เมแกน มาร์เคิล พระชายาวัย 42 ของปรินซ์แฮร์รี โดนทัวร์ลงอย่างกระหึ่มรอบใหญ่ หลังมีคลิปไวรัลว่อนโซเชียลมีเดีย ในจังหวะที่เธอป่วนให้เกิดโมเมนต์น่าอับอายบนเวทีมอบถ้วยรางวัล “เซนเทบัลลีโปโลคัพ” แก่ทีมผู้ชนะแมตช์โปโลขี่ม้าการกุศลเพื่อเลโซโทและบอตซาวานา โดยพระชายาเมแกนไม่ยอมให้นักกฎหมายหญิงชาวซิมบับเว ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการเซนเทบัลลี (องค์การกุศลที่ปรินซ์ทรงอุปถัมภ์) ยืนถ่ายภาพหมู่เคียงข้างปรินซ์ของเธอ เดลิเมลออนไลน์รายงาน
ทั้งนี้ เมื่อดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ของปรินซ์แฮร์รี (39 พรรษา) ขึ้นเวทีมอบถ้วยรางวัลเกียรติยศแก่ทีมของพระสวามี ซึ่งเป็นทีมชนะเลิศ แล้วต่อด้วยการถ่ายภาพกลุ่มโดยดัชเชสปักหลักยืนเกาะพระกรพระสวามีชื่นมื่น หลังจากนั้น เป็นคิวถ่ายภาพแสดงความยินดีกับผู้แทนจากองค์กรการกุศลเซนเทบัลลี
โดย ดร.โซฟี ชันดาอูกา นักกฎหมายและนักการเงินหญิงชาวซิมบับเว ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการเซนเทบัลลี ก้าวขึ้นเวทีพร้อมกับสตรีผิวขาวคนหนึ่ง ในการนี้ โดยปกตินั้น ผู้จัดคิวเวทีจะแจ้งทราบล่วงหน้าว่าขอให้ท่านใดยืนตรงไหน เพื่อให้แผนการถ่ายภาพเป็นไปอย่างราบรื่น
ดร.โซฟี วีไอพีจากภูมิภาคแอฟริกาใต้ ก้าวไปยืนข้างปรินซ์แฮร์รี ส่วนสตรีผิวขาวที่ขึ้นเวทีไปพร้อมกัน ยืนข้างดัชเชส แล้วขั้นตอนแห่งการแสดงความยินดีกับถ้วยรางวัลแชมเปียนได้เริ่มขึ้น โดยปรินซ์แฮร์รีทรงกุมหูถ้วยรางวัลข้างหนึ่ง สตรีวีไอพีผิวขาวกุมหูถ้วยอีกข้างหนึ่ง ขณะที่ประธานคณะกรรมการเซนเทบัลลีทำหน้าที่รองมือใต้ฐานของถ้วย
แต่ปรากฏว่าดัชเชสกล่าวแทรกขึ้น ‘คุณอยากจะมายืนข้างนี้ไหมคะ’ พูดพลางออกอาการกำกับคิวละครเวทีด้วยการขยับแขนเรียก กระนั้นก็ตาม ด็อกเตอร์สาวมิได้เคลื่อนกายไปตามคำสั่งกลายๆ นั้น สื่อหัวสีนาม เพจซิกซ์ รายงาน
ดร.โซฟีไม่ได้เคลื่อนย้ายที่ยืน เพราะน่าจะไม่เข้าใจ เนื่องจากผู้กำกับเวทีได้บอกตำแหน่งที่ยืนไว้ชัดเจนแล้ว ดังนั้น ในวินาทีต่อๆ มาของคลิป ท่านผู้ชมจึงได้เห็นว่า ดัชเชสเริ่มอาการจิก โดยใช้นิ้วชี้ชี้ปักไปที่ข้างกายตนเอง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นการผายมือ ให้วีไอพีสตรีแอฟริกันขยับออกจากข้างปรินซ์แฮร์รี ไปยืนทางข้างซ้ายของเธอ และในเวลาเดียวกัน สตรีผิวขาวที่ขึ้นเวทีไปด้วยนั้น ก็กล่าวว่า ‘มาด้านนี้ค่ะ’
ดร.สตรีแอฟริกันจึงขยับเคลื่อน แต่โมเมนต์น่าอับอายจากเมแกน มาร์เคิล ไม่ยุติง่ายๆ ซ้ำยังขยายตัวเพิ่มขึ้น
เพราะในบรรดาวินาทีเหล่านั้น หูของถ้วยรางวัลข้างหนึ่งอยู่ในพระหัตถ์ของปรินซ์แฮร์รี ส่วนหูถ้วยอีกข้างหนึ่งอยู่ในมือของสุภาพสตรีผิวขาว ประธานคณะกรรมการเซนเทบัลลีจึงต้องย่อเข่าลง เพื่อให้ตนเองลอดผ่านด้านล่างของถ้วย แล้วไปยืนจับฐานถ้วยรางวัลตามบทบาทที่ผู้กำกับเวทีตัวจริงแจ้งไว้ล่วงหน้า โดยพ้นออกมาจากข้างพระกายปรินซ์ ตามความต้องการของเมแกน มาร์เคิล สตรีเลือดผสมจากไนจีเรียตามสายตระกูลฝ่ายมารดา
ต้องเทความสงสารอย่างสุดๆ ให้แก่ ดร.โซฟี ชันดาอูกา สตรีมากความสามารถจากซิมบับเว ผู้เป็นประธานคณะกรรมการเซนเทบัลลี ใครถูกปฏิบัติใส่อย่างนี้ต่อหน้ากล้องจำนวนมากมาย ก็ต้องเสียความรู้สึก แต่เห็นได้ว่าเธอระงับใจและรักษาสีหน้าให้สงบนิ่งกว่าที่แดงเพราะแดดเผา
ในด้านของปรินซ์แฮร์รี ตลอดที่ทรงมองความวุ่นวายที่เมแกน มาร์เคิล กระทำต่อแขกวีไอพีของพระองค์ ทรงพระพักตร์แดงจัดเข้มขึ้นขณะอยู่ระหว่างการแข่งขัน เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น
อันที่จริง ในคิวของด็อกเตอร์แอฟริกันประธานคณะกรรมการเซนเทบัลลี จะต้องไม่มีเมแกน มาร์เคิล ซึ่งไม่มีตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวข้องกับองค์กรหรือกับการแข่งขัน ดังนั้นโดยมารยาทแล้วเธอควรจะลงจากเวทีเมื่อเสร็จบทบาท และคิวของผู้บริหารเซนเทบัลลีก็ควรจะมีเพียงปรินซ์แฮร์รีอยู่ตรงกลางเข้าเฟรมร่วมกับ 2 สตรีวีไอพีที่ประกบซ้าย-ขวา โดยที่ประธานคณะกรรมการเซนเทบัลลีทำหน้าที่เอื้อมมือรองฐานของถ้วยรางวัล
