เอเจนซีส์ – ไม่ต่ำกว่า 43 คนเสียชีวิตในอินโดนีเซียรวมผู้ที่ยังคงสูญหายอีก 17 คนในวันจันทร์(13)และบาดเจ็บอีก 19 รายหลังเกิดฝนตกหนักเมื่อสุดสัปดาห์ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและลาวาเย็นไหลทะลักลงมาจากภูเขาไฟเมราปีบนเกาะสุมาตรา
ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันนี้(13 พ.ค)ว่า เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียแถลงวันจันทร์(13)ว่า ยังคงมีผู้สูญหายอีก 17 คนระหว่างปฎิบัติการค้นหากู้ภัยยังคงดำเนินต่อไป
ฝนตกหนักในวันเสาร์(11)ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และลาวาเย็น(cold lava)ไหลลงมาจากภูเขาไฟเมราปีใน 3 เขตของจังหวัดสุมาตราตะวันตก
น้ำท่วมไหลผ่านหมู่บ้านเชิงเขาและพัดพาผู้คนไปขณะเดียวกันทำให้บ้านและอาคารเกือบ 200 หลังต้องจมในกระแสน้ำ รวมไปถึงนาข้าวที่ได้รับความเสียหาย อับดุล มาลิค (Abdul Malik) หัวหน้าทีมกู้ภัยประจำจังหวัดกล่าว
“ลาวาเย็น” ที่รู้จักในนาม “ลาฮาร์” (lahar)ในอินโดนีเซีย เป็นส่วนผสมร้อนหรือเย็นของน้ำและเศษหินที่ไหลลงมาจากไหล่ของภูเขาไฟและมักจะไหลลงสู่หุบเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน(river valley)
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียสามารถค้นพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มในวันจันทร์(14)ในจุดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดบริเวณหมู่บ้านในเขตอกาม (Agam) และเขตทานาห์ ดาตาร์ (Tanah Datar )
หัวหน้าสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติสุมาตราตะวันตก (West Sumatra Disaster Mitigation Agency) อิลฮาม วาฮาบ (Ilham Wahab) กล่าวว่า
“สภาพอากาศเลวร้าย ถนนเสียหาย และการเข้าถึงถูกปิดกั้นโดยกองทัพโคลนและซากเศษต่างๆเป็นอุปสรรคต่อความพยายามกู้ภัย”
น้ำท่วมฉับพลันเมื่อสุดสัปดาห์ทำคนบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 19 คน จาการ์ตาส่งเจ้าหน้าที่ร่วม 400 คนประกอบไปด้วยทีมกู้ภัยท้องถิ่น ตำรวจ และทหาร ถูกสั่งการให้ไปค้นหาผู้ที่ยังคงสูญหาย
อีโค วิโดโด (Eko Widodo) ผู้รอดชีวิตวัย 43 ปีเปิดใจกับรอยเตอร์ว่า น้ำท่วมมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“น้ำท่วมเกิดขึ้นเร็วมากและแม่น้ำถูกขวางกั้นส่งผลทำให้เกิดการกระแสน้ำไหลท่วมไปทุกที่และไม่สามารถควบคุมได้”
ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า วิดีโอคลิปที่เผยแพร่ออกมาจากสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซีย(National Search and Rescue Agency) แสดงให้เห็นถนนสายต่างๆกลายสภาพเป็นแม่น้ำโคลนสีน้ำตาลและหมู่บ้านถูกปกคลุมไปด้วยกองทัพโคลน หินและต้นไม้ล้ม