รัสเซียในวันจันทร์ (6 พ.ค.) เปิดเผยว่าจะทำการฝึกซ้อมประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ส่วนหนึ่งในการซ้อมรบทางทหาร ตามคำบัญชาของประธานาธิบดีปูติน ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นตามมอสโกกล่าวอ้างว่าพวกเขาถูกข่มขู่คุกคามจากฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ
นับตั้งแต่รุกรานยูเครนในปี 2022 รัสเซียส่งเสียงเตือนซ้ำๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงทางนิวเคลียร์ คำเตือนที่ทางอเมริกาบอกว่าพวกเขาให้ความสำคัญ แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บ่งชี้ยังไม่พบเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในยุทธศาสตร์ทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย
รัสเซียกล่าวหาสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปกำลังผลักโลกไปยังขอบเหวแห่งการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจนิวเคลียร์ ด้วยการมอบอาวุธสนับสนุนยูเครนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ บางส่วนในนั้นถูกใช้โจมตีภายในดินแดนของรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าจะทำการซ้อมรบทางทหาร ในนั้นรวมถึงฝึกฝนเตรียมการและประจำการสำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ พร้อมบอกว่าการซ้อมรบครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
กองกำลังขีปนาวุธในมณฑลทหารใต้ กองทัพอากาศ และกองทัพเรือจะเข้าร่วมซ้อมรบในครั้งนี้ด้วย จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
"การซ้อมรบมีเป้าหมายรับประกันอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของรัสเซีย ตอบโต้คำแถลงยั่วยุและข่มขู่คุกคามต่างๆ จากพวกเจ้าหน้าที่ตะวันตกบางประเทศที่มีต่อสหพันธรัฐรัสเซีย" ถ้อยแถลงระบุ
รัสเซียและสหรัฐฯ คือ 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดของโลก มีหัวรบนิวเคลียร์ในครอบครองรวมกัน 10,600 หัวรบ จากทั้งหมดทั่วโลก 12,100 หัวรบ โดยที่จีนมีคลังแสงนิวเคลียร์ใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ตามมาด้วยฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร
ข้อมูลจากสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (Federation of American Scientists) รัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์ที่ไม่ใช่หัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ ราว 1,558 หัวรบ แต่มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับตัวเลขที่แท้จริงของอาวุธดังกล่าว เนื่องจากมันขาดความโปร่งใสสำหรับตรวจสอบ
ไม่มีชาติมหาอำนาจใดเคยใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงคราม นับตั้งแต่สหรัฐฯ ปลดปล่อยระเบิดปรมาณูครั้งแรกโจมตีเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิของญี่ปุ่น ในปี 1945
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ บอกเมื่อปีที่แล้ว ว่าเขารู้สึกว่าไม่มีโอกาสอย่างแท้จริงที่รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอเมริกา เคยจัดทำแผนฉุกเฉินในปี 2022 รับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะโจมตีทางนิวเคลียร์เล่นงานยูเครน
พวกเจ้าหน้าที่ตะวันตกและเจ้าหน้าที่ยูเครนบางส่วนเชื่อว่ารัสเซียกำลังเกทับในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ เพียงเพื่อสร้างความหวาดผวาแก่ตะวันตก แต่ทางเครมลินบ่งชี้ว่าพวกเขาจะพิจารณาทำลายข้อห้ามทางนิวเคลียร์ หากว่าการอยู่รอดของรัสเซียถูกคุกคาม "เราไม่พบเห็นอะไรใหม่เลย" อันดรีย์ ยูซอฟ โฆษกหน่วยข่าวกรองทหารยูเครนกล่าว "การแบล็กเมล์ทางนิวเคลียร์คือแนวทางปฏิบัติที่มีอย่างต่อเนื่องของระบอบปูติน"
เครมลินบอกว่าการซ้อมรบอาวุธนิวเคลียร์ เป็นการตอบโต้ความเห็นของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร และตัวแทนรายหนึ่งของวุฒิสภาสหรัฐฯ
มาครง เสนอแนวคิดต่อสาธารณะเกี่ยวกับการส่งทหารยุโรปเข้าสู้รบกับรัสเซียในยูเครน ส่วน เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร บอกว่ายูเครนมีสิทธิโดยชอบธรรมในการใช้อาวุธที่ลอนดอนจัดหาให้ โจมตีเป้าหมายต่างๆ ภายในรัสเซีย
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน บอกว่าถ้อยแถลงต่างๆ ของตะวันตกเกี่ยวกับการส่งทหารนาโตเข้าไปยังยูเครน เทียบเท่ากับเป็นการยกระดับสถานการณ์ความตึงเครียดรอบใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและแน่นอนว่ามันจะได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษและใช้มาตรการพิเศษในการตอบโต้
ปูติน เคยเตือนตะวันตกในเดือนมีนาคม ว่าการเผชิญหน้าโดยตรงใดๆ ระหว่างรัสเซียกับพันธมิตรทหารนาโตที่นำโดยสหรัฐฯ จะหมายความว่าโลกใบนี้อยู่ห่างจากสงครามโลกครั้งที่ 3 เพียงก้าวเดียว แต่เชื่อว่าไม่มีใครต้องการเห็นสถานการณ์เช่นนี้
(ที่มา : รอยเตอร์)