ในการนี้ ด้วยความที่เมแกน มาร์เคิล หมดคิวแล้วแต่ยังเกาะแน่นกับพระสวามี ซึ่งเจ้าของคิวตัวจริงก็ไม่ว่าอะไร จะยืนกันทั้งสี่ก็ได้ ความโกลาหลอันน่าอับอายจึงเกิดขึ้น ตามการบงการของเมียบิ๊กบอส อันเป็นบรรยากาศที่ไร้ความเป็นมืออาชีพ เพราะค่อนไปใน “วัฒนธรรมธุรกิจครอบครัวแห่งอาซ้อเมแกน” นั่นเอง
สิบกว่าวินาทีอัปยศที่เมแกน มาร์เคิล ทำให้ดร.โซฟี ชันดาอูกา นักกฎหมายและนักการเงินหญิงชาวซิมบับเว ต้องมุดลอดใต้ถ้วยรางวัล เพื่อก้าวออกห่างจากปรินซ์แฮร์รี ไปยืนข้างเธอ บนเวทีมอบถ้วยรางวัลทีมชนะเลิศ
ชาวเน็ตติเซ็นแห่ประณามเมแกน มาร์เคิล ในความหยาบคายไร้มารยาท หรือจะสงสาร? เพราะเธอมีอาการหวั่นไหว ไม่มั่นคงทางอารมณ์
การที่ เมแกน มาร์เคิล ใช้ภาษากายไปบงการวีไอพีสตรีเชื้อสายแอฟริกัน ให้ก้าวห่างออกจากเจ้าชายแฮร์รีขณะขึ้นเวทีถ่ายภาพงาน ได้จุดชนวนระเบิดระเบ้อเป็นเสียงประณามทั่วโลกออนไลน์ คอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิดัชเชสเมแกนกระหึ่มอย่างครึกโครม ขณะที่คลิปอัปยศนี้ถูกแชร์กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย ตลอดจนบนยูทูปซึ่งเป็นคลิปจากอินสตาแกรม “เดอะซัสเซกซ์” ซึ่งในเวลาต่อมา มีการตัดเอาบรรดาวินาทีที่น่าเกลียดออกไปหมดสิ้น
คำวิจารณ์ส่วนใหญ่รวมศูนย์อยู่ในประเด็นว่า เมแกน มาร์เคิลเป็นคนหยาบคาย และจิตใจไร้ความมั่นคงทางอารมณ์และระส่ำด้วยความกลัวว่าจะสูญเสีย "หลัว"
คอมเมนต์หนึ่งบอกว่า “บุคลิกภาพจอมบงการของเมแกนถูกเปิดเผยออกมาให้โลกได้เห็น ไร้ซึ่งมารยาทอันสง่า ไร้ซึ่งสปิริตโอบอ้อมอารี น่าเกลียดอย่างยิ่ง” เพจซิกซ์รายงานอย่างนั้น พร้อมแถมอีกหนึ่งคอมเมนต์ ดังนี้
“เธอดูเหมือนจะไม่มีความมั่นคงทางจิตใจในเรื่องของพระสวามี นี่คือสาเหตุว่าทำไมเธอจึงเฝ้าแต่จะเกาะแน่นติดกับปรินซ์”
ด้านสื่อออนไลน์ค่ายไลฟ์มินต์ดอทคอมรายงานคำวิจารณ์ของกระทู้หนึ่งว่า
“เมแกนทำน่าเกลียดเหลือเกินที่ไปกีดกันไม่ให้คุณผู้หญิงคนนั้นถ่ายภาพข้างปรินซ์แฮร์รี เมแกนหยาบคายมาก”
และกระทู้อื่นๆ ก็วิพากษ์ในทางเดียวกันว่า “เมแกนหยาบคายกับผู้หญิงอื่นๆ ขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเป็นไปได้ปานนั้น” ไลฟ์มินต์รายงาน
“โอ พระเจ้าช่วย เมแกนขับไสให้ผู้หญิงคนนั้นห่างออกจากปรินซ์ เพื่อไปสู่ความอับอาย เธอหยาบคายเป็นที่สุด”
“ฉันล่ะอายแทนเมแกน หลายครั้งแล้วที่นางพลาดโอกาสแสดงความสง่างาม”
“เมแกนเป็นผู้หญิงที่ไร้ความมั่นคงทางอารมณ์เอามากๆ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านางจะทำตัวเยี่ยงนี้ทั้งที่อยู่ต่อหน้ากล้องพรึ่บไปหมด”
ด้านสื่อจอมอิทธิพลอย่างดิเอ็กซ์เพรสรายงานว่า ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์มีท่าทีที่ “มั่นใจน้อยกว่าปกติ” น้อยกว่าปรินซ์แฮร์รีผู้ทรงประทับในพื้นที่ที่พระองค์ทรงถนัดอย่างยิ่ง คือ สนามกีฬาโปโล
ทั้งนี้ ดิเอ็กซ์เพรสอ้างอิงตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญภาษาท่าทาง นามว่า จูดี เจมส์ ซึ่งอธิบายที่มาของความสบายพระทัยในส่วนของปรินซ์แฮร์รี ดังนี้
“สำหรับเจ้าชายทั้งหลาย การแข่งขันโปโลเป็นพระอีเวนต์ที่จะได้แสดงออกอย่างเท่ที่สุดค่ะ เพราะสนามโปโลเป็นอะไรที่พระองค์ทรงแฮปปีที่จะเข้าร่วม ได้ควบขี่ม้าพุ่งทะยาน โดยอยู่ในกางเกงขี่ม้าสีขาวรัดรูปกับเสื้อปลดกระดุมอวดแผงอก แล้วก็ออกท่าแมนๆ เคียงข้างกับสมาชิกอื่นๆ ในทีม”
แต่ในส่วนของดัชเชสเมแกน ผู้เชี่ยวชาญจูดี เจมส์ บอกว่า “เมแกนดูว่าจะมีความมั่นใจน้อยกว่าปกติในตอนที่เธอเดินเคียงข้างปรินซ์แฮร์รีช่วงก่อนเริ่มการแข่งขันน่ะค่ะ ดังเห็นได้ว่าเธอกอดอกบ่อยๆ ซึ่งทำให้ท่าทีของเธอดูเหมือนจะหย่อนเชื่อมั่นในตนเองลงไปหน่อย”
นักวิจารณ์มากมายบนโลกออนไลน์ก็มีความเห็นตรงกับผู้เชี่ยวชาญจูดี เจมส์ โดยมีเยอะที่ฟันธงว่า เมแกน มาร์เคิล กลัวจะสูญเสียพระสวามี และมีบ้างที่วิเคราะห์ว่าเธอไม่สบายใจกับชุดเปิดท้องบริเวณซี่โครง โดยตอนที่เธอเลือกชุดนี้ เธออาจจะอวดว่าลำตัวของเธอผอมเพรียวแล้ว หลังจากได้ใช้ความพยายามรีดไขมันบริเวณลำตัวอยู่นานหลายไตรมาส จนกระทั่งสำเร็จ แต่เมื่ออยู่ในงานก็อาจจะเกิดความไม่มั่นใจ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ตามมาคือ ชุดของเธอต้องสวมแบบโนบรา ซึ่งย้ำความจอแบนชัดเจนเหลือเกิน และแม้เมแกน มาร์เคิลจะชอบคอนเซ็ปต์จอแบน ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กวัยรุ่นเปราะบาง ร่างเพรียว แขนผอม และขายาวเป็นหลายไมล์ แต่เมื่ออยู่ท่ามกลางบรรดาอิสตรีทั้งหลายที่จอตู้มอวบอูม ซึ่งจะได้รับความชื่นชมจากสายตาของบรรดาสุภาพบุรุษ มันย่อมเป็นธรรมดาถ้าเธอจะถูกครอบงำด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ
ทรวดทรงของ ดร.โซฟี ชันดาอูกา นักกฎหมายและนักการเงินสตรีชาวซิมบับเว อาจเป็นต้นเหตุของปรากฏการณ์ที่ เมแกน มาร์เคิล ไม่สามารถยอมให้ด็อกเตอร์ไปยืนโอบเอวปรินซ์แฮร์รีขณะเข้าฉากถ่ายภาพแสดงความยินดีเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่ง เพราะด็อกเตอร์มีจอตู้มอวบอูม อีกทั้งยังมีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยชุดสีขาวที่สอบจากทรวงอก ลงไปรัดรูปบริเวณลำตัวอันผอมบาง ก่อนจะขยายผายไปสู่สะโพกและก้นกอย
เมแกน มาร์เคิล อดใจไม่อยู่ “หลุดความจอมบงการ” ให้ชาวโลกได้อึ้ง ทั้งที่ไปงานแข่งโปโล หมายจะสร้างอิมเมจงดงามเพื่อช่างกล้องจะได้เก็บซีนสวยๆ ไปใช้ในซีรีส์ใหม่
หลังจากที่ปรินซ์แฮร์รีทรงไม่ประสบความสำเร็จในการกดดันให้คิงชาร์ลส์ที่ 3 พระราชทานความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อแก้ปัญหาแหล่งรายได้สำคัญหดหายในปี 2023 โดยพระราชบิดาผู้ทรงถูกกล่าวถึงว่าเป็น ‘เสด็จพ่อเอทีเอ็ม’ ส่วนพระองค์ของปรินซ์แฮร์รี ทรงไม่เปิดโอกาสให้ปรินซ์เข้าถึงองค์ได้ ไม่ว่าจะแบบพบกันองค์เป็นๆ หรือสนทนากันทางโทรศัพท์ และแม้พระโอรสผู้ทรงพระเกรียนและห้าวเป้งใส่พระราชบิดา จะได้เข้าเฝ้าหนึ่งวาระเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งต่อเนื่องด้วยการรณรงค์รีแบรนด์พระภาพลักษณ์อย่างเอิกเกริก ในอันที่จะเสด็จกลับลอนดอน มาเป็น “พระราชวงศ์พาร์ทไทม์” แต่ก็ล้มเหลวนั้น
ปรินซ์แฮร์รี และพระชายาเมแกน ก็ปุบปับว่าจะต้องกระเด้งขึ้นมาสร้างผลิตภัณฑ์ซีรีส์สารคดี 2 โปรเจกต์เพื่อป้อนแก่เน็ตฟลิกซ์ จอมยักษ์ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหนังและเพลงแก่ชาวโลก ผู้เป็นเจ้าหัวใจของทั้งสองพระองค์ ตามสัญญาธุรกิจ 5 ปี 100 ล้านดอลลาร์ โดยในรายงานข่าวแบบไม่ยืนยันที่ออกมาตั้งแต่ปี 2021 ว่าทรงได้รับเงินล่วงหน้าไปก้อนใหญ่แล้ว กระนั้นก็ตาม 4 ปีที่ผ่านมา ทรงสร้างผลงานได้แค่ 3 ชุดและทำรายได้พลาดเป้าตลอด
ในการนี้ ‘โปรเจกต์ปุบปับ’ รายการแรกภายใต้ความรับผิดชอบของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เป็นเรื่องราวของไลฟ์สไตล์ว่าด้วยความสุขจากการครัว การสวน การบันเทิง และมิตรภาพ โดยจะผนวกและอิงอยู่กับโครงการในอวกาศของดัชเชสที่จะขายสารพัดสินค้าหรู ราคาแพงลิ่ว ทั้งอาหาร หม้อกระทะโถโอชาม เครื่องใช้ในห้องอาหาร ภายใต้แบรนด์ American Riviera Orchard พร้อมทั้งรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
โดยที่ว่าแบรนด์ ARO มีการประกาศข่าวอย่างเอิกเกริกในวันเดียวกันกับ (พร้อมทั้งยังตัดหน้า) พระอีเวนต์ใหญ่ของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม มาได้เกือบเดือนแล้ว แต่ก็มีแค่ผ้าเช็ดหน้าปักโลโก้ H&M หนึ่งผืนบนเว็บไซต์โล่งๆ กับอินสตาแกรมโล่งๆ ท่านผู้ชมพากันคิดว่าคงเทโครงการทิ้งไปแล้ว
และอีกหนึ่งโปรเจกต์ปุบปับภายใต้ความรับผิดชอบร่วมระหว่างปรินซ์แฮร์รีกับดัชเชสเมแกน เป็นโชว์เล่าอินไซด์แห่งโลกหลังฉากของกีฬาแข่งขันโปโล ต้องอย่างไรจึงจะชนะ ต้องอย่างไรจึงจะทำรายได้เป็นถุงเป็นถัง ไปจนถึงมิติของเซ็กซ์ และชื่อเสียงกับชีวิตอันหรูหราของนักกีฬา
ทั้งสองโปรเจกต์ปุบปับนี้จะออกสู่ตลาดภายในปี 2024
นิตยสารเดอะคัท นิตยสารออนไลน์สำหรับผู้หญิง รายงานถึงเรื่องเด่นของปรินซ์และดัชเชสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2024 ว่าโปรเจกต์ซีรีส์สารคดีสองชุดภายใต้การดำเนินงานของบริษัทอาร์ชแวลล์ โปรดักชันส์ อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับคนอเมริกันที่เอือมหนักกับคอนเทนต์ของอดีตพระราชวงศ์อังกฤษทั้งสอง
