รัสเซียระบุในวันอาทิตย์ (21 เม.ย.) ความเคลื่อนไหวของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่อนุมัติเงินช่วยเหลือรอบใหม่แก่ยูเครนอีก 60,840 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าวอชิงตันกำลังถลำลึกเข้าสู่สงครามลูกผสมกับมอสโก ที่จะต้องพบจุดจบอย่างน่าอับอายแบบเดียวกับความขัดแย้งในเวียดนาม หรืออัฟกานิสถาน
ปฏิบัติการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ฉุดความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับตะวันตกดำดิ่งสู่จุดเลวร้ายสุดนับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962
เมื่อวันเสาร์ (20 เม.ย.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ภายใต้การยกมือหนุนจากทั้ง 2 พรรค เห็นชอบแพกเกจร่างกฎหมายมูลค่า 95,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครน อิสราเอล และไต้หวัน แม้มีเสียงคัดค้านอย่างดุเดือดมาจากบรรดาสมาชิกรีพับลิกันขวาจัดบางส่วน
มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่ามันชัดเจนว่าสหรัฐฯ ต้องการให้ยูเครน "สู้รบจนเหลือชาวยูเครนคนสุดท้าย" ในนั้นรวมถึงโจมตีดินแดนอธิปไตยและพลเรือนรัสเซีย" เธอกล่าว "การถลำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ของวอชิงตันในสงครามลูกผสมกับรัสเซีย จะกลายเป็นความล้มเหลวอย่างน่าอับอายสำหรับสหรัฐฯ เหมือนกับในเวียดนามและอัฟกานิสถาน"
เธอบอกว่ารัสเซียจะทำการตอบโต้โดยไม่มีข้อแม้และอย่างหนักแน่น ต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในสงครามยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ
วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางแห่งสหรัฐฯ เตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าหากปราศจากการสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติมจากอเมริกา ยูเครนอาจประสบความพ่ายแพ้ในสมรภูมิ แต่หากได้รับการสนับสนุน กองกำลังเคียฟจะสามารถยืนหยัดด้วยตนเองในปีนี้
สหรัฐฯ ปฏิเสธซ้ำต่อการส่งกองกำลังของตนเองหรือทหารชาติสมาชิกนาโตอื่นๆ เข้าไปยังยูเครน ซึ่งกำลังสู้รบในสงครามปืนใหญ่และโดรนกับรัสเซีย ตามแนวหน้าที่มีการคุ้มกันหนาแน่นเป็นระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร
อเมริกาสูญเสียบุคลากรทางทหารในสงครามเวียดนามระหว่างปี 1955-1975 มากกว่า 58,000 นาย ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือที่เข้ายึดครองทางใต้ ในขณะเดียวกัน ก็มีพลเรือนเสียชีวิตอีกหลายแสนคน
ส่วนสงครามอัฟกานิสถานระหว่างปี 2001-2021 สหรัฐฯ รายงานว่ามีกำลังพลเสียชีวิต 2,459 นาย และบาดเจ็บกว่า 20,000 คน ในความขัดแย้งที่จบลงด้วยการที่กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยอเมริกาถอนทหารกลับอย่างสับสนอลหม่าน และขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามิสต์ตอลิบาน ผงาดหวนคืนสู่อำนาจ
เวลานี้ รัสเซียควบคุมดินแดนของยูเครนคิดเป็นสัดส่วนราว 18% ในทางตะวันออกและภาคใต้ของประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ และสามารถรุกคืบได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของเคียฟเมื่อปี 2023 ล้มเหลวในการทวงคืนใดๆ จากรัสเซีย ที่ตั้งมั่นอยู่เบื้องหลังทุ่งกับระเบิด ภายใต้การลาดตระเวนของโดรนและคุ้มกันโดยปืนใหญ่หนัก
ยูเครนร้องขอสหรัฐฯ มาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ให้อนุมัติความช่วยเหลือด้านการเงินและอาวุธเพิ่มเติมในการต่อสู้กับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่มอสโกอ้างว่าความช่วยเหลือจากอเมริกาจะไม่อาจเปลี่ยนแปลงแนวโน้มใดๆ ของสงคราม
ชาคาโรวา กล่าวว่าคนธรรมดาทั่วไปยูเครน กำลังถูกบังคับให้โดนสังหารในฐานะวัตถุที่ใช้ทำสงคราม แต่เวลานี้อเมริกาไม่เสี่ยงเดิมพันในชัยชนะของยูเครนเหนือรัสเซียอีกแล้ว โดยเธอเชื่อว่าวอชิงชัน คงหวังว่ายูเครนจะยืนหยัดไปจนกว่าจะถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน
ในแพกเกจร่างกฎหมายล่าสุด ในนั้นรวมไปถึงมาตรการต่างๆ ที่เปิดทางให้สหรัฐฯ ยึดทรัพย์รัสเซียมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ในทรัพย์สินรัสเซียที่อายัดไว้ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานมอสโก ซึ่งในเรื่องนี้ ชาคาโรวา กล่าวว่า "มันเป็นการขโมยอย่างโจ่งแจ้ง" พร้อมระบุพวกผู้ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงจากแพกเกจทั้งหมด ก็คือเหล่าบริษัทกลาโหมอเมริกา
(ที่มา : รอยเตอร์)