คิงชาร์ลส์พระราชทาน “บทเรียนทั้งหนักทั้งแรง” 2 เด้งซ้อนๆ แก่ ปรินซ์แฮร์รี พระราชโอรสสุดท้องซึ่งทรงแวะประเทศอังกฤษอยู่ในขณะนี้นาน 3 วัน โดยในเด้งแรกคิงชาร์ลส์ทรงไม่เหลือคิวให้ปรินซ์ผู้แสนจะเจ้าคิดเจ้าแค้นและหมั่นแซะโหดใส่พระราชวงศ์วินด์เซอร์ ได้เข้าเฝ้า ไม่ว่าจะเป็นคิวบ่ายวานซืน (7 พฤษภาคม 2024) คิวเช้าและค่ำเมื่อวานนี้ (8 พฤษภาคม) หรือคิวใดๆ ในวันนี้ (9 พฤษภาคม)
ยิ่งกว่านั้น ในเด้งที่สองซึ่งถูกมองกันว่ากรีดพระทัยกันสาหัส เป็นกรณีที่ว่า ในค่ำคืนของวันแรกที่ปรินซ์แฮร์รีประทับในกรุงลอนดอน (7 พฤษภาคม) สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมได้ออกประกาศว่า จะมีพระราชพิธีพระราชทานตำแหน่ง ผู้บังคับการกรมการบินกองทัพบก อย่างเป็นทางการแก่ปรินซ์วิลเลียมในวันจันทร์หน้า 13 พฤษภาคม
บรรดาสื่อค่ายใหญ่ค่ายน้อยก็พากันขยี้ข่าวแบบเอิกเกริกแกมเสี้ยมอ่อนๆ ทันทีว่านี่คือ “การหักหน้า” พระราชโอรสจอมแซะโหด
ขณะเดียวกันเรื่องนี้ที่น่าปวดพระทัยสำหรับปรินซ์แฮร์รี อาจเป็นการ “ปราม” หรือเป็นการ “ให้บทเรียน” แก่ปรินซ์ผู้ทรงพระเกรียนใส่พระราชตระกูล เพราะจะประกาศกันวันไหนสักวันหนึ่ง ก่อนที่ปรินซ์จะเสด็จมายังอังกฤษ ก็มีวันให้เลือกได้ตั้งหลายวัน การเจาะจงออกมาประกาศกันตั้งแต่วันแรกที่ทรงเหยียบมาตุภูมิเยี่ยงนี้ ต้องมีวาระซ่อนเร้นไม่ธรรมดา เพราะนอกจากที่พระราชบิดาไม่ทรงครองไว้เองแล้ว พระองค์ยังพระราชทานแก่พระเชษฐาวิลเลียม ผู้ซึ่งปรินซ์แฮร์รีทรงเคยประกาศต่อสาธารณชนว่า เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของพระองค์
ทั้งนี้ ตำแหน่งผู้บังคับการกรมการบินทหารบก เป็นตำแหน่งที่คิงชาร์ลส์ทรงครองมาตลอด 31 ปีนับตั้งแต่ที่พระองค์ยังทรงเป็นมกุฎราชกุมารในพระอิสริยยศ ปรินส์ออฟเวลส์ ในการนี้ เป็นที่คาดๆ กันว่าตำแหน่งนี้จะถูกส่งต่อไปยังปรินซ์แฮร์รี ผู้ทรงมีความโดดเด่นในด้านการบินเฮลิคอปเตอร์ อีกทั้งหน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานทหารต้นสังกัดของปรินซ์แฮร์รี ในห้วงที่ทรงถูกส่งไปประจำการในอัฟกานิสถาน 2 รอบจนถึงปี 2013/14
ตลอดสี่ปีกว่าซึ่งปรินซ์แฮร์รีทรงลาออกจากความเป็นพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ และทรงย้ายถิ่นฐานไปปักหลักในสหรัฐอเมริกา ผู้คนเชื่อกันว่าคิงชาร์ลส์จะทรงรักษาตำแหน่งแห่งความภาคภูมิใจของลูกผู้ชายนักบินทหารบกนี้ ไว้เรื่อยๆ ประมาณว่าเก็บรอไว้จนกว่าที่ปรินซ์ผู้ทรงพระเศียรร้อน จะทรงเข้าใจชีวิตมากขึ้น และยอมรับได้กับเรื่องภาระหน้าที่และข้อจำกัดที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์แห่งความเป็นเจ้าชายพระราชโอรส และเสด็จกลับคืนมาตุภูมิมาเป็นพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ที่ทรงงานพระราชกิจต่างๆ