เดอะคัท นำเสนอแบบขำๆ แซวๆ ว่าหากท่านผู้อ่านยืนอยู่ในค่ายที่เชื่อว่าพวกเราบริโภคคอนเทนต์ของอดีตพระราชวงศ์อังกฤษทั้งสองนี้จนล้นคอแล้ว เดอะคัทมีความเสียใจที่จะแจ้งทราบว่าโปรเจกต์ทีวีและภาพยนตร์จากคุณดัชเชสและสหาย จะทะลักทลายลงมาท่วมพวกท่านอีกอย่างล้นหลามจนถึงปีหน้า
สำหรับซีรีส์สารคดีด้านไลฟ์สไตล์ เดอะคัทให้ข้อมูลว่าเมแกน มาร์เคิล จะเป็นหนึ่งในทีมผู้อำนวยการสร้างและบริหาร และซีรีส์นี้อาจจะดันให้เธอกลายเป็น “มาร์ธา สจ๊วต” คนต่อไปในอนาคต
ส่วนซีรีส์ที่สองซึ่งจะเจาะเบื้องหลังแห่งความทรหดและคลั่งไคล้ของกีฬาขี่ม้าโปโลมืออาชีพ ที่ยังไม่เคยมีการนำเสนอมาก่อน เริ่มถ่ายทำเก็บภาพอย่างละเอียดตลอด 3 วันแห่งแมตช์แข่งขันขี่ม้าโปโลระดับสุดยอดสองรายการซ้อน ในเมืองเวลลิงตัน ใกล้ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา คือ ทัวร์นาเมนต์การแข่งขันโปโลการกุศล Royal Salute Polo Challenge to Benefit Sentebale ของปรินซ์แฮร์รี (12 เมษายน) ณ สนามสโมสรแกรนด์แชมเปียนส์โปโลคลับ กับมหกรรมวันชิงแชมป์ US Open Polo Championship (14 เมษายน) ซึ่งซดกันที่สนามกลางศูนย์โปโลแห่งชาติ National Polo Center หนึ่งในอีเวนต์หลักของซีรีส์
ดังนั้น โปรเจกต์ทั้งคู่นี้จึงเริ่มดำเนินการอย่างฉับไวสมใจเน็ตฟลิกซ์ ประกาศข่าววันที่ 11 เมษายน ก็เดินกล้องวันที่ 12 เมษายน (แม้ว่าทุกสิ่งอย่างยังมีแค่โครงย่อๆ ยังปราศจากแผนดำเนินงาน วันกำหนดฉาย หรือกระทั่งชื่อเรื่อง) โดยเป็นการเก็บภาพและคลิปบรรยากาศการแข่งขัน ตลอดจนลีลาขี่ม้าขั้นเทพของปรินซ์แฮร์รี อีกทั้งชั้นเชิงที่ปรินซ์ทรงควบม้าเข้าหวดลูกตุงประตู เป็นแต้มแรกของแมตช์กันเลยทีเดียว
ในเวลาเดียวกัน ก็เก็บภาพและคลิปคอนเทนต์มิตรภาพ ที่เป็นหนึ่งในสี่ประเด็นหลักของซีรีส์ไลฟ์สไตล์ของดัชเชสเมแกน ผู้ซึ่งถูกสื่อมวลชนเมาท์มอยหนักหนามาเนิ่นนานว่า ดัมป์ทิ้งเพื่อนรักเพื่อนสนิทเพื่อนผู้มีอุปการคุณไปเป็นโหลแล้ว
กล้องเก็บช็อตมิตรภาพน่ารักระหว่างดัชเชสเมแกนกับเซเรนา วิลเลียมส์ เพื่อนสนิทระดับซูเปอร์สตาร์เพียงคนเดียวที่ไปปรากฏตัวในอีเวนต์โปโลการกุศลของปรินซ์แฮร์รีที่เวลลิงตัน
พร้อมกันนั้น ยังมีคลิปมากมายในคู่เฟรนด์ชิพมิตรภาพระหว่าง ดัชเชสเมแกนกับสุดสวยเดลฟีนา บลาเกียร์ นางแบบระดับประเทศของอาร์เจนตินาและศรีภรรยาของ นาโช ฟิกูเอราส ซูเปอร์สตาร์กีฬาขี่ม้าโปโลระดับโลก ซึ่งโด่งดังมาเนิ่นนาน กระทั่งได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์มากมาย รวมถึงโปโล ราล์ฟ ลอเรน โดย นาโช เป็นพระสหายสนิทของปรินซ์แฮร์รี และร่วมอีเวนต์แข่งโปโลการกุศลเพื่อระดมทุนดำเนินงานให้แก่องค์การกุศลเซนเทบัลลีมาตั้งแต่แรกตั้งจดจนปัจจุบัน
ดังนั้น พระชายาเมแกนก็ย่อมจะเตรียมตัวเตรียมใจเข้ากล้องอย่างไฉไลโดดเด่นที่สุด
ในวันดังกล่าว ท่านผู้สนับสนุนการกุศลดีงามของ Sentebale จำนวนรวมได้เกือบ 300 คน ซึ่งซื้อบัตรเข้าชมแมตช์สำคัญของปรินซ์แฮร์รี (ณ สนนราคาการกุศลท่านละ 1,600 ดอลลาร์ สรอ. หรือประมาณ 59,000 บาทต่อหัว) จะได้เห็นบรรยากาศคึกคักของทีมถ่ายทำภาพยนตร์ในสังกัดเน็ตฟลิกซ์รวมสิบกว่าชีวิตที่แห่ตามปรินซ์และพระชายากันเป็นขบวน เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ดิเอ็กซ์เพรสรายงาน
ยิ่งในส่วนที่เป็นเหตุการณ์บนเวทีด้วยแล้ว ทีมถ่ายทำได้บันทึกภาพไว้อย่างละเอียด เช่น กิมมิกที่ดัชเชสเมแกนขึ้นเวทีเพื่อมอบถ้วยรางวัลแก่ทีมผู้ชนะเลิศ โดยมอบแก่ปรินซ์แฮร์รีซึ่งมิใช่กัปตันทีม และปรินซ์ทรงเล่นมุกเล็กน้อย โดยทรงชี้ที่พระองค์เองพลางหัวเราะ “ให้ผมเหรอ” หลังจากมอบถ้วยกันแล้ว ดัชเชสก็ทำการจูบบนเรียวปากของพระสวามีในลีลาที่ดิเอ็กซ์เพรสบอกว่า จูบดูดดื่มแบบหนังอเมริกันเพื่อให้กล้องจับภาพตามคิว
ด้วยเหตุนี้ นาทีอัปยศที่เกิดขึ้นหลังช็อตจุมพิตหวานซึ้ง อันเป็นความอัปยศซึ่งเมแกน มาร์เคิล คือ หลุด อย่างชนิดที่เจ้าตัวก็คงไม่อยากให้อภัยตนเองนั้น ถูกบันทึกในกล้องถ่ายภาพยนตร์ของทีมเน็ตฟลิกซ์เป็นที่เรียบร้อยแน่นอน
ยิ่งกว่านั้น อาจจะมี “หลุดน่าเกลียด” ในโมเมนต์อื่นๆ อีกที่ถูกถ่ายเก็บเป็นสต๊อก ในช่วงวันส่งพระสหายของปรินซ์แฮร์รีกลับประเทศ และในวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน อันเป็นวันชิงแชมป์ของมหกรรม US Open Polo Championship ที่แข่งแพ้คัดออกตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงรอบไฟนอลเดือนเมษายน
