ทางการญี่ปุ่นเผยได้รับแจ้งจากรัฐบาลเกาหลีเหนือว่าจะมีการปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศอีกครั้ง ภายในวันที่ 4 มิ.ย.นี้
สำนักข่าวเกียวโดอ้างข้อมูลจากหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นซึ่งระบุว่า เกาหลีเหนือได้แจ้งกรอบเวลาในการปล่อยดาวเทียม โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 0.00 น. ของวันจันทร์ที่ 27 พ.ค.เป็นต้นไป และได้ประกาศเขตพื้นที่อันตรายทางทะเล 3 จุดใกล้กับคาบสมุทรเกาหลีและเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ ซึ่งอาจจะมีเศษชิ้นส่วนจรวดตกลงสู่พื้นโลก
เกียวโดยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ได้ลงความเห็นพ้องระหว่างพูดคุยโทรศัพท์ว่าควรเรียกร้องให้ผู้นำ คิม จองอึน ระงับแผนดังกล่าว เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธทิ้งตัวทุกชนิดโดยเกาหลีเหนือจะถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
เกาหลีเหนือส่งดาวเทียมสอดแนมดวงแรกขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้วท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ชี้ว่ามันเป็นการ “ฝ่าฝืนอย่างร้ายแรง” ต่อมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็น
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า ดาวเทียมสอดแนมจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการรวบรวมข่าวกรองให้เกาหลีเหนือได้อย่างมาก และข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเปียงยางหากเกิดการเผชิญหน้าทางทหารขึ้น
รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (24) ว่า หน่วยข่าวกรองของตนและสหรัฐฯ “กำลังเฝ้าจับตาและติดตาม” แผนการส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงใหม่ของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด หลังมีการตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยที่เขตตงชาง-รี (Tongchang-ri) ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีปล่อยดาวเทียมโซแฮของเกาหลีเหนือ และยังเป็นสถานที่ที่โสมแดงใช้ยิงดาวเทียมถึง 3 ครั้งในปีที่แล้ว แม้จะสำเร็จเพียงครั้งเดียวก็ตาม
โซลเชื่อว่าเกาหลีเหนือได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีดาวเทียมจาก “รัสเซีย” โดยแลกกับการที่เปียงยางจัดส่งอาวุธไปช่วยมอสโกทำสงครามในยูเครน
ความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือมีขึ้น ในขณะที่การประชุมซัมมิต 3 ฝ่ายระหว่างเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีกำลังจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงโซลในวันนี้ (27 พ.ค.) ทว่าด้วยจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันระหว่างทั้ง 3 ฝ่ายทำให้คาดว่าจะไม่มีการหยิบยกปัญหาเกาหลีเหนือมาเป็นประเด็นหลักในการหารือ
ที่มา : เอเอฟพี