จังหวะเวลาที่เลือกใช้ในการดำเนินการ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่จะนำมาซึ่งชัยชนะ เดอะซันบอกอย่างนั้น ว่าแต่ว่า มีอะไรบ้างที่ปรินซ์แฮร์รีทรงถูกเช็กบิล
จังหวะเวลาที่สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมประกาศเรื่องการพระราชทานตำแหน่งผู้บังคับการกรมการบินกองทัพบกให้แก่เจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์ออฟเวลส์ ในค่ำวันที่ 7 พฤษภาคม อันเป็นวันเวลาที่ปรินซ์แฮร์รีเสด็จมาอังกฤษเพื่อประชุมเตรียมงานมหกรรมกีฬานานาชาติอินวิคตัสเกมส์ 2025 พร้อมกับร่วมพิธีมิซซาฉลองครบรอบ 10 ปีการสถาปนาอินวิคตัสเกมส์ นั้น ได้ทำให้คิงชาร์ลส์ทรงถูกฝ่ายต่างๆ เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจว่าจะทรงเอาจริงกับปรินซ์แฮร์รีซะทีแล้วหรือ เดลิเมลออนไลน์รายงาน
ที่สำคัญคือ การประกาศดังกล่าวมีออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ทีมงานโฆษกของปรินซ์แฮร์รีเผยต่อสื่อมวลชนว่า จะไม่มีหมายกำหนดการที่เจ้าชายแฮร์รีจะได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ในช่วงสามวันที่เจ้าชายทรงประทับในประเทศอังกฤษ
ในการดำเนินการใดๆ ให้บรรลุผลนั้น จังหวะเวลาคือทุกสิ่งทุกอย่าง กูรูสุดเก๋าในด้านการพระราชวงศ์อังกฤษรายหนึ่งบอกใบ้บางอย่างแก่เดอะซัน เพื่อแพลมว่าความเคลื่อนไหวในคราวนี้มีนัยสำคัญทีเดียว ซึ่งอาจจะมีมากกว่าการที่มุ่งจะหักหน้า
ดยุกแฮร์รีแห่งซัสเซกซ์เสด็จถึงกรุงลอนดอนในช่วงสายของวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม และทรงเข้าร่วมประชุมเตรียมงานอินวิคตัสเกมส์ 2025 ที่ออนเนอเรเบิล อาร์ทิลเลอรี คอมปานี กรมทหารกองทัพบกเจ้าเก่าแก่ ซึ่งอยู่ห่างจากพระราชวังบัคกิงแฮมเพียง 3 ไมล์ หรือประมาณ 5 กิโลเมตร โดยในเช้าเดียวกันนั้น พระราชบิดาทรงงานต้อนรับนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐหมู่เกาะฟีจีที่พระราชวังบัคกิงแฮม และจึงทรงไม่มีคิวว่างให้ปรินซ์แฮร์รีได้เข้าเฝ้า
ทั้งนี้ ปรินซ์แฮร์รีทรงงานที่กรมทหารออนเนอเรเบิลฯ ซึ่งรับผิดชอบงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จนถึงค่ำ แต่ในเวลา 14.00 น. ทีมโฆษกของพระองค์แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า
“ตามที่มีการสอบถามเข้ามามากมาย อีกทั้งมีการคาดเดากันว่าดยุกแห่งซัสเซกซ์จะได้เข้าเฝ้าพระราชบิดาหรือไม่ในระหว่างที่ทรงประทับในอังกฤษ นั้น เป็นที่น่าเสียดายที่พระองค์จะทรงไม่สามารถ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงมีพระราชกรณียกิจเต็มแน่นอยู่
