีต้อนรับแผนการริเริ่มของฝรั่งเศสในการส่งครูฝึกมาช่วยฝึกทหารยูเครน และเปิดเผยว่า เขาเพิ่งลงนามเอกสารที่อนุญาตให้ครูฝึกชาวฝรั่งเศสเหล่านั้นเยี่ยมชมพวกศูนย์ฝึกทหารของยูเครนเร็วๆ นี้ เพื่อทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรของฝ่ายยูเครน
ซีร์สกีไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่แสดงความเชื่อมั่นว่า การตัดสินใจของฝรั่งเศสจะกระตุ้นให้พันธมิตรอื่นๆ เข้าร่วมโครงการที่มีความมุ่งหวังสูงนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน กระทรวงกลาโหมยูเครนโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เคียฟแสดงความสนใจโครงการรับครูฝึกต่างชาตินี้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
“สำหรับในขณะนี้ เรายังคงกำลังหารือกับฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้” คำแถลงของกระทรวงบอก
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เคยแง้มประตูเรื่องการจัดส่งทหารเข้าไปช่วยยูเครน และในการประชุมที่ปารีสเมื่อวันที่ 26 ก.พ. เขาเสนอแนะว่าเรื่องหนึ่งที่ทหารฝ่ายตะวันตกสามารถให้ความช่วยเหลือได้ คือการเข้าไปฝึกทหารยูเครนภายในยูเครนเลย
ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่มีประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) รายใดระบุว่าได้จัดส่งครูฝึกไปช่วยกองทัพยูเครนภายในประเทศนั้นอย่างเป็นทางการ
ทางด้านกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสได้ออกคำแถลงกล่าวว่า การส่งครูฝึกเข้าไปฝึกทหารในดินแดนยูเครน เป็นหนึ่งในโครงการที่มีการหารือกันนับตั้งแต่การประชุมเมื่อวันที่ 26 ก.พ. และก็เหมือนกับโครงการทั้งหมดที่มีการหารือกันในคราวนั้น เรื่องนี้ยังคงถือเป็นหัวข้อที่จะต้องทำงานกับฝ่ายยูเครนต่อไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้ทราบถึงความต้องการของยูเครน
นอกจากความช่วยเหลือในลักษณะนี้แล้ว ภายในนาโตยังมีการถกเถียงกันมากขึ้นเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของเคียฟที่ต้องการให้ตะวันตกอนุญาตให้ใช้อาวุธที่จัดหาให้ เพื่อโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.นี้ เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ประกาศระหว่างเยือนเคียฟว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธที่อังกฤษจัดส่งให้โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
ก่อนหน้านี้อเมริกาและพันธมิตรอื่นๆ ดูยังลังเลเนื่องจากกังวลว่าอาจถูกดึงเข้าสู่การสู้รบขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย ซึ่งถึงอย่างไรก็มีฐานะเป็นผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
ทว่า ระหว่างการประชุมที่บัลแกเรียเมื่อวันอาทิตย์ (26) เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่พันธมิตรต้องทบทวนข้อจำกัดในการใช้อาวุธของตะวันตกเพื่อโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย
แต่ในวันเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี ได้ออกมาคัดค้าน โดยย้ำว่า นาโตควรคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบมากๆ
ในส่วนของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนสเปน เมื่อวันจันทร์ (27) เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ เพียงแต่ย้ำข้อเรียกร้องให้พวกพันธมิตรจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศซึ่งสามารถสกัดระเบิดของรัสเซียที่โจมตียูเครนเดือนละ 3,000 ลูก เข้ามาช่วยเหลือยูเครน และสำทับว่า เคียฟต้องการระบบแพทริออตของอเมริกาอีก 7 ชุด ซึ่งรวมถึง 2 ชุดเป็นอย่างน้อยสำหรับแคว้นคาร์คิฟที่ติดกับชายแดนรัสเซียและกำลังถูกถล่มอย่างต่อเนื่อง
ทางฝ่ายนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน กล่าวว่า สเปนส่งขีปนาวุธแพทริออตที่ตนมีอยู่ไปให้เคียฟแล้ว และกำลังหารือกับชาติพันธมิตรว่า จะสามารถจัดหาให้เพิ่มได้อีกมากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ดี เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับการอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธที่จัดส่งให้ในการโจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย ซานเชสก็ใช้วิธีหลีกเลี่ยง โดยกล่าวเพียงว่า สเปนจะอยู่เคียงข้างยูเครนตราบนานเท่านาน และประกาศว่า แพกเกจความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 1,000 ล้านยูโรเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงความมั่นคงที่จะช่วยให้เคียฟเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันประเทศ
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)