รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระงับการส่งอาวุธให้อิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในความเคลื่อนไหวที่สะท้อนจุดยืนวอชิงตันว่า “ไม่เห็นด้วย” กับแผนของอิสราเอลในการส่งทหารบุกเมืองราฟาห์ (Rafah) ทางตอนใต้ของกาซา
ไบเดน พยายามโน้มน้าวอิสราเอลให้ชะลอปฏิบัติการโจมตีเต็มรูปแบบที่เมืองราฟาห์ ซึ่งมีพลเรือนปาเลสไตน์กว่าล้านคนเข้าไปอาศัยหลบภัยจากสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ยืดเยื้อมานานกว่า 7 เดือน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ยืนยันกับรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ว่า ในขณะที่ผู้นำอิสราเอลดูเหมือนจะตัดสินใจแน่วแน่แล้วเรื่องการบุกราฟาห์ “สหรัฐฯ ก็เริ่มทบทวนการส่งมอบอาวุธบางชนิดให้อิสราเอลซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในราฟาห์” โดยเริ่มมาตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.
“ผลของการทบทวนทำให้เราตัดสินใจระงับการส่งอาวุธล็อตหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประกอบด้วยระเบิดขนาด 2,000 ปอนด์จำนวน 1,800 ลูก และระเบิดขนาด 500 ปอนด์อีก 1,700 ลูก” แหล่งข่าวผู้นี้ระบุ
“เราใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องการใช้งานขั้นสุดท้ายของระเบิด 2,000 ปอนด์ และผลกระทบซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในบางส่วนของกาซา เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าสุดท้ายแล้วจะเดินหน้าส่งมอบอาวุธนี้ให้แก่อิสราเอลหรือไม่”
แหล่งข่าว 4 รายให้ข้อมูลว่า อาวุธซึ่งถูกชะลอการส่งมอบมาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ประกอบด้วย วัตถุระเบิดเพื่อใช้โจมตีร่วม (Joint Direct Attack Munitions - JDAM) ของค่ายโบอิ้งซึ่งสามารถเปลี่ยนระเบิดธรรมดาให้กลายเป็นระเบิดนำวิถีได้ และระเบิดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเล็ก (Small Diameter Bombs)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ พยายามกดดันอย่างเปิดเผยให้อิสราเอลชะลอปฏิบัติการบุกราฟาห์ออกไป จนกว่าจะคิดหาวิธีหลีกเลี่ยงการสูญเสียของพลเรือนได้
เมื่อวันอังคาร (7) กองทัพอิสราเอลได้เข้ายึดจุดผ่านแดนหลักระหว่างฉนวนกาซากับอียิปต์ที่เมืองราฟาห์ ส่งผลให้เส้นทางขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหลักถูกตัดขาด
คารีน ฌ็อง-ปิแอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว กล่าวยืนยันว่าการสนับสนุนที่สหรัฐฯ มีต่ออิสราเอลนั้นยังคง “แข็งแกร่งประดุจเหล็ก” และเมื่อนักข่าวถามถึงเรื่องที่อเมริการะงับการส่งระเบิดให้แก่รัฐยิว เธอก็ตอบแค่ว่า “มี 2 อย่างที่อาจเป็นจริง นั่นคือการพูดคุยอย่างจริงจังและตรงไปตรงมากับหุ้นส่วนของเราในอิสราเอล และการรับรองว่าชีวิตพลเรือนจะต้องได้รับการปกป้อง”
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันจันทร์ (6) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจเชิงนโยบายว่าจะชะลอส่งมอบอาวุธให้อิสราเอล ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอเมริกาในตะวันออกกลาง
กระนั้นก็ตาม คำสั่งชะลอการส่งระเบิดครั้งนี้ถือเป็นอาการสะดุดครั้งแรกของอเมริกา นับตั้งแต่ที่รัฐบาล ไบเดน ประกาศหนุนหลังอิสราเอลเต็มที่ในการปกป้องตนเอง ตามหลังเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีภาคใต้ของรัฐยิวเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว
ปฏิบัติการแก้แค้นฮามาสของอิสราเอลตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ในกาซาไปแล้วไม่ต่ำกว่า 34,789 คน ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซา ขณะเดียวกันก็กลายเป็นชนวนให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้ ไบเดน หยุดส่งอาวุธไปสนับสนุนการเข่นฆ่าของอิสราเอล
เจ้าหน้าที่อาวุโสของอิสราเอลซึ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ไม่ขอยืนยันว่ามีการระงับส่งอาวุธจริงหรือไม่ และให้คำตอบสั้นๆ ว่า “ก็อย่างที่นายกรัฐมนตรี (เบนจามิน เนทันยาฮู) ได้กล่าวไปแล้ว แม้ต้องสู้ด้วยเล็บของเราเอง เราก็จะทำในสิ่งที่ต้องทำ”
ที่มา : รอยเตอร์