ตอนนี้จึงเหลือคำถามสำคัญว่า ถ้าหากวันใดที่ไม่อาจจะคาดเดาใจของใครได้นั้น จะมีการรวบรวมความหลุดอัปยศทั้งปวงมาจัดทำเป็นภาพยนตร์สนุกๆ ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้มหาศาลเพื่อถอนทุนกันหรือไม่ เพราะตลอดตั้งแต่ศุกร์ 12 ถึงอาทิตย์ 14 เมษายนแห่งการระดมถ่ายทำสำหรับสองโปรเจกต์ควบนั้น มันแน่นอนว่าจะมีโมเมนต์หลุดรัวๆ ภายในอารมณ์หวั่นไหวไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองของดัชเชสนางเอกแห่งซีรีส์
เน็ตฟลิกซ์เล็งจะเอาเนื้อหัวใจ “เมแกน มาร์เคิล” ดังนั้นโปรเจกต์ไลฟ์สไตล์จึงต้องเกิดอย่างด่วน กูรูวงการพระราชวงศ์ฟันธงไว้กับจีบีนิวส์
การที่จะผลิตคอนเทนต์ไปเอาเงินจากเน็ตฟลิกซ์นั้นไม่ง่ายเลย
ในปี 2020 บริษัทอาร์ชแวลล์ โปรดักชัน ของเมแกน มาร์เคิล และพระสวามีแฮร์รี เซ็นสัญญาธุรกิจกับจอมยักษ์ผู้ให้บริการสตรีมมิงหนังและเพลง แต่ไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขเกี่ยวกับผลงานและข้อกำหนดด้านการจ่ายเงิน โดยมีเพียงข่าวลือที่บรรดาสื่อชั้นนำของโลกรายงานไว้ในช่วงที่ข่าวนี้กำลังฮอตว่า เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งกำลังปลื้มในพลังการตลาดของสองอดีตพระราชวงศ์อังกฤษที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลแก่โอปราห์ วินฟรีย์โชว์ ได้จ่ายล่วงหน้าไปให้ก้อนใหญ่แล้ว
ดังนั้น จึงต้องตั้งประเด็นขึ้นใหม่ว่า การที่เน็ตฟลิกซ์จะถอนทุนคืนมาจากเมแกน มาร์เคิล และปรินซ์แฮร์รี ก็ทำท่าว่าจะไม่ง่ายพอๆ กัน โดยอาจจะถึงขั้นที่ว่า คิดโปรเจกต์ไปให้จัดทำ น่าจะเกิดผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้จริง มากกว่าที่จะรอให้มีการส่งโปรเจกต์เสนอให้พิจารณา
“ปรินซ์แฮร์รี และพระชายาแสนรักจะต้องเริ่มดำเนินงานเพื่อให้ได้เงินจากเน็ตฟลิกซ์น่ะครับ ทั้งสองมีสัญญาธุรกิจอยู่กับเน็ตฟลิกซ์ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 5 ปี
“เน็ตฟลิกซ์จะเอาเนื้อหัวใจของทั้งสองพระองค์ ดังนั้น พระชายาก็จะต้องเริ่มผลิตซีรีส์ที่เอาตนเองมาขาย เป็นเรื่องไลฟ์สไตล์และการครัว” ดิเอ็กซ์เพรสรายงานคำกล่าวนี้ของ ไมเคิล โคล์ นักวิจารณ์พระราชวงศ์ ที่ให้สัมภาษณ์แก่เว็บไซต์ข่าวทีวี ช่องจีบีนิวส์ เมื่อศุกร์ที่ 12 เมษายน
ซึ่งประโยคดังกล่าวเป็น “วรรคทองประโยคเพชร” ที่บรรดาสื่อจอมอิทธิพลประเภทตาผีจมูกมดสังหรณ์ได้ว่า อดีตซีเนียร์ของโทรทัศน์บีบีซีและเซียนเก๋าแห่งวงการข่าวพระราชสำนัก จะต้องได้ข่าวลึกสุดลับที่ปังๆ แรงๆ ระหว่าง “ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์” กับ “เน็ตฟลิกซ์” ซึ่งขึ้นชื่ออย่างยิ่งในความเขี้ยวเชิงธุรกิจและกำลังต่อสู้หนักเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ทางการเงิน จีบีนิวส์จึงขอสัมภาษณ์ออกรายการข่าวโดยทันที
“เน็ตฟลิกซ์ต้องการผลตอบแทนกลับคืน ดังนั้น เมแกน มาร์เคิล กับพระสวามี จะต้อง ‘เอาตัวเองไปขาย’ เพื่อทำให้สองโปรเจกต์ซีรีส์ของพระองค์ทำรายได้มหาศาล” ดิเอ็กซ์เพรสรายงานอย่างนั้น
พร้อมนี้ ดิเอ็กซ์เพรสยังโค้ดคำพูดของไมเคิล โคล มานำเสนออย่างละเอียดว่า
“เน็ตฟลิกซ์อนุมัติสัญญาธุรกิจ 100 ล้านดอลลาร์แก่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ไปนานแล้ว ตอนนี้เน็ตฟลิกซ์ต้องการผลตอบแทนกลับคืน พวกเขาไม่ได้ให้เงินทั้งหมดนั่นไป เพื่อที่จะไม่ได้รับอะไรตอบแทน”
ไมเคิล โคล กล่าวในตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ด้วยว่า จุดขายสำคัญของปรินซ์แฮร์รี และเมแกน มาร์เคิล ยังคงเป็นเรื่องราวของตนเอง เพราะในความเป็นราชนิกุลโดยสายเลือด ปรินซ์ขยับทำอะไร ก็ยังขายได้เรื่อยๆ
ดังนั้นทั้งสองพระองค์จึงต้องขยันขันแข็ง เพราะจำเป็นที่จะต้องหารายรับมหาศาลเพียงพอที่จะจุนเจือชีวิตที่เต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายราคาแพงทั้งปวง