“แน่นอนว่าดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงเข้าพระทัยถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ ตลอดจนหมายกำหนดการอื่นที่มีลำดับความสำคัญ พระองค์ทรงหวังว่าจะทรงได้เข้าเฝ้าในกาลข้างหน้าต่อไป”
ปรินซ์แฮร์รีทรงปรารถนาจริงๆ จังๆ ที่จะได้เข้าเฝ้าพระราชบิดา เดอะซันระบุอย่างนั้น
พร้อมนี้ เดอะซันบอกว่าได้ข้อมูลจากหลายแหล่งข่าวที่ยืนยันว่า ก่อนที่ปรินซ์จะทรงออกเดินทาง 5,000 ไมล์ หรือก็คือ 8,000 กิโลเมตรจากสหรัฐอเมริกามายังประเทศอังกฤษนั้น ทรงพยายามดำเนินการต่างๆ หลากหลายครั้งเพื่อให้พระราชบิดาทรงโอเคให้เข้าเฝ้า
ความพยายามดังกล่าวลงเอยเป็นฝันสลาย
และในเวลาประมาณ 18.00 น. ของกรุงลอนดอนที่ปรินซ์ทรงเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ มีนักข่าวรออยู๋ และมีเสียงคุณผู้หญิงร้องถามว่า พระองค์ทรงดีพระทัยไหมเพคะที่ได้กลับบ้าน
ปฏิกิริยาของพระองค์นับว่าน่ารักมาก ทรงโบกมือให้ และตรัสทักทายพลางเดินไปยังรถ คุณผู้หญิงร้องถามอีกครั้ง ทรงดีพระทัยไหมเพคะที่ได้กลับบ้าน และปรินซ์ทรงแย้มพระสรวล หัวเราะแห้งๆ เฮอะ เฮอะ เฮอะ เฮอะ แล้วก้าวขึ้นรถ เดลิเมลออนไลน์รายงานพร้อมคลิปสั้นๆ 12 วินาที
เพียร์ส มอร์แกน ผู้เชี่ยวชาญที่โด่งดังในด้านข่าวพระราชสำนัก นำเสนอไว้ที่คอลัมน์บนเว็บไซต์เดอะซัน ว่าคิงชาร์ลส์ทรงน่าชื่นชมอย่างมากมายที่ทรงเช็กบิล “พระราชโอรสผู้ตีสองหน้า” เพราะหากคิงทรงมีพระประสงค์จะพบปะสนทนากับปรินซ์แฮร์รี พระราชกิจจะมากมายเพียงใด พระองค์ก็ย่อมจะทรงจัดสรรเวลาได้
ไม่ต้องไปติเตียนคิงชาร์ลส์ในเรื่องนี้เลย เพียร์ส มอร์แกน ชี้ไว้อย่างนั้น โดยให้เหตุผลว่าในการใช้เวลากับพระราชกรณียกิจสำคัญ รอยัล การ์เดน ปาร์ตี พระองค์ทรงได้สนทนากับประชาชนที่มีความสุขที่จะพบปะพระองค์ และเห็นคุณค่าในพระองค์
ไม่เหมือนกับปรินซ์แฮร์รีที่เอาแต่คร่ำครวญ ฟูมฟายให้ได้ดั่งใจในทุกสิ่งอย่าง ซึ่งเมื่อทรงโกรธขึ้งแค้นเคืองขึ้นมา ก็ออกไปกล่าวหาโจมตีเล่นงานพระราชวงศ์ ทั้งด้วยหนังสือใส่ร้าย ทั้งด้วยภาพยนตร์สารคดีทางโทรทัศน์ และบรรดาทอล์กโชว์ต่างๆ และเมื่อพระราชบิดาทรงรักษาพระเกียรติยศด้วยการไม่โต้ตอบ ก็ยิ่งฮึกเหิม
ส่วนอีกหนึ่งกูรูคนดังด้านการพระราชวงศ์ ซึ่งมักจะได้ข้อมูลลึกซึ้งจากคนวงในสุดๆ ของพระราชตระกูล คือ ไมเคิล โคล วิเคราะห์ว่านี่เป็นความเคลื่อนไหวแบบการอัดยารักษาปัญหาครั้งใหญ่ ทั้งนี้ ปรินซ์แฮร์รีทรงได้รับสัญญาณชัดเจนว่าพระองค์ไม่เป็นที่ต้อนรับ ขณะเดียวกัน สาธารณชนก็จะเห็นด้วยกับคิงชาร์ลส์ เพราะผู้คนมองว่า “สมควรแก่เวลาแล้ว”
