xs
xsm
sm
md
lg

ส่อง 3 นาทีมฤตยู สิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศลึก 2 กิโลเมตร คุณปู่หัวใจวายตาย อีก 7 รายสาหัส & หลายสิบไม่รัดเข็ดขัดศีรษะโหม่งฉีกเพดานเครื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“บุบยุบหักขึ้นไป & หลุดห้อยลงมา” เป็นเพราะการปะทะกับกะโหลกศีรษะผู้โดยสาร: สภาพเสียหายเละเทะในห้องโดยสารชั้นประหยัดของเครื่องบินโบอิง 777-300 อีอาร์ ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ SG321 หลังจากที่ตกหลุมอากาศอย่างปุบปับฉับพลัน 2.1 กิโลเมตรภายในห้วงเวลาแค่ 3 นาที ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือที่มิได้นั่งรัดเข็มขัดนิรภัย ถึงแก่กาลวิบัติ ศีรษะถูกเพดานห้องโดยสารฟาดลงไปอย่างจัง กระทั่งว่าฝาเปิดปิดช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะแตกหักบุบยุบ (ภาพขวา) และแผงคอนโซลติดตั้งหลอดไฟและหน้ากากออกซิเจนบุบหักหรือหลุดห้อยลงมาทั้งชิ้น (ภาพซ้าย) การปะทะกันระหว่างศีรษะกับเพดานย่อมจะทำให้สมองของผู้เคราะห์ร้ายได้รับความกระทบกระเทือน โดยมีรายที่บาดเจ็บสาหัสมากมายถึง 7 ราย
ด้วยช่วงเวลาแวบๆ เพียง 3 นาทีที่เที่ยวบิน SQ321 ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศลึก7,000 ฟตุ หรือกว่า 2 กิโลเมตร ดุเดือดสุดๆ ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การบินโลกนั้น สารพัดโศกนาฏกรรมอุบัติขึ้น คุณปู่ชาวอังกฤษวัย 73 ปี ชะตาขาด หัวใจวายตาย 1 ราย ขณะเดียวกันมีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 7 รายบาดเจ็บสาหัสเพราะศีรษะกระทบกระเทือนรุนแรงภายในไฟลท์มรณะ ซึ่งเดินทางจากกรุงลอนดอนมุ่งหน้าสู่เมืองลอดช่องในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เมื่อวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2024 ขณะเดินทางเหนือน่านน้ำอ่าวเบงกอลแห่งทะเลอันดามัน และอีกราว 2 ชั่วโมงก็จะถึงที่หมายแล้ว

เดอะซัน สื่อยักษ์ชั้นแนวหน้าของประเทศอังกฤษรายงานว่าเครื่องบินโบอิง 777-300 อีอาร์ ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ซึ่งมีชื่อเสียงดีงามว่าเป็นผู้ให้บริการคมนาคมขนส่งที่ปลอดภัยสูงสุดรายหนึ่งในอุตสาหกรรมการบินโลก เผชิญวิกฤตการณ์เครื่องบินตกหลุมอากาศครั้งร้ายแรงในท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวนจากพายุ ณ ระดับความสูง 38,000 ฟุต บุ๋มลงโครมกระแทกมวลอากาศอีกทีที่ระดับ 31,000 ฟุต จุดชนวนความโกลาหลกลางอากาศ โดยผู้โดยสารและลูกเรือหลายสิบชีวิตที่มิได้อยู่บนนั่งรัดเข็มขัด ถูกแรงเหวี่ยงล้มลงพื้น แต่แตะพื้นไม่ถึงครึ่งวินาที ก็ถูกเพดานเครื่องบินกระแทกฟาดลงมาอย่างจัง ส่วนใหญ่โดนเข้าจังๆ ที่ศีรษะ ทำให้บาดเจ็บสาหัสด้วยอาการศีรษะถูกกระทบกระเทือนรุนแรงมากถึง 7 ราย บางรายมีเลือดไหลโกรกออกจากจมูก ฯลฯ