ไม่ว่าจะค่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบรนด์เนม ค่าผ่อนพระตำหนัก ค่าเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตเหมาลำทุกทริป และที่สำคัญมากคือ ค่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยซึ่งสูงลิ่ว เพราะจ้างกัน 3 กะตลอดวันตลอดคืน โดยวางกำลังคนไว้มากมายตามจุดต่างๆ ทั่วพื้นที่ 5 เอเคอร์ หรือเกือบ 13 ไร่ของพระตำหนัก มันผลาญเงินสาหัสอย่างยิ่ง นักวิจารณ์พระราชวงศ์รุ่นเก๋าชี้ปัญหาไว้อย่างนั้น
นอกจากนั้น ยังขยายเพิ่มเติมด้วยว่า “การถ่ายทำจะไม่เกิดขึ้นในพระตำหนักมอนเตซิโต การถ่ายทำจะไปดำเนินการกันที่คฤหาสน์หรูหราสุดๆ ใกล้ๆ กัน ไม่ใช่ที่พระตำหนักของปรินซ์แฮร์รีแน่ครับ”
กล่าวโดย ไมเคิล โคล ผู้ซึ่งบอกเป็นนัยอย่างสุภาพว่า เน็ตฟลิกซ์ไม่สามารถรอให้คู่สัญญาลอยชายไปเรื่อยๆ และทำการจิกให้อดีตสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษลุกขึ้นมาสร้างผลิตภัณฑ์ให้แก่เน็ตฟลิกซ์ ภายในเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่ถึงปีก่อนที่สัญญาธุรกิจก็จะหมดอายุลงในปี 2025 ทั้งนี้ อาจจะเพื่อหลีกเลี่ยงการฟ้องร้องปมผิดสัญญา เพราะมันจะอื้อฉาวโดยไม่จำเป็น โดยอาจมีการหารือกับพระราชสำนักบัคกิงแฮมถึงแนวทางแก้ไขกันแล้วด้วยซ้ำไป จอมเก๋าอย่าง ไมเคิล โคล จึงได้เบาะแสมาแพลมสู่แวดวงท่านผู้ชม
อายุสัญญาผ่านไป 4 ปีแล้ว มีผลงานออกมาแค่ 3 ซีรีส์ โดยซีรีส์แรกออกมาในเดือนธันวาคม 2022 ชื่อว่า “Harry and Meghan” ซึ่งมีเนื้อหาถล่มสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษอย่างหยุมหยิมแต่สุดยอดที่จะจาบจ้วง แล้วก็ถูกวิจารณ์ว่าน่าผิดหวัง เพราะเต็มไปด้วยการรีไซเคิลประเด็นเก่าๆ หนำซ้ำยังเดินเรื่องได้น่าเบื่อ ความสำเร็จด้านรายได้ของซีรีสนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยไม่สามารถไปถึงอันดับท็อป 200 แห่งสุดยอดโชว์ที่มีคนแห่กันมาจ่ายเงินเพื่อสตรีมไปดูสูงสุด 200 โชว์แรกในรอบบัญชีครึ่งปีของเน็ตฟลิกซ์ ระหว่างมกราคมถึงมิถุนายน 2023
เดอะซันรายงานพร้อมกับบอกด้วยว่า พอถึงเดือนสิงหาคม 2023 ซีรีส์สารคดีของปรินซ์แฮร์รี เรื่อง “Heart of Invictus” ก็ออกสู่ตลาด ซึ่งเดอะซันให้ข้อมูลว่าผลงานในด้านของรายได้นั้น คือ แผ่วอย่างยิ่ง
สำหรับผลงานการผลิตซีรีส์อีกหนึ่งโปรเจกต์ของอาร์ชแวลล์ โปรดักชัน คือ “Live to Lead” ที่เปิดให้ท่านผู้ชมจ่ายเงินสตรีมดูได้เมื่อ 31 ธันวาคม 2022 ก็ละม้ายกับ Heart of Invictus คือเรื่องราวดีงาม แต่ยอดผู้จ่ายเงินไปสตรีมมาดูมาชมนั้นน้อยนัก
“เหมือนจะไปกรีดเอาเลือดออกมาจากหิน”: สองโปรเจกต์เน็ตฟลิกซ์ของเมแกน มาร์เคิล และปรินซ์แฮร์รีถูกเย้ยจากนักวิจารณ์ว่า “ไม่สามารถจะประสบความสำเร็จ”
เมแกน มาร์เคิล และปรินซ์แฮร์รี ถูกกระหน่ำวิพากษ์เลือดสาดหลังตกเป็นข่าวว่าจะสร้างซีรีส์ใหม่สองโปรเจกต์ป้อนแก่เน็ตฟลิกซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมที่ว่าเนื้อหาของซีรีส์เป็นประเด็นที่ดาษดื่น และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่เน็ตฟลิกซ์ หนำซ้ำยังจะเป็นเรื่องไม่เอาไหนใหม่ล่าสุดที่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จะสาดความเฉิ่มเข้าใส่ท่านผู้ชม
“อดีตพระราชวงศ์อังกฤษทั้งคู่นี้ทำเหมือนจะไปกรีดเอาเลือดออกมาจากหิน” เอ็มมา เวบบ์ ผู้อำนวยการองค์การ Common Sense Society เอ็นจีโอส่งเสริมศักยภาพของพลเมืองอเมริกันผ่านการมีส่วนร่วมในภาคประชาสังคม วิจารณ์ไว้อย่างนั้นในรายการข่าวโทรทัศน์ช่องจีบีนิวส์ ซึ่งเป็นสำนวนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จ
ผู้อำนวยการเอ็นจีโอ Common Sense Society ฟันธงด้วยว่าโปรดักชันใหม่คู่นี้จะเป็นเรื่องเสร่อใหม่ล่าสุดจากดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์
“บางคนอาจจะตามดูผลงานสองซีรีส์นี้เพราะสนใจจริงๆ แต่บางคน อย่างเช่นดิฉัน จะดูผาดๆ เพราะแค่อยากจะเห็นเรื่องเสร่อโง่ๆ รายการล่าสุดของเมแกน และปรินซ์แฮร์รี”
ด้านแอมมี นิกเคลล์-เทิร์นเนอร์ นักวิจารณ์ข่าวคนดังของแฟนทีวีและแฟนพอดแคสต์กล่าวกับจีบีนิวสส์ว่า “เน็ตฟลิกซ์เก่งทีเดียวที่สามารถดึงเอาคอนเทนต์ออกมาจากสองอดีตพระราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งดูเผินๆ เหมือนจะเป็นคอนเทนต์ขยะ แต่ในเมื่อเน็ตฟลิกซ์เลือกใช้ทีมผู้ผลิตทีมเดียวกับซีรีส์คุณภาพดีอย่าง Chef’s Table and Pepsi และ Where’s My Jet? ซีรีส์ของเมแกน มาร์เคิล น่าจะโอเคค่ะ แต่เราก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วย เพราะเราไม่รู้เลยว่าเมแกนทำอาหารเป็น เธอคงจะมีเชฟเก่งๆ อยู่ในทีมมั้งคะ”