ทั้งนี้ มีข้อน่าสังเกตด้วยว่า กูรูไมเคิล โคล เรียกปรินซ์แฮร์รีว่า “พระราชโอรสผู้ทรงสุรุ่ยสุร่ายและวุ่นวายแต่ปัญหาเงินทอง” นัยสำคัญนี้ตอกย้ำภาพปัญหาเรื้อรังประการหนึ่งระหว่างปรินซ์แฮร์รีกับคิงชาร์ลส์ ที่สื่อค่ายใหญ่น้อยเคยนำเสนอว่า คิงชาร์ลส์ทรงถูกพระราชโอรสจัดวางให้เป็นเสด็จพ่อเอทีเอ็ม โดยที่ปรินซ์ก็ไม่ทรงมีความกตัญญู ไม่รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ อีกทั้งไม่เคารพยำเกรงพระองค์
ไม่ทราบว่าปรินซ์แฮร์รีทรงกริ้วเกี่ยวกับกรณี Netflix หรือไม่ จู่ๆ ข้อมูลส่วนพระองค์ถูกปล่อยสู่สื่อมวลชน กล่าวคือ แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองซึ่งถูกปรับแก้ว่า “ถิ่นประทับหลักของปรินซ์ คือ สหรัฐอเมริกา”
การทำความเข้าใจกับความเคลื่อนไหวทั้งหลายทั้งปวงในเที่ยวนี้ จะต้องตรวจสอบกลับไปถึงเหตุการณ์ในเดือนเมษายน 2024 กรณีที่ปรินซ์แฮร์รีและพระชายาเมแกนทรงต้องลุกขึ้นขับเคลื่อนแผนผลิตซีรีส์สารคดีป้อนแก่ เน็ตฟลิกซ์ ถึงสองโปรเจ็กต์ ก่อนที่สัญญาธุรกิจ 5 ปีที่มีอยู่ระหว่างกันจะหมดอายุลงในปี 2025 ซึ่งมีเค้าลางว่าเน็ตฟลิกซ์อาจขาดทุน เพราะได้จ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้วก้อนมหึมา แต่ปรินซ์และพระชายาสร้างผลิตภัณฑ์ไปให้ขายสมาชิกเสียเงินสตรีมไปชม เพียงแค่ 4 ชุด ซึ่งถ้าสัญญาธุรกิจนี้จบไม่สวย เน็ตฟลิกซ์อาจฟ้องร้องเรียกเงินคืนให้เป็นที่อื้อฉาว ซึ่งพระชายเมแกนจะอาละวาดปรินซ์แฮร์รีหนักหนาสาหัสแน่ หากเธอต้องอับอายชาวไฮโซทั้งปวงว่าไม่รวยจริงและไม่มีเงินไปคืนเขา
ปัญหาน่าเป็นห่วงดังกล่าวอาจเป็นแรงจูงใจให้ปรินซ์แฮร์รีทรงต้องวิ่งเข้าหาเสด็จพ่อเอทีเอ็มให้จงได้ แต่เรื่องราวในรอบ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาคงไม่ลงตัว เช่น พระราชบิดาอาจจะทรงกลับไปใช้กลยุทธ์เดิม คือ การไม่รับโทรศัพท์ ตัดบทไม่ให้พระราชโอรสองค์สุดท้องสามารถเข้าถึงพระองค์ได้
สิ่งชี้บ่งที่ปรากฏออกมาคือ จู่ๆ ในวันที่ 18 เมษายน อันเป็นห้วงเวลาไม่กี่วันให้หลังจากที่เน็ตฟลิกซ์ประกาศข่าวการผลิตสองโปรเจ็กต์ของปรินซ์แฮร์รีและพระชายาเมแกน สื่อมวลชนก็ได้เห็นเอกสารแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง ที่ปรินซ์ทรงปรับปรุงแก้ไขข้อมูลถิ่นฐานหลักของพระองค์จาก อังกฤษ เป็น สหรัฐอเมริกา โดยเอกสารนี้มีเพียงปรินซ์กับหน่วยงานราชการอเมริกันที่มีสำเนา หรือก็คือว่าเอกสารสำคัญนี้น่าจะหลุดออกมาจากพระตำหนักมอนเตซิโต
