เอพี/เอเอฟพี/MGRออนไลน์- ศาลสูงอังกฤษออกคำพิพากษาครั้งประวัติศาสตร์ในวันจันทร์ (20 พ.ค.) อนุญาตให้ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์ จูเลียน แอสซานจ์ ชนะรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขอส่งตัวตัวจากดำเนินคดีในอเมริกา หลังพบไม่สามารถให้หลักประกันตามกฎหมายสิทธิพลเมืองข้อ 1 ฉบับแก้ไขว่าด้วยเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ด้านภรรยาคู่ใจ สเตลลา ประกาศนอกศาลในกรุงลอนดอนว่า สหรัฐฯ สมควรต้องอ่านสถานการณ์ให้ออกและสั่งถอนคดี ส่วนนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบานิส เรียกร้องให้เลิกจำคุกเจ้าพ่อวีกีลีกส์
เอพีรายงานวันอังคาร (21 พ.ค.) ที่ผ่านมาว่า กลายเป็นชัยชนะครั้งสำคัญในเสรีภาพสื่อและความพ่ายแพ้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในคดีผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์ จูเลียน แอสซานจ์ ที่ในวันจันทร์ (20) ผู้พิพากษาศาลสูงอังกฤษ วิคตอเรีย ชาร์ป (Victoria Sharp) และเจเรมี จอห์นสัน (Jeremy Johnson) ออกคำพิพากษาครั้งประวัติศาสตร์ อนุญาตให้เจ้าพ่อวิกิลีกส์สามารถยื่นอุทธรณ์ขอเปิดการไต่สวนพิจารณาคดีได้ใหม่ทั้งหมด และทำให้คดีนี้ที่กลายเป็นมหากาพย์อยู่ก่อนหน้าต้องลากยาวออกไป และสร้างความปวดหัวให้วอชิงตันมากขึ้น
ศาลสูงอังกฤษได้พิพากษาว่าแอสซานจ์สามารถขออุทธรณ์ได้จากเหตุผล 2 ข้อที่เกี่ยงข้องกับประเด็นเสรีภาพของสื่อ
เอพีระบุว่า คณะผู้พิพากษาอังกฤษกล่าวว่า หากว่า จูเลียน แอสซานจ์ 'ถูกพราก' จากการป้องกันตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ หมวดสิทธิพลเรือนที่ได้รับแก้ไขข้อ 1 (เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น : The First Amendment ) ดังนั้นแล้วการส่งตัวข้ามแดนไปนั้นจะไม่สอดคล้องกับกฎหมายปฏิญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (European Convention on Human Rights) ที่ให้เสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการปกป้องสื่อสารมวลชน
และเหตุผลที่ 2 จากการที่หากแอสซานจ์ไม่สามารถได้พึ่งพาต่อสิทธิพลเมืองสหรัฐฯ ฉบับแก้ไขข้อ 1 เพราะเขาไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ ดังนั้นจะเป็นการเปิดช่องให้เจ้าพ่อวีกีลีกส์สามารถถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเนื่องมาจากสัญชาติของเขา
อ้างอิงจากเว็บไซต์ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ (whitehouse.gov) ได้อธิบายสิทธิพลเรือนที่ได้รับแก้ไขข้อ 1 หรือ The First Amendment ว่ากฎหมายข้อนี้นอกจากทางด้านการศาสนาแล้วยังมีเนื้อหาปกป้องเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น สื่อสารมวลชน การชุมนุม และสิทธิการร้องเรียนต่อรัฐบาลเพื่อแก้ไขความทุกข์ยาก
ทั้งนี้ เจมส์ ลูว์อิส (James Lewis) ทนายความให้รัฐบาลสหรัฐฯ เคยออกมากล่าวว่า แอสซานจ์จะได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์ของสิทธิกระบวนการไต่สวน แต่อย่างไรก็ตาม ลูว์อิสกล่าวว่า พฤติกรรมบางอย่างของแอสซานจ์นั้นจะทำให้ไม่ได้รับการปกป้องโดยกฎหมายสิทธิพลเมืองฉบับแก้ไขข้อ 1
“ไม่มีใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ หรือชาวต่างชาติสามารถพึ่งพาสิทธิฉบับแก้ไขข้อ 1 ในความเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลการป้องกันประเทศสหรัฐฯ ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายและเปิดเผยชื่อบุคคลผู้บริสุทธิ์ ทำให้คนเหล่านั้นตกอยู่ในความอย่างมหันต์ขั้นร้ายแรง”
เอพีชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ให้หลักประกันตามคำขอของศาลสูงอังกฤษ แต่ทว่าทีมกฎหมายของเจ้าพ่อวิกิลีกส์ยอมรับเพียงแต่ว่า ต้องให้หลักประกันว่าจูเลียน แอสซานจ์ จะไม่รับโทษประหารชีวิต
ทีมกฎหมายกล่าวต่อว่า แอสซานจ์มีสิทธิอาจถูกจำคุกนาน 175 ปีในเรือนจำหากถูกตัดสินว่าผิดจริง แต่เจ้าหน้าที่อเมริกันเคยกล่าวว่า การลงโทษใดๆ นั้นจะมีระยะเวลาน้อยกว่านั้น
จูเลียน แอสซานจ์ ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ชาวออสเตรเลียได้ก่อตั้งวิกิลีกส์กลายเป็นสัญลักษณ์เสรีภาพของสื่อในการทำสงครามกับรัฐที่มีเส้นแบ่งบางๆ กางกั้นระหว่างความมั่นคงของรัฐและเสรีภาพของสื่อ
แอสซานจ์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งดำเนินคดีในความผิดจารกรรมลับ 17 กระทง และ 1 ข้อหาในความผิดการใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกต้องจากการที่เว็บไซต์วิกิลีกส์ของเขาได้เผยแพร่เอกสารลับสหรัฐฯ เมื่อเกือบ 15 ปีก่อน
บรรยากาศนอกศาลวันจันทร์ (20) พบว่าบรรดาผู้สนับสนุนหลายร้อยคนต่างปรบมือและส่งเสียงเชียร์โห่ร้องหลังคำพิพากษาออกมาสู่ด้านนอกที่ระบุว่า แอสซานจ์ยังไม่ต้องถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ และสามารถยื่นขอการไต่สวนพิจารณาใหม่ได้
สเตลลา แอสซานจ์ (Stella Assange) ภรรยาของเจ้าพ่อวิกืลีกส์กล่าวที่ด้านนอกศาลสูงอังกฤษวันจันทร์ (20) ว่า “อเมริกาพยายามทาลิปสติกให้หมู แต่คณะผู้พิพากษาไม่หลงกล” พร้อมกล่าวต่อว่า สหรัฐฯ สมควรต้องอ่านสถานการณ์ให้ออกและสั่งถอนคดีนี้
ด้านนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบานีส อ้างอิงจากเอเอฟพี ออกมาเรียกร้องในวันอังคาร (21) ให้ยุติการจำคุกจูเลียน แอสซานจ์โดยชี้ว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะให้เขาอยู่ในเรือนจำต่อไป หลังคำพิพากษาศาลสูงอังกฤษที่กรุงลอนดอนออกมาว่า การส่งตัวไปดำเนินคดีต่อที่สหรัฐฯ ในเวลานี้ต้องยุติลงชั่วคราว