เทสลารายงานผลประกอบการในวันอังคาร (23 เม.ย.) พบกำไรไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลงถึง 55% ด้วยแรงกดดันที่สูงลิ่วจากสงครามราคาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และทำให้บริษัทต้องปรับลดต้นทุนครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัทรถอีวีของอีลอน มัสก์ ดีดตัวขึ้นในวันอังคาร (23 เม.ย.) หลังเทสลาส่งสัญญาณรับปากจะเร่งผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่ผู้ซื้อเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม สร้างความคึกคักแก่พวกนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท
ในรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 เทสลามีกำไร 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 55% จากไตรมาสเดียวกันเมื่อ 1 ปีก่อน จากรายได้ 21,300 ล้านดอลลาร์
ผลประกอบการดังกล่าวซึ่งไม่เป็นไปตามที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมาย มีขึ้นในขณะที่พวกนักลงทุนอยากเห็นความชัดเจนด้านกลยุทธ์มากกว่าที่เป็นอยู่จาก มัสก์ ท่ามกลางยอดขายที่ตกต่ำ และมันยังมีขึ้นในขณะที่บิ๊กบอสของเทสลารายนี้คุยโวเกี่ยวกับแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxis) ว่าเป็นการเสี่ยงเดิมพันครั้งใหญ่ในช่วงเวลาที่มีความเคลือบแคลงสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีอัตโนมัติ
เทสลาเพิ่งแถลงปรับลดพนักงานทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ และล่าสุดยังเพิ่งทำการเรียกคืนรถกระบะไซเบอร์ทรัค สืบเนื่องจากปัญหาคันเร่ง "เทสลา มุ่งมั่นลดค่าใช้จ่ายในวงกว้างของบริษัท ส่วนหนึ่งในความพยายามบรรลุเป้าหมายการเติบโตในผลกำไร" ถ้อยแถลงระบุ
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากถ้อยแถลงต่างๆ ที่บ่งชี้โดยนัยเกี่ยวกับแนวโน้มของการรัดเข็มขัด รายงานของเทสลาได้มอบข่าวบางอย่างที่สร้างความคึกคักแก่นักลงทุน หลังบอกว่าพวกเขามีแผนจะเร่งเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เร็วกว่าแผนการเดิมที่จะเริ่มการผลิตในไตรมาส 2 ของปี 2025 "รถยนต์ใหม่ๆ จะรวมไปถึงรถรุ่นต่างๆ ที่เข้าถึงได้ง่ายด้วย" เทสลากล่าว
ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจากมีข่าวลือต่างๆ ว่า เทสลา กำลังพับแผนการผลิตโมเดล 2 ชื่อรุ่นรถอย่างไม่เป็นทางการ ที่คาดหมายว่าจะเป็นรถราคาถูกเจาะตลาดมวลชน (Mass market)
แม้ถ้อยแถลงของเทสลาเกี่ยวกับรถใหม่จะมอบแรงสนับสนุนแก่หุ้นของบริษัท "แต่ทางบริษัทยังคงไม่ได้ให้กรอบเวลาสำหรับการผลิตรถยนต์ใหม่เหล่านี้ ซึ่งอาจใช้เวลานานหลายปีกว่าที่จะเข้าสู่ตลาด ในช่วงเวลาที่การแข่งขันของรถอีวีในตลาดต่างๆ กำลังหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ" กัดโจ เซบีญา นักวิเคราะห์เทคโนโลยีระดับสูงจากอีมาร์เกเตอร์กล่าว
ก่อนหน้าเข้าสู่ปี 2024 บรรดาผู้จับตาเทสลา คาดหมายอยู่ก่อนแล้วว่าบริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าแห่งนี้จะเผชิญเส้นทางที่ยากลำบากกว่าเดิม เนื่องจากเทสลาซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ครองความเป็นเจ้าตลาดรถอีวี ต้องเผชิญการแข่งขันหนักหน่วงขึ้นจากบรรดาคู่แข่งทั้งหลาย ผลก็คือจำเป็นต้องมีการปรับลดราคาไปแล้วหลายรอบ
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ดูเหมือนจะขรุขระมากกว่าที่คาดหมายไว้ โดยหลังจากเปิดเผยยอดส่งมอบรถยนต์ไตรมาสแรกลดลง 8.5% เมื่อวันที่ 2 เมษายน ในสัปดาห์ที่แล้ว เทสลา ได้แถลงแผนปรับลดพนักงานทั่วโลกลงมากกว่า 10%
จากนั้นไม่นาน มีข่าวว่าเทสลามีแผนเรียกคืนเแพกเกจค่าตอบแทนก้อนมโหฬาร 56,000 ล้านดอลลาร์ ที่บอร์ดบริษัทอนุมัติจ่ายแก่ มัสก์ หลังศาลพิพากษาเป็นโมฆะ โดยชี้ไม่เป็นธรรมกับผู้ถือหุ้น
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เทสลาได้ประกาศเรียกคืนรถกระบะไซเบอร์ทรัค สืบเนื่องจากปัญหาคันเร่ง
(ที่มา : เอเอฟพี)