เอเจนซีส์ - มีรายงานรองประธานาธิบดีอิหร่านคนที่ 1 โมฮัมหมัด ม็อคฮ์เบอร์ (Mohammad Mokhber) จะก้าวขึ้นรักษาการประธานาธิบดีอิหร่านชั่วคราวสนทนาทางโทรทัศน์กับผู้ช่วยผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ขณะที่ผู้นำจิตวิญญาณอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี เตือนประชาชนอย่าตื่นกลัวในช่วงเวลาที่ยากลำบาก นักข่าวเตหะรานหวั่นอาจเป็นการลอบสังหารเหมือน พล.อ.กัสเซม สุไลมาน สื่อภารตะเปิดทฤษฎีสมคบคิด อาจเป็นฝีมืออิสราเอลแต่เทลอาวีฟวันจันทร์ (20 พ.ค.) รีบปฏิเสธเสียงแข็งไม่เกี่ยวข้อง
โพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (20 พ.ค.) ว่า ก่อนการยืนยันข่าวการเสียชีวิตประธานาธิบดีอิหร่าน เอบราฮิม ไรซี และรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ฮอสเซน อามีร์อับดอลลาฮยาน (Hossein Amir-Abdollahian) และคนอื่นอีก 7 คนบนเครื่อง อ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ ผู้นำจิตวิญญาณอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ออกมาปลุกปลอบขวัญประชาชนอิหร่านอย่าตื่นวิตกจนทำให้ประเทศตกอยู่ในความโกลาหล
“ประชาชนอิหร่านไม่สมควรต้องกังวล” และเสริมต่อว่า “จะไม่มีการติดขัดในการทำงานของประเทศนี้เกิดขึ้น”
โพลิติโกรายงานตรงกับเตหะรานไทม์สของอิหร่านที่ว่า รองประธานาธิบดีอิหร่านคนที่ 1 โมฮัมหมัด ม็อคฮ์เบอร์ (Mohammad Mokhber) จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีรักษาการคนใหม่ของอิหร่าน เขาเคยเป็นหัวหน้ากองทุน Setad ที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญเพื่อเป็นหลักประกันในการกระชับอำนาจของผู้นำจิตวิญญาณอิหร่าน คาเมเนอี
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า การพบเฮลิคอปเตอร์รุ่น BELL 212 ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งนำไรซีและคณะก่อนตกลงระหว่างการข้ามภูมิภาคเทือกเขาสูงท่ามกลางหมอกลงหนาทึบนั้นได้ 'โดรนตุรกี' สามารถตรวจจับความร้อนตรวจพบก่อนนำไปสู่จุดตกสำเร็จ
ซึ่ง ฮ.ตกระหว่างขากลับจากการเปิดเขื่อนบริเวณพรมแดนระหว่างอิหร่านและอาเซอร์ไบจาน
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานว่า ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงขอบคุณรัฐบาลต่างชาติทั่วโลกได้ให้การช่วยเหลือ
“อิหร่านขอขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลต่างชาติมากมาย หลายประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศต่อการแสดงความรู้สึกและความเป็นหนึ่งเดียวกับรัฐบาลเตหะรานและประชาชนอิหร่าน รวมไปถึงการยื่นมือให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนต่อปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย”
เตหะรานไทม์สรายงานวันนี้ (20) ว่า พันธมิตรใกล้ชิดของอิหร่าน ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน นั้นเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวฮ.อิหร่านตกอย่างใกล้ชิด อ้างอิงจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัสเซีย
อิกอร์ เลวิติน (Igor Levitin) ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ปูตินติดตามข่าวเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกมาตั้งแต่เริ่มต้น เป็นการเปิดเผยทางโทรศัพท์ของเลวิตินที่เขาสนทนาร่วมกับประธานาธิบดีรักษาการอิหร่าน ม็อคเบอร์
และเขายังกล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีในการให้การสนับสนุนอิหร่าน และชี้ว่าปูตินได้ออกคำสั่งส่งเครื่องบินรุ่นก้าวหน้าไป 2 ลำที่มาพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์พิเศษและทีมกู้ภัยเชี่ยวชาญด้านภูเขาอีก 50 คนไปยังทาบรีซ (Tabriz)
และม็อคฮ์เบอร์ได้แสดงความขอบคุณรัสเซียสำหรับการสนับสนุน
“พวกเราหวังที่จะได้รับข่าวดีเพื่อประชาชนอิหร่านและเพื่อนๆ ของพวกเราทั่วโลก” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิหร่านระดับสูงชี้ อ้างอิงการรายงานจากสื่ออิหร่าน
ฮินดูสถานของอินเดียรายงานว่า ข่าวฮ.ประธานาธิบดีอิหร่านสร้างความวิตกในกลุ่มประชาชนอิหร่านที่ยังมีความทรงจำในเหตุลอบสังหารบุคคลสำคัญ รวมไปถึงนายพลกอเซ็ม โซไลมานี (Qasem Soleimani) ที่โดนโดรนสหรัฐฯ ลอบสังหารในสนามบินแบกแดดเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ปี 2020
ภาพวิดีโอคลิปเอเอฟพีแสดงให้เห็นการรายงานจากนักข่าวหญิงอิหร่านในกรุงเตหะรานชื่อ วาคิลี (Vakili) วัย 29 ปี เธอชี้ว่า
“โดยความสัตย์จริงความรู้สึกส่วนใหญ่คือกลัว มันเป็นความรู้สึกที่แปลกที่พวกเราเคยมีประสบการณ์มาก่อนกับฮัจ กอเซม (นายพลกอเซ็ม โซไลมานี)”
และทำให้สื่อแดนภารตะออกมาตั้งประเด็นว่า "ชาวอิหร่านกลัวการลอบสังหาร/ฆาตกรรมเช่นนั้นหรือ?"
ขณะที่ประชาชนชาวอิหร่านอีกรายใช้ชื่อ ฮาดี (Hadi) พนักงานบริษัทเอกชน ตามการรายงานของฟรานซ์24 แสดงความรู้สึกถึงเหตุการณ์ว่า “ผมรู้สึกเศร้ามาก” และ “ผมหวังว่าเขา “ประธานาธิบดีเอมราฮิม ไรซี” และคณะของเขาจะถูกพบอย่างปลอดภัย”
อิโคโนมิกไทม์สของอินเดียชี้ว่า ทฤษฎีสมคบคิดผุดขึ้นมาท่ามกลางประวัติศาสตร์ความเป็นอริระหว่างเทลอาวีฟและเตหะรานที่ว่า “อิสราเอล” อาจอยู่เบื้องหลังเหตุเฮลิคอปเตอร์ไรซีตก และเป็นเหตุการณ์ลอบสังหาร
ทฤษฎีสมคบคิดที่ว่านี้ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นตามสถานการณ์ที่พัฒนาตามลำดับตั้งแต่เทลอาวีฟลอบสังหารนายพลอิหร่านที่ดามัสกัส ขณะที่หน่วยข่าวกรองลับมอสซาดของเทลอาวีฟขึ้นชื่อว่ามีปฏิบัติการต่อต้านต่อผลประโยชน์เตหะราน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีเป้าโจมตีไปที่ระดับผู้นำประเทศ
อย่างไรก็ตาม อิสราเอลตามการรายงานของรอยเตอร์ ออกมาประกาศปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ฮ.ผู้นำอิหร่านตก โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวในวันจันทร์ (20) ว่า “ไม่ใช่พวกเรา”
อิโคโนมิกไทม์สรายงานว่า นอกจากนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาตัดประเด็นความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะเกี่ยวข้อง โดยชี้ว่าการลอบสังหารประธานาธิบดีอิหร่านที่กำลังดำรงตำแหน่งถือเป็นการประกาศสงครามโดยตรง และน่าจะทำให้เกิดการตอบโต้ขั้นร้ายแรงจากอิหร่านโดยตรง