ศีรษะของผู้โดยสารหลายรายกระแทกกับแผงช่องติดหลอดไฟและเก็บหน้ากากออกซิเจน แผงนั่นฉีกหักทะลุขึ้นไปเลย แผงบางอันก็ตกห้อยลงมา

เพดานของพื้นที่จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มฟาดลงมาโดนลูกเรือ ทำให้แผงเพดานแตกหักและโครงสร้างทั้งยวงพร้อมท่อต่างๆ หลุดห้อยลงมาเกือบถึงพื้น ส่งผลให้มีลูกเรือรายหนึ่งบาดเจ็บสาหัสเพราะศีรษะกระทบกระเทือนร้ายแรง
สิงคโปร์แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ SQ321 ทะยานเหินฟ้าจากท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์เมื่อวันจันทร์ (20) เวลา 10.00 นาฬิกาเศษ พร้อมผู้โดยสาร 211 ราย และคณะลูกเรือจำนวน 18 ราย

ในเวลา 15.45 น. หรือราว 11 ชั่วโมงจากช่วงการเดินทางทั้งหมด 13 ชั่วโมงเพื่อไปสู่จุดหมายคือ ประเทศสิงคโปร์ ณ 18.10 น.นั้น โบอิง 777-300 อีอาร์ ซึ่งฟันฝ่าสภาพอากาศพายุอย่างทรหดเหนือน่านน้ำอันดามัน จู่ๆ ก็ประสบกับพิบัติภัยกลางเวิ้งฟ้า ตกหลุมอากาศอย่างร้ายแรง ซึ่งขณะนั้นผู้โดยสารแต่ละคนกำลังรับประทานอาหาร เดอะซันรายงานอย่างนั้น

ด้วยขนาดของความบาดเจ็บเสียหายมหาศาล กัปตันรีบติดต่อขออนุญาตทางการไทยเพื่อลงจอดฉุกเฉินในประเทศไทย

พร้อมรายงานถึงการเสียชีวิตของคุณปู่เจฟ คิทเชน ผู้โดยสารชาวอังกฤษ วัยเกษียณอายุ 73 ปี ซึ่งเดินทางมากับภรรยา ในชั้นพรีเมียมอีโค ราคาประหยัดที่หรูสบายมากขึ้น โดยรายงานของรอยเตอร์ระบุว่าสาเหตุของการเสียชีวิตอาจเป็นปัญหาจากหัวใจวาย ทั้งนี้ คุณปู่มีขดลวดในหลอดเลือดหัวใจเพื่อขยายหลอดเลือดจากการผ่าตัดทำบอลลูนเมื่อไม่กี่ปีมานี้


ในเวลา 16.10 น. ของประเทศไทย สิงคโปร์แอร์ไลน์ที่ประสบวิบัติภัยอันสุดความสามารถจะป้องกัน ก็ได้ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพื่อให้ผู้คนกว่า 30 ชีวิตที่บาดเจ็บได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

เดอะซันรายงานอย่างละเอียดว่าสภาพหลังการตกหลุมอากาศมรณะนี้ ชวนให้ช็อกกันอย่างหนัก ตามพื้นทางเดินเกลื่อนกระจายไปด้วยอาหารและจานชามช้อนส้อมถาดที่ถูกเหวี่ยงตามพลังร้ายของโมเมนตัมขณะเครื่องบินตกโครมลงไปลึกถึง 7,000 ฟุต หรือมากกว่า 2 กิโลเมตร (2,100 เมตร)

สภาพยับเยินของเพดานเหนือพื้นที่จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มที่ฟาดลงมาโดนลูกเรือ ทำให้แผงเพดานแตกหัก แลเห็นโครงสร้างของท่อต่างๆ ได้อย่างละเอียด

ภาชนะและเครื่องใช้ถูกเหวี่ยงร่วงลงพื้นกระจัดกระจายไปทั่ว หลังจากที่เครื่องบินดิ่ง 2.1 กิโลเมตรในหลุมอากาศท่ามกลางพายุฤดูร้อนเหนืออ่าวเบงกอล

