มีข่าวแพร่สะพัดว่า เทสลาระงับการส่งมอบ "ไซเบอร์ทรัก" ทั้งหมดในสหรัฐฯ หลังบรรดาผู้บริโภคส่งเสียงคร่ำครวญพบข้อบกพร่องที่อาจนำมาซึ่งการเสียชีวิต เกี่ยวกับแป้นเหยียบคันเร่งของรถกระบะไฟฟ้ารุ่นนี้
สื่อมวลชนอย่างนิวยอร์กโพสต์ และเดลิเมล เปิดเผยว่า มีข่าวปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์แหลายแห่ง ในนั้นรวมถึงตามกระดานสนทนาของบรรดาเจ้าของไซเบอร์ทรัก ระบุว่า พวกลูกค้าของรถกระบะไฟฟ้าของเทสลา ได้รับข้อความจากบรรดาตัวแทนจำหน่าย แจ้งให้พวกเขาทราบว่าขอยกเลิกหมายนัดการส่งมอบไปก่อน
ในรายงานระบุว่า ลูกค้าหลายคนได้รับแจ้งว่า การส่งมอบรถไซเบอร์ทรัคจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะผ่านพ้นวันที่ 20 เมษายน สืบเนื่องจากการเลื่อนที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ตามรายงานของเดลิเมล "ผมขอให้พวกเขาให้เหตุผลอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อความกระจ่าง แต่ถูกเพิกเฉย" ผู้ใช้รายหนึ่งในกระดานสนทนาคลับพวกเจ้าของรถไซเบอร์ทรัค เขียนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
ผู้ใช้คนอื่นๆ คาดการณ์ว่ามันน่าจะเป็น "ประเด็นเดียวกับคันเร่ง" หลังพวกเจ้าของไซเบอร์ทรัครายอื่นๆ บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์และติ๊กต็อกบ่งชี้ว่ามันมี "ข้อบกพร่องด้านการออกแบบอย่างร้ายแรง ที่พวกเจ้าของทุกคนจำเป็นต้องตรวจสอบเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมันก่อให้เกิดการเร่งเครื่องโดยไม่เจตนา สืบเนื่องจากแป้นคันเร่งที่ออกแบบมาราคาถูก"
ในติ๊กต็อกผู้ใช้นามว่า el.chepito1985 เจ้าของรถไซเบอร์ทรัค อ้างว่าแผ่นรองคันเร่งเลื่อนหลุดไปข้างหน้า กดให้คันเร่งจมไปกับพื้นและทำให้รถกระบะของเทสลาพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็งสูงสุด
จากนั้นในโพสต์ต่อมา ผู้ใช้นามว่า Garage Klub ระบุว่าเหตุการณ์ที่รถไซเบอร์ทรัคคันหนึ่งพุ่งเข้าชนป้ายของโรงแรมเบฟเวอร์ลี ฮิลล์ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม น่าเชื่อว่าอุบัติเหตุดังกล่าวมีต้นตอจากปัญหาแป้นคันเร่งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สรุปว่าอะไรคือต้นตอของอุบัติเหตุคราวนั้น
กระแสเสียงคร่ำครวญที่บรรดาพวกผู้เป็นเจ้าของไซเบอร์ทรัค บอกเล่าเรื่องราวเหตุขัดข้องต่างๆ ที่พวกเขาประสบพบเจอกับรถกระบะไฟฟ้ารุ่นนี้ มีขึ้นไม่นานหลังจากไซเบอร์ทรัค ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มวิ่งอวดโฉมบนท้องถนนเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ตัวแทนของเทสลายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ หลังนิวยอร์กโพสต์ติดต่อสอบถามขอความคิดเห็น
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เทสลาเพิ่งแถลงปรับลดพนักงานลงมากกว่า 10% จากที่มีอยู่ทั่วโลกราว 140,000 คน โดย อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา บอกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากของบริษัท ในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญกับยอดขายที่ตกต่ำ ท่ามกลางสงครามราคาอันหนักหน่วงสำหรับรถอีวี
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์/เดลิเมล)