เอเอฟพี/เอเจนซีส - รัฐบาลอังกฤษเริ่มต้นส่งผู้อพยพผิดกฎหมายขึ้นเครื่องไปกรุงคิกาลี ตามกฎหมายเนรเทศผู้อพยพไปรวันดาที่อื้อฉาวของนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก หลังฉาวหนักมีรายงานออกมา ผู้อพยพเตรียมส่งเนรเทศร่วมหลายพันล่องหนในกรุงลอนดอน
เอเอฟพีรายงานวันพุธ (1 พ.ค.) ว่า สื่ออังกฤษรายงานวันอังคาร (30 เม.ย.) ว่า ถนนดาวนิงเริ่มต้นส่งผู้อพยพรายแรกไปยังรวันดา เกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ผ่านกฎหมายรวันดาที่อื้อฉาว ที่มีชื่อทางการคือ Safety of Rwanda (Asylum and Immigration) Act 2024 อนุญาตให้สามารถส่งผู้อพยพผิดกฎหมายที่ถูกปฏิเสธการขอลี้ภัยในอังกฤษให้ไปยังรวันดา
กฎหมายรวันดาถูกสหประชาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก ตั้งความหวังว่าแผนการต่อสู้การเข้าเมืองผิดกฎหมายนี้จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ทางการเมืองเพื่อช่วยพรรครัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟอังกฤษของเขาในการเลือกตั้งทั่วไปอังกฤษที่กำลังจะมาถึงในปีนี้
เอเอฟพีชี้ว่า ตามแผนผู้อพยพที่โดนส่งตัวไปรวันดา และคนเหล่านั้นจะได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นั่นได้หากว่าคำขอการยื่นลี้ภัยประสบความสำเร็จ ซึ่งคนเหล่านี้จะไม่สามารถได้รับอนุญาตให้กลับเข้าอังกฤษ
รัฐบาลอังกฤษวางแผนจะเริ่มการเนรเทศครั้งใหญ่ภายในกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยในการแถลงวันอังคาร (30 เม.ย.) รัฐบาลอังกฤษคาดว่าจะสามารถเนรเทศเป็นจำนวน 5,700 คนปีนี้เพื่อสกัดกั้นผู้อพยพที่เดินทางมาโดยเรือลำเล็กจากยุโรปเหนือ
เอเอฟพีรายงานว่า ผู้อพยพชายที่ถูกเนรเทศออกจากอังกฤษในวันจันทร์ (29 เม.ย.) นั้นเขายอมตกลงที่จะโดนส่งตัวไปยังกรุงคิกาลี รวันดา หลังการยื่นขอลี้ภัยถูกรัฐบาลอังกฤษปฏิเสธเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ไม่กี่สื่อรายงานพบว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเนรเทศโดยสมัครใจที่เป็นอีกโครงการ
ทั้งนี้ พบว่าผู้อพยพชายชาวแอฟริกันเดินทางไปกรุงคิกาลีด้วยเครื่องบินพาณิชย์ หนังสือพิมพ์เดอะซันรายงาน
และในการแลกเปลี่ยนเพื่อยอมเดินทางออกจากอังกฤษ ผู้อพยพชายรายนี้จะได้รับเงินสดจำนวน 3,000 ปอนด์เป็นค่าตอบแทน แหล่งข่าวในรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยในรายงานของหนังสือพิมพ์ไทม์สอังกฤษ
เกิดขึ้นหลังดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันอังคาร (30 เม.ย.) ว่ารัฐมนตรีอังกฤษออกมายอมรับว่า มีผู้อพยพจำนวนหลายพันคนเกิดหายตัว ซึ่งคนเหล่านี้มีชื่อต้องถูกส่งไปรวันดา
รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ วิคตอเรีย แอตคินส์ (Victoria Atkins) ยืนยันว่า คนจำนวนนับพันที่หายตัวไปเหล่านั้นจะต้องถูกตามพบตัวอย่างแน่นอน
ตามรายงานการประเมินผลกระทบพบว่า จากทั้งหมด 5,700 คนที่มีชื่อต้องโดนเนรเทศ มีเพียงแค่ 2,145 คนที่สามารถตามตัวได้
แอตคินส์ชี้ว่า การบุกค้นของตำรวจอังกฤษเป็นหนึ่งในหลายมาตรการที่จะใช้ในการตามหาคนเหล่านั้น
“พวกเราต้องการส่งสารออกไปอย่างดังและชัดเจนว่า หากมีใครไม่ยอมออกมารายงานตัวเหมือนที่พวกเขาสมควรต้องทำ คนเหล่านั้นอย่าคิดว่าจะสามารถหนีพ้น พวกเขาจะต้องโดนตามตัวจนพบ” เธอกล่าว