ข้อมูลเส้นทางบินของไฟล์ท SQ321 ที่จับภาพโดย FlightRadar24 แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินลำนี้บินที่ระดับความสูง 38,000 ฟุต และโดยปุบปับอย่างที่สุด เครื่องดิ่งลงไปในเวิ้งฟ้าว่างเปล่าราว 2.1 กิโลเมตรภายในห้วงเวลาเพียง 3 นาที ก่อนจะกระแทกกับมวลอากาศและประคองตัวให้บินต่อไปได้ เดอะซันรายงานอย่างนั้น
ระทึกขวัญขั้นสุด!! คำบอกเล่าถึงเหตุการณ์ตกหลุมอากาศ 2 กิโลเมตรโดยผู้โดยสารในไฟลท์มรณะ คือ ช็อกกิง

“จู่ๆ เครื่องบินเอียงอะครับ และก็เขย่าๆๆ ผมรีบรัดเข็มขัดนิรภัยเตรียมเจอกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นทันทีเลย และมันปุบปับมาก เครื่องร่วงลงเร็วสุดๆ อย่างกับในหนังน่ะครับ ใครซึ่งนั่งอยู่ แต่ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย จะโดนเพดานฟาดลงมากระแทกศีรษะจังๆ” เล่าไว้โดย ดาฟราน อัซมีร์ หนุ่มนักศึกษาวัย 28 ปี ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุและปลอดภัยดี

“ผมเห็นศีรษะของหลายคนฟาดเปรี้ยงกับช่องเก็บกระเป๋าเหนือศีรษะ มันแรงมากจนฝาปิดช่องนี่บุบยุบเข้าไป แล้วบางคนกระแทกกับแผงช่องติดหลอดไฟและเก็บหน้ากากออกซิเจน แผงนั่นฉีกหักทะลุขึ้นไปเลย แผงบางอันก็ตกห้อยลงมา” ดิอินดีเพนเดนท์ สื่อชื่อดังอีกค่ายหนึ่งของอังกฤษรายงานว่าหนุ่มนักศึกษาเล่าไว้อย่างนั้น

นอกจากนั้น สภาพของพื้นที่ปฏิบัติงานสำหรับแอร์โฮสเตสจุดหนึ่ง คือดุเดือดราวระเบิดลง เพดานฉีกร่วง เห็นท่อต่างๆ กันกระจะตา และที่น่าสะเทือนใจคือ สาวแอร์โฮสเตสรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง จมูกของเธอมีเลือดไหลโกรกออกมา


ด้านเดอะซันถ่ายทอดคำบอกเล่าของผู้โดยสาร นาม แอนดริว เดวิส ว่า

“พวกแอร์โฮสเตสและสจ๊วตของสิงคโปร์แอร์ไลน์ทำงานกันทรหดเหลือเกิน อะไรที่เป็นปัญหา ก็จะรีบเข้าไปดำเนินการ ผมเห็นพวกเขาทุกคนล้วนแต่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังปฏิบัติหน้าที่สุดความสามารถ”

แอนดริว เดวิส บอกด้วยว่าทุกสิ่งปุบปับฉุกละหุกไปหมด “แทบจะไม่มีการเตือนอะไรเกี่ยวกับหลุมอากาศ ก่อนที่เครื่องจะ “ตกวูบ ลงไปเฉยเลย”

“ผมเห็นศีรษะของหลายคนฟาดเปรี้ยงกับช่องเก็บกระเป๋าเหนือศีรษะ มันแรงมากจนฝาปิดช่องนี่บุบยุบเข้าไป” ดาฟราน อัซมีร์ หนุ่มนักศึกษาวัย 28 ปี ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุและปลอดภัยดีเล่าถึงวิบัติภัยโกลาหลในไฟล์ทตกหลุมอากาศ 21 พฤษภาคม 2024
“มีผู้ที่ต้องแอทมิทเข้าเป็นผู้ป่วยในจำนวน 12 ราย และอีก 18 ราย รับการรักษาเป็นผู้ป่วยนอก” เดอะซันรายงานว่าโฆษกของสิงคโปร์แอร์ไลน์แถลงอย่างนั้น

