รัสเซียประกาศเตือนเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) ว่ากองทัพหมีขาวอาจโจมตีที่ตั้งทางทหารหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ของอังกฤษ ทั้งในยูเครนและสถานที่อื่นๆ หากอาวุธจากแดนผู้ดีถูกยูเครนนำมาใช้โจมตีดินแดนของรัสเซีย
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังได้เรียกตัว ไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษเข้าพบเพื่อยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการ กรณี เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ออกมาพูดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ายูเครน “มีสิทธิ” ที่จะนำอาวุธของอังกฤษไปใช้โจมตีเป้าหมายภายในดินแดนของรัสเซีย
รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข่าวเรื่องที่ เคซีย์ ถูกเรียกตัวไปประท้วง และอ้างว่าเขาเพียงแต่เข้าพบเจ้าหน้าที่รัสเซีย “เพื่อประชุมเรื่องการทูต” เท่านั้น ซึ่งในการหารือดังกล่าวทูตผู้นี้ยังได้ “ย้ำจุดยืนของสหราชอาณาจักรในการสนับสนุนยูเครนท่ามกลางการรุกรานก้าวร้าวโดยปราศจากการยั่วยุของรัสเซีย”
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียชี้ว่า คำพูดของ คาเมรอน เท่ากับดึงอังกฤษเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง “โดยพฤตินัย” (de facto) และยังย้อนแย้งกับคำมั่นสัญญาเดิมที่ว่าอาวุธพิสัยไกลที่พวกเขามอบแก่ยูเครนจะต้องไม่ถูกนำมาใช้โจมตีดินแดนรัสเซีย
“เราได้เตือนทูต เคซีย์ ไปว่า ในกรณีที่ยูเครนเอาอาวุธของอังกฤษมาโจมตีดินแดนรัสเซีย ฐานที่ตั้งทางทหารหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ของอังกฤษไม่ว่าจะในยูเครนหรือต่างประเทศ (มีสิทธิตกเป็นเป้าหมายโจมตีของรัสเซีย)” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในถ้อยแถลง พร้อมเตือนว่าสิ่งที่อดีตนายกฯ และรัฐมนตรีอังกฤษผู้นี้กล่าวออกมาเป็นการโหมกระพือความขัดแย้งอย่างรุนแรง
“เอกอัครราชทูตอังกฤษถูกเรียกเข้ามาพบเพื่อย้ำเตือนถึงผลลัพธ์ขั้นหายนะที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากท่าทีก้าวร้าวของลอนดอน และยังเป็นการปฏิเสธถ้อยแถลงยั่วยุของผู้นำกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษอย่างเด็ดเดี่ยวและตรงไปตรงมาที่สุดด้วย”
ระหว่างเดินทางเยือนกรุงเคียฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คาเมรอน ได้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่ายูเครนมีสิทธิเอาอาวุธที่ได้รับจากอังกฤษไปใช้โจมตีเป้าหมายภายในรัสเซียได้ ขึ้นอยู่กับเคียฟว่าจะตัดสินใจทำหรือไม่เท่านั้น
ที่มา : รอยเตอร์