เอเจนซีส์ - กระทรวงต่างประเทศอิสราเอลมีรายงานออกคำสั่งลับไปยังสถานทูตที่อยู่ทั่วโลกให้เตรียมความพร้อมต่อผลที่จะตามมาหากว่ามีการออกหมายจับโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ในคดีอาชญากรรมสงครามและการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้นำทางการเมืองอิสราเอลและผู้นำกองทัพ IDF และแกนนำฮามาส หลังข่าวลือไปทั่วมาตั้งแต่วันศุกร์ (26 เม.ย.) สื่ออเมริกันแฉ นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู เอ่ยปากด้วยตัวเองขอประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ให้ยื่นมือเข้ามาแทรก
อนาโดลูของตุรกีรายงานวานนี้ (29 เม.ย.) ว่า ในแถลงการณ์เมื่อค่ำวันอาทิตย์ (28) ที่ออกโดยกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลนั้นพบว่า ทางกระทรวงได้ออกมาตอบโต้ต่อกระแสข่าวลือถึงความเป็นไปได้ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC จะออกหมายจับบุคคลสำคัญของอิสราเอลในคดีอาชญากรรมสงครามและการละเมิดสิทธิมนุษยชนปาเลสไตน์
อิสราเอล กัตซ์ (Israel Katz) รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลออกคำสั่งทันทีไปยังสถานทูตอิสราเอลที่ประจำอยู่ทั่วโลกให้เตรียมรับมืออย่างเร่งด่วนต่อการเพิ่มขึ้นของการประท้วงต่อต้านยิวและการประท้วงอิสราเอล
นอกจากนี้ เขายังออกคำสั่งถึงองค์กรชาวยิวที่มีอยู่ทั่วโลกให้เตรียมรับมือเช่นกัน รวมไปถึงการประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เพิ่มการรักษาความปลอดภัย
รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลกล่าวว่า ทางเทลอาวีฟคาดหวังว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ที่ตั้งอยู่ในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ จะงดเว้นจากการประกาศออกหมายจับ
อนาโดลูรายงานว่า อิสราเอลวิตกกังวลหากมีการออกหมายจับในระดับสูงทางการทหารและทางการเมืองอิสราเอล ซึ่งหนึ่งในคนที่คาดว่าอาจถูกหมายจับคือ นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู รวมไปถึงผู้นำกองทัพอิสราเอล IDF สำหรับสงครามต่อต้านฮามาสที่กำลังดำเนินอยู่ในเขตฉนวนกาซา
ตามการรายงานของเดอะการ์เดียนของอังกฤษในวันจันทร์ (29) พบว่า รายงานที่ออกมาจากสื่ออิสราเอลระบุว่า นอกจาก ICC จะออกหมายจับผู้นำอิสราเอลแล้ว มีรายงานว่าศาลอาญาระหว่างประเทศจะออกหมายจับแกนนำกลุ่มฮามาสด้วยเช่นกัน
สื่ออังกฤษชี้ต่อว่า แอ็กซิออส (Axios) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูได้เอ่ยปากขอให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ยื่นมือเข้าช่วยแทรกแซงเพื่อไม่ให้ศาล ICC มีหมายจับออกมา
ทั้งนี้ มีรายงานว่าการโทรศัพท์หารือของคนทั้งคู่ล่าสุดเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ (28)
ข่าวหมายจับศาล ICC เกิดมาตั้งแต่วันศุกร์ (26) เมื่อนายกรัฐมนตรีเบนจามินออกมาโจมตีว่า การตัดสินใจของศาลจะทำให้กลายเป็นตัวอย่างที่เป็นอันตราย
เดอะการ์เดียนชี้ว่า มีรายงานว่ามีนักการทูตหลายคนจากกลุ่มประเทศ G-7 กดดันศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ไม่ให้ออกหมายจับต่อเจ้าหน้าที่อิสราเอล หรือของฮามาส ท่ามกลางความวิตกว่า การออกหมายจับอาจกระทบต่อการเจรจาหยุดยิงได้
ด้านโฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ คารีน ณอง-เพียรร์ (Karine Jeanne-Pierre) แถลงยืนยันว่า “พวกเรามีความชัดเจนเกี่ยวกับการสอบสวนของศาล ICC พวกเราไม่ขอสนับสนุนเพราะพวกเราไม่เชื่อว่าว่าพวกเขามีขอบเขตอำนาจศาล”
ข่าวการออกหมายจับผู้นำอิสราเอลสร้างความไม่พอใจให้บรรดานักการเมืองอเมริกันทั้งฝั่งพรรครีพับลิกัน เป็นต้นว่า ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ไมค์ จอห์นสัน ที่ชี้ว่า การกระทำที่ผิดกฎหมายของ ICC นี้จะบั่นทอนโดยตรงต่อผลประโยชน์ทางความมั่นคงสหรัฐฯ และอีกทั้งอาจสร้างตัวอย่างได้ว่า สามารถออกหมายจับผู้นำนักการเมืองอเมริกัน บรรดานักการทูตอเมริกัน และทหารสหรัฐฯ เขาสรุปว่า การกระทำครั้งนี้ถือเป็นภัยต่ออำนาจอธิปไตยสหรัฐฯ
ส่วน ส.ว. จอห์น เฟตเตอร์แมน (John Fetterman) จากพรรคเดโมแครตออกโรงกดดันให้รัฐบาลไบเดนเข้ามาแทรกแซงทันที
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลไม่ได้ร่วมเป็นสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันที่ในวันอังคาร (29) ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ หรือศาลโลกกำลังจะออกคำตัดสินอีกคดีที่ยื่นโดยนิการากัวว่าจะรับหรือไม่
โดยฝ่ายนิการากัวร้องขอให้ศาลโลกออกคำสั่งเยอรมนีให้หยุดการให้ความช่วยเหลืออิสราเอลทั้งการทหารและทางมนุษยธรรมจากเหตุผลที่เยอรมนียังคงต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948 (Convention on the Prevention and Punishment of the Crime of Genocide)