เอเอฟพี – ตำรวจฝรั่งเศสไล่ล่ากลุ่มมือปืนที่ยิงเจ้าหน้าที่เรือนจำเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน ก่อนชิงตัวนักโทษที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาและการฆาตกรรมอย่างอุกอาจหน้าด่านเก็บเงินทางด่วนเมื่อเช้าวันอังคาร (14 พ.ค.)
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ประกาศว่า ฝรั่งเศสจะทำทุกอย่างเพื่อไล่ล่าผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ ซึ่งล่าสุดทั้งกลุ่มมือปืนและนักโทษยังคงหลบหนีลอยนวล
ลอเร เบ็กกูอู อัยการปารีส แถลงว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บสาหัส 3 คน ในเหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอังคารหน้าด่านเก็บเงินทางด่วนในอินคาร์วิล จังหวัดเออร์ทางเหนือของฝรั่งเศส
นักโทษที่ถูกชิงตัวอยู่ระหว่างการเดินทางกลับไปยังเรือนจำในเมืองเอเวรอ หลังไปขึ้นศาลในเมืองรูอ็อง แคว้นนอร์ม็องดี
อัยการระบุว่า รถขนส่งนักโทษของเรือนจำที่มีรถคุ้มกันตามหลังมาอีกคันถูกรถยนต์เปอร์โยต์ที่ขโมยมาพุ่งชนด้านหน้าขณะวิ่งผ่านด่านเก็บเงินทางด่วน นอกจากนี้ยังถูกรถอาวดี้ของกลุ่มมือปืนจอดปิดท้าย และกลุ่มชายชุดดำสวมฮูดกรูออกมายิงใส่รถทั้งสองคัน และคุ้มกันนักโทษออกจากรถของเรือนจำ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวในคดีนี้เผยว่า รถขนส่งนักโทษไม่มีรถตำรวจคุ้มกันแต่อย่างใด
รายงานระบุว่า ในเวลาต่อมา ตำรวจพบรถคันหนึ่งที่เชื่อว่า เป็นรถที่กลุ่มมือปืนใช้ถูกเผาทิ้งเหลือแต่ซากในสถานที่แห่งหนึ่ง
เอริก ดูปองด์-มอเรตติ รัฐมนตรียุติธรรมฝรั่งเศส ย้ำว่า จะต้องนำตัวกลุ่มคนร้ายเหล่านี้มาลงโทษ
ด้านเจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีมหาดไทย เผยว่า ได้ส่งตำรวจและสารวัตรทหารหลายร้อยนายไปร่วมค้นหากลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว
อัยการปารีสระบุชื่อนักโทษที่ถูกชิงตัวคือ โมฮาเหม็ด อัมรา เกิดปี 1994 ถูกตัดสินความผิดในคดีปล้นและลักพาตัวซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต และต่อมาคดีนี้ถูกส่งให้อัยการของสำนักงานปราบปรามแก๊งอาชญากรรมที่มีชื่อย่อว่า JUNALCO
แหล่งข่าวเสริมว่า อัมรายังถูกสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับการลักลอบค้ายาเสพติดและเป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรรม
แหล่งข่าวอีกคนระบุว่า อัมราเป็นหัวหน้าเครือข่ายอาชญากรรมแห่งหนึ่ง และสื่อบางสำนักรายงานว่า นักโทษผู้นี้มีฉายาว่า “ลา มูช” หรือแมลงวัน
ฮิวจ์ วิฌิเอร์ ทนายความของผู้ต้องหา เผยว่า อัมราเคยพยายามแหกคุกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการเลื่อยลูกกรงห้องขัง และเสริมว่า ตนเองช็อกกับการใช้ความรุนแรงอย่างบ้าคลั่งและไม่น่าให้อภัยของลูกความรายนี้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่วุฒิสภาฝรั่งเศสเผยแพร่รายงานที่เตือนว่า มาตรการของรัฐบาลไม่สามารถป้องกันการเติบโตของอุตสาหกรรมยาเสพติดในประเทศได้ และการลักลอบค้ายาเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของชาติ ก่อนสำทับว่า มาตรการต่อต้านยาเสพติดของรัฐบาลตามไม่ทันปัญหาท้าทายนี้