ในเวลาเดียวกัน รอยเตอร์รายงานว่ามีลูกเรือรายหนึ่งอยู่ในจำนวน 12 รายที่ต้องแอทมิท และในจำนวน 12 รายนี้ เป็นกรณีบาดเจ็บสาหัสเพราะสมองกระทบกระเทือนรุนแรง


สำหรับผู้โดยสารอื่นๆ ก็รอขึ้นเครื่องบินลำใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ โดยในระหว่างรออยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพเพื่อความแน่ใจว่าแข็งแรงปลอดภัยดี ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจะได้รับการรักษาโดยทันที

ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ส่งทีมแพทย์และพยาบาลมายังกรุงเทพฯ เพื่อเสริมทีมแพทย์ของไทยด้วย

เมื่อปีที่แล้ว เครื่องโบอิง 777-300 อีอาร์ ของสายการบินบริติชแอร์เวยส์ ประสบวิกฤตละม้ายกับครั้งนี้ ด้วยการตกหลุมอากาศที่ความสูง 30,000 ฟุต แต่ผู้บาดเจ็บหนักมีเพียง 5 ราย โดยเป็นทีมลูกเรือทั้งหมด

ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บถูกพาออกจากเครื่องบิน ไปขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉิน และส่งถึงมือหมอ โดยมีรถพยาบาลรอให้ความช่วยเหลือมากถึง 13 คัน

ผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัสถูกเคลื่อนย้ายขึ้นรถเข็นคนไข้ ก่อนจะนำไปขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉิน โดยบางรายได้รับการสวมปลอกคอป้องกันความเสียหายไม่ให้มากขึ้นกว่าที่ประสบอยู่
ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการมีผู้เสียชีวิตขณะเครื่องบินตกหลุมอากาศนั้น เป็นกรณียากมากๆ ที่จะเกิดขึ้น

และในส่วนของการบาดเจ็บเมื่อมีวิกฤติการณ์ตกหลุมอากาศนั้น ปัจจัยแวดล้อมมักจะเป็นเรื่องที่ว่า ผู้โดยสารไม่รัดเข็มขัดนิรภัยขณะอยู่บนที่นั่ง และปัจจัยที่ว่ากำลังยืนหรือเดินไปมา ตลอดจนยืนรอหน้าห้องน้ำ ขณะเกิดเหตุฉุกเฉินร้ายแรงนี้

ผู้เชี่ยวชาญจึงย้ำว่าการรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทางบนเครื่องบิน เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงได้มากที่สุด


คุณปู่เจฟ คิทเชน ผู้โดยสารชาวเมืองธอร์นเบอรี เคาน์ตีกลอสเตอร์เชอร์ ประเทศอังกฤษ ผู้ซึ่งเสียชีวิตระหว่างเครื่องบินตกหลุมอากาศลึก 2.1 กิโลเมตรด้วยอาการหัวใจวายเพราะคุณปู่มีปัญหาหลอดเลือดตีบ และเคยได้รับการผ่าตัดทำบอลลูนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เดอะซันเล่าว่ามีผู้โดยสารบางรายที่ได้รับการฝึกอบรมทางการแพทย์มาก่อน พยายามช่วยทำซีพีอาร์ และมีการตะโกนถามหาเครื่องกระตุกหัวใจ แต่เป็นที่น่าเสียใจว่าไม่สามารถรักษาชีวิตคุณปู่ไว้ได้  คุณปู่เจฟกับคุณย่าลินดาซึ่งรักกันตั้งแต่เมื่อยังเป็นวัยรุ่นและครองคู่อยู่ด้วยกันนานกว่าครึ่งศตวรรษ อยู่ระหว่างเริ่มประเดิมเส้นทางทริปในฝัน 4 ประเทศ 6 สัปดาห์ คือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย แต่กลับกลายเป็นทริปมรณะอย่างน่าสะเทือนใจที่สุด

รูปโฉมงดงามของเครื่องบินโบอิง 777-300 อีอาร์ ที่ประสบวิบัติภัยร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส และต้องมาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ 16.10 น. ของวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2024
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: เดอะซัน รอยเตอร์ ดิอินดีเพนเดนท์)

กำลังโหลดความคิดเห็น