มีสะเทือน! จีนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์

จีนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เน้นย้ำว่าแดนมังกรกำลังปลีกตนเองออกจากดอลลาร์มากขึ้นเรื่อยๆ ตามข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยโดยกระทรวงการคลังอเมริกา

ปักกิ่งเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และตราสารหนี้ที่ออกโดยองค์กรของรัฐ (Agency bond) รวมมูลค่า 53,300 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มการเข้าซื้อทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ข้อมูลระบุ

พวกนักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าการลดถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และตราสารหนี้ที่ออกโดยองค์กรของรัฐในทุนสำรองระหว่างประเทศ อาจเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์อย่างกว้างๆ ของจีน ในการกระจายความเสี่ยงปลีกตัวเองออกจากทรัพย์สินต่างๆ ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นกับอเมริกา

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังชี้ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกกำหนดเล่นงานรัสเซียต่อความขัดแย้งในยูเครนว่าอาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้จีนหาทางลดความเสี่ยงจากความเป็นไปได้ที่อาจถูกลงโทษในแบบเดียวกัน

"การจัดการทุนสำรองของรัสเซีย โดยสหรัฐฯ และบรรดาประเทศจี7 อื่นๆ ในนั้นรวมถึงคำขู่ยึดทรัพย์และคว่ำบาตร มีความเป็นไปได้ว่าจะกระตุ้นให้จีนลดความเสี่ยงที่เกิดจากการถือครองทรัพย์สินการคลังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงตกเป็นเป้าหมายแบบเดียวกัน" เครก ชาปิโร ที่ปรึกษาด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค แห่ง LaDuc Trading ให้สัมภาษณ์กับนิวส์วีก เมื่อวันเสาร์ (18 พ.ค.) อ้างถึงการยึดทรัพย์รัสเซีย

ตะวันตกอายัดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียไปราว 300,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ความขัดแย้งยูเครนเริ่มต้นขึ้น

ยูโรเคลียร์ (Euroclear) บริษัทบริการการเงินจากเบลเยียม ซึ่งบ่อยครั้งถูกมองในฐานะผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สินที่ถือครองโดยจีน จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ออกไปในมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์ ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว ตามรายงานของบลูมเบิร์ก

ในฐานะต่างชาติที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น การเทขายของจีนมีความเป็นไปได้ที่จะก่อความกระวนกระวายใจในตลาดพันธบัตร และเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมแก่อเมริกา จากความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์บางส่วน

"จีนกำลังเทขาย แม้ในข้อเท็จจริงที่ว่าเราใกล้เห็นวงจรการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด มันอาจเป็นการแสดงเจตนาอย่างชัดเจนที่สุดของการกระจายความเสี่ยงจากการถือครองดอลลาร์" สเตฟาน ชิว หัวหน้าฝ่ายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและยุทธศาสตร์ดอกเบี้ย ประจำภูมิภาคเอเชีย ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ กล่าว "การเทขายพันธมิตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของจีนอาจยกระดับขึ้น หากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนหวนคืนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี"

แม้เทขายทรัพย์สินดอลลาร์ แต่อีกด้านหนึ่ง จีนได้ถือครองทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ สัดส่วนโลหะมีค่าในทุนสำรองระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 4.9% ในเดือนเมษายน สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มจดบันทึกในปี 2015 อ้างอิงจากธนาคารกลางจีน

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)