ขณะที่สื่อมวลชนขยี้ข่าวกันเป็นที่ครึกครื้นว่า ปรินซ์แฮร์รีทรงตัดขาดพระองค์ออกจากสหราชอาณาจักรและพระราชสำนักอังกฤษร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ปรินซ์ทรงกริ้วพระราชบิดาในเรื่องใดกันแน่ จึงทรงออกมาฟาดงวงฟาดงานแก้เผ็ดกันเยี่ยงนั้น
ประเด็นดังกล่าวสงบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการต่อยอดข่าวสืบเนื่องไปว่า ตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งประเทศ หรือ Counsellor of State อันเป็นตำแหน่งทรงเกียรติสูงส่งที่ปรินซ์แฮร์รียังครองอยู่ภายในกลุ่มเดียวกับสมาชิกพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่อีก 5 พระองค์ นั้น อาจจะหมดสถานภาพ เพราะการย้ายถิ่นฐานออกจากสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ จะทำให้พระองค์เสียคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ที่สามารถตำแหน่งได้
ในการนี้ ห้วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อังกฤษต่างระแคะระคายว่า ปรินซ์แฮร์รีทรงพยายามอย่างสุดๆ ที่จะขอเข้าเฝ้าเป็นพระราชบิดาเป็นการส่วนพระองค์ในระหว่างที่ทรงเสด็จยังกรุงลอนดอน
อาจจะด้วยเหตุนี้ จอมกูรูผู้รู้ลึกรู้ละเอียด อย่างไมเคิล โคล จึงได้บอกเป็นนัยว่าปรินซ์แฮร์รีทรงร้อนรนพระทัยที่จะได้เข้าเฝ้าเสด็จพ่อเอทีเอ็มเพราะปัญหาทางการเงิน
งานนี้ของปรินซ์แฮร์รีจึงเป็นหนังชีวิตซีรีส์ยาว 4 ปี ยากที่จะยุติ
ในเมื่อปรินซ์แฮร์รีทรงต้องพึ่งพิงพระราชบิดาหนักหนาถึงปานนี้ แต่ปรินซ์ก็ทรงไม่สำนึกผิด อีกทั้งไม่กราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษสำหรับที่เคยใส่ร้ายป้ายสีโจมตีพระราชตระกูลไว้อย่างมหาศาล แล้วพระองค์จะทรงได้รับความช่วยเหลือได้อย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญบางค่ายชี้ไว้ว่า คิงชาร์ลส์ทรงวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่งกับการขัดเกลาพระราชโอรสพระองค์เล็ก โดยทรงไม่ใช้วิธีตัดหางปล่อยวัด แต่ทรงให้ปรินซ์เผชิญกับความเป็นจริงของชีวิต ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์ที่ผ่านมาก็ปรากฏให้เห็นบ้างแล้ว ปรินซ์ทรงรู้จักที่จะถอยและอ่อนข้อไม่ใช่น้อย และเมื่อทรงออกพระอาการเหวี่ยงในระยะหลัง ก็นับว่าไม่ดุเดือดดั่งเมื่อก่อนๆ
สำหรับในเที่ยวนี้ การพระราชทาน “บทเรียนซึ่งทั้งหนักทั้งแรง” ดับเบิลเด้งในวันเดียว น่าจะส่งอานิสงส์ได้มหาศาล
ซึ่งท่านผู้ชมก็จะต้องทยอยติดตามตอนต่อไปของซีรีส์ศึกสายเลือดพระราชวงศ์อังกฤษปีที่ 5 อย่างไม่ลดละ
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ เดอะซัน)