วังเครมลินในวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.) ปฏิเสธคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่โวยวายว่ากองกำลังรัสเซียใช้อาวุธเคมีในยูเครน พร้อมกับประณามมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ที่เล็งเป้าหมายเล่นงานคู่หูทางการค้าหลักๆ ของมอสโก
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (1 พ.ค.) ว่ารัสเซียใช้อาวุธเคมีคลอโรพิครินกับกองกำลังยูเครน ในเรื่องนี้ ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครามลิน บอกกับพวกผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำกล่าวหาดังกล่าว "อย่างที่เป็นมาตลอด ข้อกล่าวหาต่างๆ ลักษณะนี้ไร้หลักฐานและปราศจากข้อพิสูจน์ความจริงโดยสิ้นเชิง"
สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (อังกฤษ : Chemical Weapons Convention หรือ CWC) ในขณะที่คลอโรพิครินเป็นสารมันเยิ้มที่รู้จักกันในฐานะสารทําลายระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเคยถูกใช้อย่างกว้างขวางระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ในรูปแบบของแก๊สน้ำตา
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ให้คำจำกัดความมันว่าเป็นสารทำลายปอด ที่สามารถก่อความระคายเคืองอย่างรุนแรงต่อผิวหนัง ดวงตาและระบบทางเดินหายใจ ขณะที่มันเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเจาะจงโดยองค์การห้ามอาวุธเคมี หน่วยงานที่บังคับใช้อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (1 พ.ค.) "การใช้สารเคมีลักษณะดังกล่าว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และบางทีมันอาจมีแรงผลักดันจากความปรารถนาของกองกำลังรัสเซียที่ต้องการขับไล่กองกำลังยูเครนออกจากฐานที่มั่นที่หนาแน่นต่างๆ และบรรลุเป้าหมายรุกคืบทางยุทธวิธีในสมรภูมิรบ"
มอสโกลงนามและให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี ซึ่งการผลิตและใช้อาวุธเคมีเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย "รัสเซียยังคงมุ่งมั่นในพันธสัญญาต่างๆ ของพวกเขาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ" เปสคอฟระบุในวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.)
นอกจากนี้ เปสคอฟยังพูดถึงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงกำหนดเล่นงานนิติบุคคลในจีนและประเทศอื่นๆ ที่ตะวันตกกล่าวหาว่าบริษัทต่างๆ เหล่านั้นให้ความช่วยเหลือปฏิบัติการรุกรานของรัสเซีย โดยบอกเขาว่ามันจะไม่ขัดขวางมอสโกจากการกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับพันธมิตรต่างๆ นอกตะวันตก
"สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าออกแรงกดดันประเทศต่างเหล่านี้ บริษัทและองค์กรต่างๆ กำลังได้รับผลกระทบ แต่มันไม่อาจก่อความวุ่นวายแก่พัฒนาการความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับประเทศเหล่านี้" เปสคอฟระบุในวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.)
มาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เล็งเป้าหมายเล่นงานบริษัทและบุคคลต่างๆ ที่อเมริกาอ้างว่าให้ความช่วยเหลือรัสเซีย ในการจัดหาส่วนประกอบสำคัญๆ และอะไหล่สำหรับภาคกลาโหมของมอสโก
มอสโกเพิ่มการส่งออกทางพลังงานไปจีน นับตั้งแต่สูญเสียการเข้าถึงตลาดยุโรป และยอดนำเข้าอุปกรณ์ เครื่องจักรและสินค้าอุปโภคบริโภคจากจีนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ธนาคารหลายแห่งของจีนหยุดให้บริการลูกค้ารัสเซีย หลังได้รับการเตือนว่าพวกเขาอาจถูกเล่นงานจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ตามรายงาของสื่อมวลชนรัสเซียเมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
(ที่มา : เอเอฟพี)