นอกจากนี้ ยังมีนักวิจารณ์ออกมาให้คำแนะนำแก่ดัชเชสเมแกนของปรินซ์แฮร์รีว่า ในคลิปโฆษณา America Riviera Orchard นั้น เธอควรจะต้องไม่ลืมว่าถ้าเธอจะผลิตอาหารจากครัว ออกขายแก่สาธารณชน เธอจะเดินไปเลี้ยงสุนัขที่หลังบ้านไม่ได้หรอก หน่วยงานอาหารและยาจะไม่ออกใบมาตรฐาน อ.ย.ให้ นอกจากนั้น การเข้าครัวด้วยชุดสีอ่อน โดยไม่มีผ้ากันเปื้อน ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะส่งเสริมให้เธอดูน่าเชื่อถือว่าเป็นมืออาชีพด้านการครัว
ส่วนดิเอ็กซ์เพรสนำเสนอความเห็นของผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ อินกริด ซิวเวิร์ด ว่าดัชเชสเมแกนไม่เคยมีชื่อเสียงด้านการทำสวน ซึ่งไม่เหมือนกับสมเด็จพระราชินีคามิลลา ที่ทรงได้รับคำเล่าลือและความยกย่องว่าทรงหลงใหลกับชีวิตทำสวนสวยไว้อย่างมากมายตลอดหลายๆ ปีที่ผ่านมา
กูรูซิวเวิร์ดจึงชี้ว่าการที่ดัชเชสเมแกนต้องมาแสดงโชว์ในประเด็นการครัว การสวน และมิตรภาพ แสดงให้เห็นว่าเธอจนตรอกทีเดียวที่ลงมาเล่นในเรื่องที่ไม่ใช่ความถนัด
“มันเป็นอะไรที่จนตรอกนะคะ แม้เราไม่ควรติเรือทั้งโกลน แต่ดิฉันน่ะคลางใจเหลือเกินว่าเธอจะรู้อะไรในเรื่องการทำสวน
“และเธอก็โด่งดังด้านการเสียเพื่อน มากกว่าการได้เพื่อนใหม่ การจะฟังเธอพูดถึงประเด็นมิตรภาพ มันก็ฟังแปลกๆ นะคะ” ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์กล่าวอย่างนั้นกับเดอะซัน
ในข่าวของเดลิเมลออนไลน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2024 มีสกู๊ปชิ้นใหญ่ที่นำเสนอลิสต์เพื่อนรักเพื่อนแท้เพื่อนสนิทและเพื่อนผู้มีอุปการคุณของเมแกน มาร์เคิล เกือบ 10 คนที่ถูกเธอโละทิ้งหลังจากที่หมดผลประโยชน์ในระหว่างกัน
พร้อมนี้ ต้องไม่ลืมด้วยว่าความอื้อฉาวของเมแกน มาร์เคิล ด้านการเสียเพื่อนเพราะถูกเพื่อนซุปตาร์และไฮโซเทกระจาดกันแทบจะทั้งวงการ ก็หนักหนาเช่นกัน
ซูเปอร์สตาร์เคที เพร์รี กับออร์แลนโด บลูม นักแสดงสุดหล่อจากอังกฤษ เป็นคู่เซเลบคนดังที่ตีชิ่งแล้วแน่นอน โดยคฤหาสน์ของคนดังทั้งสองตั้งอยู่ใกล้เคียงกับพระตำหนักซัสเซกซ์ แต่ก็มิได้ไปมาหาสู่กัน
นิตยสารพีเพิลเล่าว่า เคที เพร์รี กับความเป็นพระสหายก๊วนมอนเตซิโต ปรากฏอยู่แค่ราวเดือนมกราคม 2023 แต่ภายหลังต่อมามีข่าวสะพัดออกไปในวงกว้างว่าเคทีและออร์แลนโด กลายเป็นอีกหนึ่งคู่เซเลบที่ผละออกจากแวดวงดัชเชส ก่อนที่เซเลบรายอื่นๆ จะทยอยถอยออกมา
“ในช่วงหนึ่ง เคทีเคยสนิทกับดัชเชสและปรินซ์ค่ะ แต่เธอเดินทางบ่อย ก็จึงยากจะรักษามิตรไมตรีสนิทสนมไว้ได้” แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกเดลิเมลออนไลน์อย่างสุภาพรอมชอม ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า “เคทีตอบรับไปแสดงในคอนเสิร์ตฉลองพระบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ ก็อาจเป็นได้ว่าเธอเลือกข้างแล้วหรือเปล่าก็ไม่ทราบ”
ด้านดิเอ็กซ์เพรซ รายงานว่ายังมีเซเลบแห่งฮอลลีวูดระดับบิ๊กสตาร์อื่นๆ อีก ซึ่งเป็นที่ทราบกันแบบวงในสุดๆ ว่าหมดใจกับเมแกน มาร์เคิล โดยนำข้อมูลคำให้สัมภาษณ์ของพอลลา เฟรอลิค นักข่าวหลักของสื่อทีวีอเมริกัน นิวส์เนชัน ซึ่งให้ชื่อซูเปอร์สตาร์ที่เลิกราเลิกคบไปแล้วสองราย
ได้แก่ ร็อบ โลว์ พระเอกมากฝีมือและรักษาความหล่ออมตะได้อย่างยั่งยืน ร็อบ โลว์มีผลงานการแสดงภาพยนตร์มากมาย เช่น St. Elmo’s Fire และ About Last Night และอีกคนหนึ่งคือ “จูเลีย ลูอีส์-เดรย์ฟัส” ดาวตลกสาวคนดังขวัญใจคอซีรีส์ทั่วโลกจากซิทคอมเรื่อง เซนเฟลด์ และเรื่องวีป
ดิเอ็กซ์เพรซชี้ไว้ด้วยว่าซูเปอร์สตาร์ชั้นนำแห่งฮอลลีวูด ที่ตีตัวออกห่างนั้น ล้วนเป็นผู้ที่มีคฤหาสน์ใกล้ๆ กับพระตำหนักมอนเตซิโตที่มั่นของเมแกนนั่นเอง
จับตากลยุทธ์เน็ตฟลิกซ์ จะตั้งเป้าแค่ขอถอนทุนได้บ้างจากผลงานของเมแกน มาร์เคิล และปรินซ์แฮร์รี หรือแท้จริงนั้นจะมีทีเด็ดด้านรายได้ที่คาดไม่ถึง
ผลิตภัณฑ์ผลไม้ของเมแกน มาร์เคิล ล้มเหลวตั้งแต่เปิดตัวหรือเปล่า มีเพียงสตรี 3 ท่านซึ่งมิใช่ซุปตาร์หรือคนโด่งดังที่ออกมาเชียร์แยมผลไม้ American Riviera Orchard กระปุกละเกือบหมื่นบาท จากยอดทั้งหมด 50 ราย ที่เมแกน มาร์เคิล ส่งแยมตัวอย่างไปให้ชิมให้เชียร์ มอรีน คัลลาแฮน คอลัมนิสต์อเมริกันคนดังของเดลิเมลออนไลน์ ตั้งคำถามได้ตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง
อันได้แก่ เทรซี รอบบินส์ ภรรยาของซีอีโอแห่งพาราเมาท์ พิจเจอร์ส กับ เดลฟีนา บลาเกียร์ ภรรยาของนาโช ฟิกูเอราส พระสหายสนิทของปรินซ์แฮร์รี ซึ่งความโด่งดังของทั้งสองอยู่ที่คุณสามี ส่วนรายที่สามเป็นอินฟลูเอนเซอร์กลุ่มคุณแม่ นามว่า เคลลี แมคคี ซาจเฟน ซึ่งมีชื่อเสียงอยู่บ้างที่ด้านนอกวงซูเปอร์ไฮโซของเมแกน มาร์เคิล
นอกจากนั้น ยังมีคำถามเจ้าปัญญาและสำคัญอีก 2 ประเด็นว่า พระชายาของปรินซ์แฮร์รี อาจจะมีผู้รับมากกว่า 50 รายก็เป็นได้ เพราะตัวเลข 50 นี้ ทุกคนรับรู้จากภาพฉลากขวดแยมว่า 3 ท่านที่ออกมาเชียร์บนโซเชียลมีเดีย ได้รับผลิตภัณฑ์ตัวอย่างเป็นลำดับที่ .../50
ทั้งนี้ หากว่าส่งตัวอย่างไปสัก 300 ราย แต่กองเชียร์ปรากฏตัวแค่ 3 ราย ลางร้ายของธุรกิจดัชเชส ARO ก็ยิ่งน่าเป็นห่วง นั่นเป็นประเด็นที่ 1/2
ส่วนประเด็นที่ 2/2 เมแกน มาร์เคิลส่งของตัวอย่างกระปุกละเกือบหมื่นบาทนี้ให้กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์กี่ราย และให้กลุ่มซูเปอร์สตาร์ที่เคยชื่นมื่นสนิทสนมกันกี่ราย
ทั้งนี้ สหายสนิทมากมาย รวมทั้งที่เป็นเพื่อนบ้านไฮโซแห่งมอนเตซิโตด้วย อย่าง โอปราห์ วินฟรีย์ เอลเลน ดีเจนเนอเรส แอนนา วินทัวร์ คิม คาร์เดเชียน อยู่ในกลุ่มเป้าหมายเพื่อการโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือไม่ และซุปตาร์เหล่านี้ไม่สะดวกที่จะก้าวออกมาเป็นกองเชียร์หรืออย่างไร เพราะห้วงเวลานี้ที่คิงชาร์ลส์และเจ้าหญิงเคท ผู้เป็นพระราชสุณิสา อยู่ระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง ย่อมไม่ใช่เวลาอันเหมาะสมแก่การออกโรงเชียร์ดัชเชสเมแกนที่เคยใส่ร้ายป้ายสีโจมตีทั้งสองพระองค์ไว้อย่างมหาศาล มอรีน คัลลาแฮน ตั้งคำถามไว้อย่างนั้น
วี่แววแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ American Riviera Orchard จึงไม่สดใสเอาเลย และอันที่จริง การขายสินค้าในตลาดซูเปอร์ไฮโซ เจ้าของแบรนด์ที่ถูกสาธารณชน “ยี้” ใส่สาหัสกระทั่งว่า ระดับความป็อปปูลาร์ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหลือเกิน ก็ยากจะได้รับการอุดหนุน แม้แต่ซุปตาร์วงการเทนนิส เซเรนา วิลเลียมส์ ที่เห็นแก่ปรินซ์แฮร์รี และเดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลของเซนเทบัลลี ก็มิได้ออกมาช่วยชมช่วยเชียร์แต่อย่างใด
นี่ยังไม่นับรวมไปถึงปัจจัยที่เมแกน มาร์เคิล ถูกสหายไฮโซและซุปตาร์ “เท” อย่างระนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์นี้ที่มีการโปรโมตตัวเอง ด้วยคำว่า ปรินเซสเมแกน (ซึ่งไม่ถูกต้อง) แถมไปกับการเชียร์แยมกระปุกละหมื่นบาท (เพราะถ้าเมแกน มาร์เคิล จะใช้สิทธิความเป็นปรินเซสในฐานะที่สามีเป็นปรินซ์ เธอก็ต้องเรียกตนเองว่า ปรินซ์เมแกน สถานเดียว) มหาเศรษฐีชาวเซเลบริตี ก็ยิ่งไม่อยากเปลืองตัวไปกับเธอ
ที่ผ่านมาหลายไตรมาส เมแกน มาร์เคิล จะไปไหนจะทำอะไรก็ต้องไปทำกับช่างทำผมบ้าง ดีไซเนอร์เสื้อผ้าที่อุดหนุนกันบ้าง พนักงานในเครืออาร์ชแวลล์บ้าง
สถานการณ์ไม่ดีเหล่านี้ เป็นอะไรที่ทราบกันทั่วไปมาเนิ่นนาน และสถานการณ์ของเมแกน มาร์เคิลที่กู่ไม่กลับอยู่แล้ว ก็ยิ่งย่ำแย่หนักไปอีก เมื่อเธออดใจไม่ได้และกระทำความหยาบคายต่อด็อกเตอร์เชื้อสายแอฟริกัน ผู้เป็นประธานคณะกรรมการองค์การเซนเทบัลลี
กระนั้นก็ตาม เน็ตฟลิกซ์ยังดูว่าจะเชื่อมั่นในพลังการตลาดของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ดังนั้น จะมีอะไรซ่อนอยู่ในกอไผ่ของเน็ตฟลิกซ์ที่ผู้คนคาดไปไม่ถึงหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : เดลิเมลออนไลน์ เพจซิกซ์ ไลฟ์มินต์ดอทคอม ทาวน์แอนด์คันทรี ดิเอ็กซ์เพรซ จีบีนิวส์ เดอะซัน สกายนิวส์ออสเตรเลีย เดอะคัท)